ขอแสดงความนับถือ

ขอแสดงความนับถือ

 

 

อย่างที่รับรู้กันทั่วไป

“อาจารย์ธงทอง จันทรางศุ” เจ้าของคอลัมน์ หลังลับแล มีอรุณรุ่ง ในมติชนสุดสัปดาห์

เป็น “ข้าราชการ” มาไม่น้อยกว่า 35 ปี

เคยเป็นอาจารย์ที่คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เคยเป็นคณบดีของคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเดียวกัน

เคยเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม

เคยเป็น ฯลฯ

ด้วยความมีเลือด “ข้าราชการ” เต็มตัวดังกล่าว

อาจารย์ธงทองจึงมีความคุ้นเคยกับชื่อของหน่วยงาน “สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน” หรือ สตง. เป็นอย่างดี

สตง.ตกเป็นข่าวใหญ่

หลังตึกที่ทำการซึ่งกำลังก่อสร้างในพื้นที่เขตจตุจักร พังยับย่อยเป็นผุยผงไปในพริบตา หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวในวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา

มีการถามหาสาเหตุว่า เหตุใดตึกหลังนี้จึงถล่มลงมาได้

มีการทุจริตหรือความไม่ชอบมาพากลในการก่อสร้างหรือไม่

มีการแก้ไขปรับปรุงแบบก่อสร้างโดยไม่ผ่านกระบวนการที่ครบถ้วนถูกต้อง หรือไม่

มีข้อสงสัยในเรื่องวัสดุก่อสร้างที่ไม่ได้คุณภาพไม่ได้มาตรฐาน

เรื่อยไปจนถึงเรื่องผู้ควบคุมงานการก่อสร้างซึ่งเป็นกลไกที่จำเป็นต้องมีตามกฎหมาย ปฏิบัติหน้าที่โดยครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่

คำถามเหล่านี้ สตง.ที่เคยตรวจสอบคนอื่น “อย่างเข้มงวด”

จำเป็นต้องมีคำตอบให้สังคม

 

อาจารย์ธงทองบอกว่า ในฐานะ “ข้าราชการเก่า”

คุ้นเคยกับหน่วยงาน “สตง.” มาก

และมีประสบการณ์ร่วมกับ “สตง.” ในฐานะผู้ถูกตรวจสอบ มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน

โดยในความรับรู้ของคนทำงาน อาจารย์ธงทองเล่าว่า เจ้าหน้าที่จาก สตง.จะเข้ามาตรวจสอบการปฏิบัติงานของหน่วยงานของรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการเงินการทองทั้งหลาย อย่างละเอียดถี่ถ้วน

ว่าการใช้จ่ายเป็นไปโดยถูกต้องตามกฎระเบียบหรือไม่

ถ้าไม่ถูกต้อง

นอกจากการแก้ไขให้ถูกต้องแล้ว

ผู้ที่ทำไม่ถูกต้องและเป็นเหตุให้เงินหลวงต้องเสียหายตกหล่นไป

อาจต้องรับโทษในทางอาญา ในทางวินัย และชดใช้เงินคืนให้กับหลวงด้วย

นอกจากการปฏิบัติในเรื่องการเงินจะมีความครบถ้วนถูกต้องหรือไม่แล้ว

บ่อยครั้งที่เจ้าหน้าที่จาก สตง.จะตรวจสอบไปจนถึงเรื่องความคุ้มค่าและประสิทธิภาพในการใช้เงินหลวงไปทำอย่างโน้นอย่างนี้ว่ามีรูรั่วหรือไม่

หลายวาระ สตง.ตั้งคำถามและความสงสัยว่าทำไมถึงฟุ่มเฟือยกันอย่างนี้

ที่สำคัญประเด็นใดก็ตามที่ สตง.ทักท้วงขึ้น

หน่วยงานที่ถูกตรวจสอบจะปล่อยให้เงียบหายไปเฉยๆ ไม่ได้เป็นอันขาด

หากแต่มีหน้าที่ที่จะต้องแก้ไขปรับปรุงให้เป็นไปตามความเห็นของ สตง.

ถ้าเวลาผ่านไปจนถึงรอบที่ สตง.มาตรวจสอบอีกคราวหนึ่งแล้ว

ถ้าทุกอย่างยังไม่มีการแก้ไขให้ลุล่วง

อาจารย์ธงทองใช้คำว่า “คราวนี้ก็ตัวใครตัวมันแล้วล่ะครับ”

 

สะท้อนฤทธิ์เดชของ สตง.มีสูงมาก

อาจารย์ธงทองจึงมีข้อสังเกตว่า เมื่อฤทธิ์เดชของ สตง.มีถึงขนาดนี้

ใครต่อใครจึงคาดหวังว่าตัว สตง.เอง

ก็ต้องทำตัวให้ได้มาตรฐานแบบเดียวกันด้วย

มิฉะนั้นจะเป็นเรื่องตลกมากที่เจ้าตัวไปตรวจคนอื่นแล้วบอกว่าคนโน้นผิด คนนี้ผิด แต่ตัวเองทำผิดได้ ไม่เป็นไร

“…สิ่งที่ผมสนใจเป็นพิเศษ

คือประเด็นที่ สตง.ได้เคยทักท้วงหรือตั้งข้อสังเกตกับหน่วยงานของรัฐมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน

เกี่ยวกับความคุ้มค่าของการใช้เงินหลวงในกิจกรรมต่างๆ ที่เห็นได้ชัด คือการซื้อข้าวของต่างๆ มาใช้เพื่อการปฏิบัติงาน…”

แล้ว สตง.เคยตรวจสอบองค์กรหรือไม่

นี่คือสิ่งที่อาจารย์ธงทองร้องถามดังๆ ที่หน้า 68-69

เช่นเดียวกับ “มุกดา สุวรรณชาติ” ตั้งคำถามผ่านคอลัมน์ “หลักศิลากลางน้ำเชี่ยว”

สตง.รู้ทุกปัญหาโครงการใหญ่…

(จึง) ต้องรับผิดชอบ

เพราะปล่อยให้มีการทำผิด จนตึกถล่ม คนตาย •