ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 25 เมษายน - 1 พฤษภาคม 2568 |
---|---|
คอลัมน์ | หลักศิลากลางน้ำเชี่ยว |
ผู้เขียน | มุกดา สุวรรณชาติ |
เผยแพร่ |
หลักศิลากลางน้ำเชี่ยว | มุกดา สุวรรณชาติ
สตง.รู้ทุกปัญหาโครงการใหญ่…
ต้องรับผิดชอบ
เพราะปล่อยให้มีการทำผิด
จนตึกถล่ม คนตาย
สตง.มีสำนักตรวจสอบ
โครงการขนาดใหญ่โดยเฉพาะ
สํานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างโครงการขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าเกิน 1,000 ล้านบาท และโครงการร่วมลงทุน (PPP) และตรวจสอบผลสัมฤทธิ์และประสิทธิภาพของการจัดซื้อจัดจ้าง
4 กรกฎาคม พ.ศ.2567 สตง.รายงานผลการปฏิบัติงาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ต่อสภาผู้แทนราษฎร เรื่องการตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างโครงการขนาดใหญ่ พบข้อบกพร่องของโครงการขนาดใหญ่ จำนวน 21 สัญญา รวม 17 หน่วยงาน
โดยข้อบกพร่องที่พบมีดังนี้
1. ก่อสร้างไม่เป็นไปตามแบบรูปรายการที่กำหนด/ก่อสร้างไม่ครบถ้วนตามเนื้องานในสัญญา
เช่น การนำวัสดุมาใช้ในงานก่อสร้างไม่เป็นไปตามแบบรูปรายการ รวมทั้งกรณีที่ผู้รับจ้างไม่ดำเนินการตามแบบแปลนที่กำหนดไว้ หรือการก่อสร้างไม่ครบถ้วนตามเอกสารอันเป็นส่วนหนึ่งของสัญญา ซึ่งถือเป็นการก่อสร้างไม่เป็นไปตามสัญญา เป็นต้น
2. การจัดทำแบบรูปรายการของงานก่อสร้างไม่สอดคล้องกับสภาพพื้นที่จริง ไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วนตามมาตรฐานที่ทางราชการกำหนดและตามหลักวิชาช่างที่ดี
เช่น การแก้ไขเปลี่ยนแปลงแบบรูปรายการในการก่อสร้างไม่เป็นไปตามหลักวิศวกรรม กรณีไม่ปรากฏแบบรูปรายละเอียดของรายการงานทางลำเลียงวัสดุชั่วคราว
3. ผู้ควบคุมงานไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ไม่เป็นไปตามกฎหมายระเบียบ
เช่น การควบคุมงานและการตรวจรับงาน ปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายระเบียบที่เกี่ยวข้อง ไม่มีความละเอียดรอบคอบ ขาดความเอาใจใส่ ทำให้ผลงานไม่มีประสิทธิภาพ และไม่เป็นไปตามข้อกำหนดสัญญา เป็นต้น
4. รายละเอียดสัญญาหรือข้อตกลง ไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน ไม่รัดกุม ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด ไม่เป็นไปตามกฎหมายระเบียบ
5. การกำหนดราคากลางไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการกำหนดราคากลางงานก่อสร้าง
จากคำแถลงแสดงว่า สตง.รู้ทุกปัญหา และได้แจ้งผลการตรวจสอบให้หน่วยงานที่พบข้อบกพร่องดำเนินการแก้ไข
(3 เมษายน 2567 บริษัทรับเหมาก่อสร้างตึก สตง. ยังมาถ่ายรูปโชว์ความสำเร็จอยู่หน้าโครงสร้างตึก แสดงว่า ตึกที่กำลังก่อสร้างของ สตง. ไม่อยู่ในรายการบกพร่อง มิฉะนั้นคงจะพบจุดอ่อนและแก้ไขกันไปแล้ว)
สตง.บอกว่าจะตรวจสอบเชิงป้องกัน
ไม่รอให้เกิดความเสียหาย
แล้วจึงเข้ามาตรวจสอบ
วันที่ 5 มีนาคม 2568 นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ร่วมกับ ป.ป.ช. โดย นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. โดยนายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อปฏิบัติงานร่วมกันในการขับเคลื่อนการประเมินความเสี่ยงการทุจริตเชิงนโยบาย ในโครงการขนาดใหญ่ และเฝ้าระวังการทุจริตในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ มุ่งเน้นการบูรณาการข้อมูลและการป้องกันเชิงรุก
นายมณเฑียรกล่าวว่า การจัดทำโครงการขนาดใหญ่ราคา 500 ล้านบาทขึ้นไป ในปี 2566 มีทั้งหมด 93 โครงการ ปี 2567 มี 99 โครงการ ปี 2568 มี 168 โครงการ
แต่ไม่สามารถตรวจสอบโครงการทั้งหมดได้ จึงคัดเลือกโครงการที่ต้องตรวจสอบ ซึ่งในปี 2567 มี 7 โครงการ ปี 2568 มี 10 โครงการ และในปี 2569 ประเมินล่วงหน้าว่ามี 3 โครงการที่ต้องตรวจสอบ (ตึกของ สตง. คงไม่ถูกประเมินความเสี่ยงมาตลอด)
“สตง.มุ่งมั่นที่จะยกระดับการตรวจสอบภาครัฐให้ทันสมัย ด้วยแนวทาง ‘การตรวจสอบเชิงป้องกัน’ สตง.จะไม่รอให้เกิดความเสียหายแล้วจึงเข้ามาตรวจสอบ แต่จะใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก และเครื่องมือเฝ้าระวังเพื่อป้องกันก่อนที่จะเกิดปัญหาขึ้น
หลังจากนั้น 10 วันทางด่วนบนถนนพระราม 2 ก็ถล่ม เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
สตง.มีระบบประเมินความเสี่ยง
ในการตรวจสอบโครงการขนาดใหญ่
จริงหรือ?
วันที่ 18 มีนาคม 2568 สตง.แถลงอีกว่า
ได้ศึกษาแนวทางการตรวจสอบด้านความปลอดภัยของโครงการขนาดใหญ่จากองค์กรตรวจเงินแผ่นดินในต่างประเทศ อาทิ สตง.เกาหลีใต้ (BAI) สตง.เนเธอร์แลนด์ (NCA) สตง.สหรัฐอเมริกา (GAO) และ สตง.ออสเตรเลีย (ANAO) ซึ่งมีแนวทางการตรวจสอบที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับดูแลความปลอดภัยในโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของไทย โดยสรุปได้ดังนี้
1. การประเมินความเสี่ยงโครงการผ่านเครื่องมือที่เป็นระบบ สตง.เกาหลีใต้ได้พัฒนา Risk Analysis Model ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์เพื่อคำนวณค่าความเสี่ยงและจัดระดับความเสี่ยงของโครงการขนาดใหญ่ โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ความซับซ้อนของโครงการประวัติผู้รับเหมา ประวัติอุบัติเหตุ และการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย
และปัจจุบัน สตง.ไทยได้นำแนวทางนี้มาพัฒนาเป็น MIRA (Mega Project Integrity Risk Assessment) ซึ่งเป็นระบบประเมินความเสี่ยงที่สามารถช่วยกำหนดระดับความเข้มข้นในการตรวจสอบโครงการขนาดใหญ่
2. การสอบทานคุณสมบัติของผู้รับเหมาอย่างละเอียด สตง.สหรัฐอเมริกาใช้แนวทาง Past Performance Review เพื่อช่วยหน่วยงานรัฐในการสอบทานประวัติของผู้รับเหมาก่อนอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการ โดยเน้นพิจารณาประวัติการทำงานก่อนหน้า อุบัติเหตุในอดีต และการปฏิบัติตามมาตรฐาน ความปลอดภัย
3. การนำเทคโนโลยีมาช่วยประเมินความปลอดภัย สตง.เนเธอร์แลนด์ได้นำเทคโนโลยี 3D Modeling และ Simulation มาใช้ในการตรวจสอบความมั่นคงของโครงสร้างก่อนเริ่มการก่อสร้าง เพื่อจำลองสถานการณ์และระบุจุดเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ
4. การส่งเสริมความโปร่งใสผ่านรายงานความปลอดภัย สตง.ออสเตรเลียแนะนำให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่รายงานความคืบหน้าด้านความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ และเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ
ไม่รู้ว่า สตง.นำหลักการเหล่านี้มาประเมินผู้รับเหมาสร้างตึกของ สตง.หรือไม่ เพราะ…
หลังจากนั้น 10 วัน เกิดแผ่นดินไหวในพม่า 28 มีนาคม ตึก สตง.ถล่มลงกองพื้นในไม่กี่วินาที มีผู้เสียชีวิตเกือบร้อย และสิ่งที่ผุดออกมาจากซากตึก คือความเลวร้ายที่ตรงข้ามกับธรรมาภิบาล
สรุปว่า สตง.ไม่ใช้หลักการตรวจสอบ ควบคุม
กับตึกของตัวเอง
แบบที่แถลงไว้เลย
จากข้อมูลและคำแถลงชี้ว่า สตง.มีผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ทั้งมีวิศวกรอยู่ในสำนักงานของตัวเองด้วยมีหน่วยงานเฉพาะที่ติดตามงานโครงการใหญ่ การแถลงผลงานปี 2566 ก็เห็นชัดว่ามีความเข้าใจต่อจุดอ่อนข้อบกพร่อง
สตง.ควรนำโครงการสร้างตึกสูงของตัวเองมาเป็นแบบอย่างในการทำงานที่โปร่งใส ประหยัด ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพว่าควรทำอย่างไร เพราะได้รู้ข้อบกพร่องและจุดอ่อนต่างๆ จากการตรวจทั่วประเทศ
เริ่มตั้งแต่งบประมาณการจัดหาที่ดินการออกแบบการประมูลการก่อสร้างการติดตามงานการควบคุมการก่อสร้างเพื่อจะทำให้เห็นตัวอย่างที่ดีๆ เช่น การประมูลและราคาของการก่อสร้างที่เหมาะสมถูกต้องควรจะอยู่ที่เท่าใด
แบบแปลนที่เหมาะสมควรจะเป็นอย่างไร ทำอย่างไรจึงจะมั่นคงแข็งแรง
การออกแบบที่เหมาะสมกับสภาพการทำงานของ สตง.เพื่อให้มีประสิทธิภาพคืออย่างไร
ใช้งบประมาณอย่างไรเรียกว่าเป็นการประหยัดคุ้มค่ากับเงินภาษี
การใช้วัสดุที่ถูกต้องมีมาตรฐานควรตรวจสอบอย่างไร
การตรวจสอบผู้รับเหมาและคุมงานอย่างมีประสิทธิภาพควรทำอย่างไร ใช้จำนวนคนเท่าไรในแต่ละวัน
ผลสัมฤทธิ์และประสิทธิภาพของงานเพื่อให้ทันตามสัญญาควรเป็นอย่างไร
ที่ว่าโปร่งใสไม่มีการคอร์รัปชั่นในทุกขั้นตอนนั้นต้องทำอย่างไร
จากการขุดคุ้ยข้อมูล ดูเหมือนไม่มีอะไรที่ทำตามคำแถลงอันสวยงาม
คนรับผิดชอบตึกนี้คงคิดว่าไม่มีใครมาตรวจ งานจึงแย่กว่าตึกเอกชนทั่วไป กลายเป็นตึกเต้าหู้ ถล่มง่ายตายเยอะ เรื่องนี้เป็นคดีที่ประชาชนสนใจ อย่าส่งไปดองไว้ที่ ป.ป.ช. ให้คนลืมอีกก็แล้วกัน
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022