ผ่า ‘ทุนโอดอส’ เวอร์ชั่น ‘อุ๊งอิ๊ง’ ผ่าน ‘1 อำเภอ 1 ทุน’ ของพ่อโทนี่

ในที่สุด รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินหน้าฟื้น “โครงการ One Dicstrict One Scholarship” หรือ ODOS หรือ โครงการ 1 อำเภอ 1 ทุนการศึกษา หลังจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เดินสายขึ้นเวทีช่วยหาเสียงช่วงการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดก่อนหน้านี้ โดยได้ประกาศจะทำให้ลูกหลานคนไทยได้เรียนโรงเรียนดีๆ และได้ไปเรียนต่างประเทศ

ล่าสุด โครงการ ODOS เวอร์ชั่นนายกฯ อิ๊งค์ เรียกว่าปัดฝุ่นมาจาก “โครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน” เวอร์ชั่นพ่อ เมื่อปี 2547 ในสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ที่นายทักษิณเป็นนายกฯ ซึ่งจะคัดเลือกนักเรียนเก่งจากทุกอำเภอ และกิ่งอำเภอ ไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรี ทั้งมหาวิทยาลัยในประเทศ และต่างประเทศ

แต่เพื่อไม่ให้ซ้ำกับเวอร์ชั่นเดิมซะทีเดียว รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจึงได้ปรับเงื่อนไข และหลักเกณฑ์ โดยจะเน้นให้ทุนการศึกษาด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมอนาคต เพื่อรองรับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้กลับมาช่วยเพิ่มโอกาสเรื่องเทคโนโลยี หรืออุตสาหกรรมในอนาคต

รวมถึงช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษา โดยต้องการให้เด็กๆ ที่มีความรู้ความสามารถ แต่ขาดโอกาส ได้รับโอกาสทางการศึกษาที่ดี

 

ครั้งนี้ได้ขยายโอกาสสู่ระดับการศึกษาที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อให้เด็กทุกคนเข้าถึงโอกาสอย่างเท่าเทียม โดยจะใช้เงินจากการขายสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นทุนในการพัฒนาโอกาสการศึกษาของเยาวชนไทย ครอบคลุม 3 ทุนหลักๆ ได้แก่

1. ทุนการศึกษาต่อระดับปริญญาตรี สำหรับนักเรียนที่มีผลการเรียนดี ศึกษาต่อมหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งใน และต่างประเทศ รวมถึงนักเรียนดีที่หลุดออกจากระบบ ให้กลับเข้าสู่ระบบได้

2. ทุนการศึกษาภาคฤดูร้อน ให้นักเรียนไทยได้เปิดโลกกว้าง ฝึกภาษา และได้เจอผู้คนที่หลากหลาย ในการร่วมภาคเรียนฤดูร้อน

และ 3. หนึ่งอำเภอ หนึ่งโรงเรียนในฝัน พัฒนาโรงเรียนประจำอำเภอ เป็นโรงเรียนต้นแบบ โดยเพิ่มบุคลากรทางการศึกษา เติมเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ใช้เครื่องมือสอนสองภาษา สอน AI Prompt, Coding และ Programing

สำหรับงบประมาณที่จะนำมาใช้เป็นทุนการศึกษา ODOS จะมาจากการขายสลากการกุศล ที่จัดสรรมาใช้สนับสนุนโครงการด้านการศึกษา โครงการละ 1 พันล้านบาท

 

ทั้งนี้ นายกฯ ได้แจกแจงถึงเหตุผลที่รื้อฟื้นทุนการศึกษาขึ้นมา ในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการโครงการทุนการศึกษาเพื่อขยายโอกาสและพัฒนาประเทศ (Outstanding Development Opportunity Scholarship : ODOS) ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า เพราะไทยยังมีความเหลื่อมล้ำในเรื่องของการศึกษาอยู่มาก หลังจากได้ลงพื้นที่มาหลายจังหวัด เห็นน้องๆ ที่มีความสามารถ แต่ยังขาดในเรื่องโอกาสในการรับการศึกษาที่ดี

ทั้งนี้ การศึกษาสามารถสร้างโอกาสให้ตัวเองในอนาคต จึงต้องการให้น้องๆ ทั่วประเทศได้รับโอกาส อยากให้ทุนการศึกษากระจายไปได้ทั่วทั้งประเทศไทย

เพื่อให้น้องๆ นักเรียนได้ไปศึกษาต่อต่างประเทศในด้านที่จะเป็นประโยชน์ต่ออนาคตของประเทศ เช่น ด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมในอนาคต เพราะถือเป็นนโยบายที่รัฐบาลต้องการให้กลับมาช่วยในเรื่องของการเพิ่มโอกาสเรื่องของเทคโนโลยี หรืออุตสาหกรรมในอนาคต เป็นสิ่งที่ไทยยังไม่มีข้อมูลการศึกษา หรือเครื่องมือที่ครบถ้วนเท่ากับต่างประเทศ การที่น้องๆ ได้ไปต่างประเทศแล้วได้กลับมาทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติ ถือเป็นการเตรียมคนเพื่ออนาคตด้วย

โดยที่ประชุมได้พิจารณาและเห็นชอบให้คณะกรรมการอำนวยการโครงการ ทำหน้าที่กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการดำเนินการโครงการ และการดำเนินการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การสรรหาและคัดเลือก เงื่อนไขการให้ทุน การดูแลนักเรียนทุน การเบิกจ่ายงบประมาณ การแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการดำเนินการ เป็นต้น

 

นายกฯ อุ๊งอิ๊งได้บอกถึงจุดประสงค์ของนโยบาย ODOS คือต้องการให้เด็กๆ มีวุฒิการศึกษาที่สูงขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นระดับชั้นมัธยม หรือระดับปริญญาตรี นักเรียนที่เรียนเก่ง แต่ไม่เก่งภาษาอังกฤษ เมื่อไปเรียนต่างประเทศอาจเกิดความเครียด การให้โอกาสทางการศึกษา จึงอาจเป็นแนวทางให้โอกาสเรียนมหาวิทยาลัยไทยที่พร้อม โดยให้น้องๆ เลือกมหาวิทยาลัยในภาคต่างๆ เอง

โดยช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา “โครงการ 1 อำเภอ 1 ทุนการศึกษา ODOS Summer Camp” ได้ฤกษ์เปิดรับสมัครเป็นโครงการแรก โดยเปิดรับนักเรียนชั้น ม.4 และอายุไม่เกิน 19 ปี จาก 878 อำเภอทั่วประเทศ และ 50 เขตในกรุงเทพฯ เข้าร่วม “ODOS Summer Camp – ค่ายแห่งโอกาส ภาคฤดูร้อน” ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม ถึง 16 พฤษภาคม 2568 ผ่านแอพพลิเคชั่น “ทางรัฐ” เป็นการเรียนซัมเมอร์ระยะสั้น 6 สัปดาห์

และจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก วันที่ 1 สิงหาคม 2568

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เปิดรับสมัครจนถึงวันนี้ กระแสค่อนข้างเงียบ แม้แต่รัฐบาลเองก็ไม่เคยสื่อสารว่าโครงการนี้ได้รับความสนใจมากน้อยเพียงใด??

ทั้งนี้ หากย้อนกลับไปมองโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน เวอร์ชั่นพ่อ หรือนายทักษิณ ทำไมถึงถูก “ยกเลิกไป” หลังเดินหน้าได้แค่ 2 รุ่น

เพราะหลังจากรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาบริหารประเทศ และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการ ศธ. ได้มีการประชุมคณะกรรมการ 1 อำเภอ 1 ทุน ซึ่งนำเสนอปัญหามากมายที่เกิดขึ้นกับนักเรียนทุนในโครงการ ทั้งรุ่นที่ 1-2 อาทิ เด็กทุนที่ไปเรียนต่างประเทศ โดยไม่ทราบว่าประเทศที่ไปเรียนไม่มีการสอนในระดับปริญญาตรี แต่เริ่มต้นสอนระดับปริญญาโท เช่น สเปน ออสเตรีย เป็นต้น ซึ่งขัดกับระเบียบของกองทุนที่กำหนดให้ไปเรียนระดับปริญญาตรี

ยังพบอีกว่าหลายๆ ประเทศ อย่างเดนมาร์ก สวีเดน มีเงื่อนไขว่าก่อนที่จะเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัย จะต้องเรียนภาษาอย่างน้อย 2 ปี เรียนเตรียมมหาวิทยาลัย 1 ปี รวมเป็น 3 ปี ถึงจะเข้ามหาวิทยาลัย

ทำให้คณะทำงานต้องเข้าไปแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่เกิดจากความเร่งรีบทำโครงการจนขาดการตรวจสอบ และเตรียมความพร้อมก่อน ส่งผลให้เด็กที่ได้รับทุนจำนวนหนึ่งเรียนต่อไม่ได้ ต้องขอกลับมาเรียนต่อมหาวิทยาลัยในไทย

ขณะที่เด็กบางคนเลือกเรียนคณะทันตแพทย์ มหาวิทยาลัยเอกชน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงมาก ขณะที่นักเรียนทุนบางคนขอขยายเวลาเรียน 8-9 ปี จากเงื่อนไขที่ให้เรียนได้ 7 ปี

 

ทําให้รัฐมนตรีว่าการ ศธ.ในยุคนั้น ต้องตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขไปจากข้อตกลงเดิม ที่กำหนดให้ผู้รับทุนไปเรียนได้ 7 ปี โดยไม่ต้องใช้ทุน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม และท้องถิ่นมากที่สุด เนื่องจากมีผู้ที่ได้รับทุนจำนวนไม่น้อย ไม่ยอมกลับไทย

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาอื่นๆ อีก ที่ทำให้โครงการนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากมาย เช่น เด็กที่ได้รับทุน ไม่ใช่เด็กเก่งที่จนจริง เพราะมีเสียงเล่าลือว่าเด็กที่ได้รับเลือกจำนวนหนึ่ง เป็นลูกหลานของนักการเมือง และหัวคะแนน ฯลฯ

ในขณะที่งบประมาณที่ใช้ในโครงการนี้ อย่างน้อย 5 พันล้านบาท ซึ่งกลายเป็นภาระของรัฐบาล

เมื่อประมวลสารพัดปัญหาที่เกิดขึ้น จึงเป็นที่มาของการชะลอการให้ทุนโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน รุ่นที่ 3 ไว้ก่อน เพื่อแก้ไขปัญหาอีนุงตุงนัง

อีกทั้งยังมองว่ารัฐบาลมีทุนการศึกษาอีกมากมาย มีเงื่อนไขที่ชัดเจน และไม่เหมือนโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน

กระทั่งโครงการนี้ถูกหยิบขึ้นมาปัดฝุ่นอีกครั้งในรัฐบาล น.ส.แพทองธาร…

ต้องจับตาว่า “ทุน ODOS” เวอร์ชั่นอุ๊งอิ๊ง จะผ่านตลอดรอดฝั่ง หรือประวัติศาสตร์ซ้ำรอย หรือไม่!! •

 

 

| การศึกษา