ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 25 เมษายน - 1 พฤษภาคม 2568 |
---|---|
คอลัมน์ | หลังเลนส์ในดงลึก |
ผู้เขียน | ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ |
เผยแพร่ |
นานมาแล้วที่ผมบอกบ่อยๆ ในที่ต่างๆ รวมทั้งในงานเขียนว่า ในป่านั้น ผมเป็นคนที่ทำงาน “ง่าย” ที่สุด คือทำหน้าที่แค่กดชัตเตอร์ นำภาพสัตว์ป่าออกมาให้คนได้เห็น
ในป่ามีคนอีกจำนวนมากทำงานของพวกเขาอยู่ ทำให้เหล่าสัตว์ป่าได้มีโอกาสดำเนินวิถีไปในแหล่งอาศัย
คนจำนวนมากทำหน้าที่ดูแลปกป้องแหล่งอาศัย มีคนจำนวนไม่น้อยคร่ำเคร่งกับการศึกษา ทำความรู้จักพืชพันธุ์ไม้ รวมทั้งสัตว์ป่า ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม สัตว์ปีก สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก และแมลง พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ในป่า ในทะเล ชายหาด บนยอดดอย พื้นที่ชุ่มน้ำ
มีข้อมูลมากมายเป็นประโยชน์ต่อการจัดการกับผืนป่า
ไม่ใช่งานอันสะดวกสบาย จำเป็นต้องใช้แรงกายและแรงใจ
พวกเขาทำส่วนที่ยาก
ในขณะผมทำในส่วนที่ง่ายกว่า แต่ผมเริ่มเข้าใจว่า งานในส่วนของผม ดูเหมือนว่าจะส่งไปไม่ถึงไหน
มีสถานีวิจัยสัตว์ป่า ในป่าเมืองไทยหลายแห่ง บางแห่งอยู่ใจกลางป่าลึก คล้ายกับว่า เป็นอีกโลกหนึ่ง โลกที่มีเหล่าสัตว์ป่าเป็นเจ้าของ
มีนักวิจัยจำนวนไม่น้อยเข้ามาที่นี่ หลายคนมาจากทวีปไกลโพ้น หลายคนเป็นคนไทย
ที่นี่เป็นสถานที่ฝึกงานของนักศึกษา ทั้งจากสถานศึกษาในเมืองไทยและต่างประเทศ
นักศึกษาเหล่านั้นมาถึงและจากไป หลายคนมาอยู่นานหลายสัปดาห์ บางคนอยู่หลายเดือน ขณะบางคนอยู่แรมปี
เหล่านักวิจัย มาและจากไป แต่มีคนผู้อยู่ที่นี่ตลอดคือ เจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นลูกจ้างของสถานี
คนงานของสถานี มีเข้ามาและออกไปเช่นกัน บางคนอยู่ไม่นานก็ไปเพราะทนความเงียบเหงาไม่ไหว บางคนอยู่มานานหลายปี
หลายคนอยู่ที่นี่มากว่า 20 ปี ลุงแก่น ผู้ชายวัยใกล้เกษียณเป็นหนึ่งในนั้น
ลุงแก่นทำหน้าที่ผู้ช่วยนักวิจัย ตั้งแต่สถานีเริ่มศึกษาสัตว์ผู้ล่าขนาดเล็ก อย่าง ชะมด อีเห็น
ใช้เวลากว่าสิบปี ศึกษาเสือดาว
จากนั้นจึงเริ่มต้นกับการศึกษาเสือโคร่ง
ลุงแก่นทำหน้าที่ผู้ช่วยนักวิจัยในเกือบทุกชนิดของสัตว์ที่นักวิจัยศึกษา

เพื่อนๆ ที่ผมทำงานร่วมในป่าเกือบทุกคนมีคุณสมบัติที่เหมือนกันคือมีทักษะในการใช้ชีวิตในป่า มีประสบการณ์ รวมทั้งความรู้เรื่องสัตว์ป่า
สิ่งที่แตกต่างคือ มีคนที่ไม่ค่อยพูด เงียบขรึม ก้มหน้าก้มตาทำงานที่รับมอบหมายไปเรื่อยๆ กับคนที่พูดเยอะ
ลุงแก่นอยู่ในพวกแรก
แต่นั่นคือในเวลางาน หลังหกโมงเย็น บางสิ่งก็เปลี่ยนไป มักมีเสียงพูดคุย มีเสียงหัวเราะแทรก เป็นที่รู้กันดีว่า เป็นเวลาที่หลายคน “ได้ที่” แล้ว
“สมัยหนุ่มน่ะ ตาแก่นแกเป็นนักเลง” ป้าเบ็ง แม่ครัว ภรรยาลุงแก่นเล่า
“ตอนมาจีบก็ไม่รู้หรอก นึกว่าดีเหมือนกันมีคนมาช่วยทำไร่” ป้าเบ็งเล่าต่อ จากนั้นก็มองหน้าลุงแก่นที่นั่งล้อมวงกับเพื่อนๆ ก่อนพูด
“นี่ลุกขึ้นกลับบ้านไปกินข้าวเดี๋ยวนี้”
ลุงแก่นยิ้มแหยๆ ลุกขึ้นจากวง เดินตามป้าเบ็งกลับบ้าน ดูเหมือนลายนักเลงลุงแก่นจะจางหายไปแล้ว
หน้าที่ประจำของลุงแก่น คือ เป็นผู้ช่วยนักศึกษาที่เข้ามาทำงานวิจัย โดยเฉพาะนักศึกษาที่มาจากต่างประเทศ ความสามารถพิเศษลุงแก่นคือ สื่อสารกับนักศึกษาเหล่านั้นได้แม้ว่าจะใช้คนละภาษา
ผมไม่ค่อยมีโอกาสได้ร่วมงานกับลุงแก่นเท่าไหร่ แต่ก็คุ้นเคยกันดี ตอนเย็นๆ ผมมักไปนั่งฟังเรื่องต่างๆ ในวงสนทนา
ช่วงหนึ่งผมไม่ค่อยได้พบกับลุงแก่น เพราะแกต้องช่วยลิเดีย นักศึกษา เรื่องชะนี จากมลรัฐเท็กซัส ศึกษาเรื่องชะนี
ลุงแก่นพาลิเดียเข้าป่าตั้งแต่ก่อนฟ้าสว่าง ในวันที่สภาพอากาศแจ่มใส หลัง 6 โมงเช้า ชะนีฝูงต่างๆ เริ่มส่งเสียง แสงแดดอ่อนละมุนส่องผ่านสายหมอก
ลุงแก่นนั่งเงียบๆ เฝ้ามองชะนี จดบันทึก
ผู้ชายคนหนึ่งทำหน้าที่นี้มากว่า 20 ปี อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของคนจำนวนไม่น้อย นอกจากคนคุ้นเคยแล้วก็ไม่มีใครรู้จัก แสงแดดอ่อนละมุนยามเช้า สาดส่องไปไม่ถึงลุงแก่นที่นั่งอยู่ในเงามืด
มีคนแบบนี้กำลังทำหน้าที่อยู่ในป่าลึก, ในทะเล คล้ายกำลังทำหน้าที่อยู่ ณ อีกโลกหนึ่ง อยู่ในที่ซึ่ง “แสง” ส่องไปไม่ถึง
แท้จริง โลกในป่าลึกที่พวกเขาอยู่ กับโลกในเมือง ไม่แตกต่าง นี่คือโลกเดียวกัน
โลกที่คนเป็นเพียง “ผู้อาศัย”
แต่เรามักลืม และคิดว่า เราเป็นเจ้าของ •
หลังเลนส์ในดงลึก | ปริญญากร วรวรรณ
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022