ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 25 เมษายน - 1 พฤษภาคม 2568 |
---|---|
คอลัมน์ | อะไร(แม่ง)ก็เป็นศิลปะ |
ผู้เขียน | พิชัย แก้ววิชิต |
เผยแพร่ |
ผมเจ็บไข้ได้ป่วยตั้งแต่ก่อนเทศกาลสงกรานต์จนล่วงเลยมา เทศกาลเล่นน้ำเสร็จกันแล้ว ความเจ็บไข้ยังคงคุกรุ่นอุ่นอ่อนอยู่ในลมหายใจ ความร้อนๆ หนาวๆ ทำให้ขนลุกเกรียวเป็นระยะ บอกได้ว่าเจ็บไข้ยังไม่หาย และไม่สบายดี หยูกยาหามารับประทานตามอาการทุกๆ หลังอาหาร หวังให้หายขาด แต่ทำได้ดีแค่พอทุเลา อาการไม่ทรุด แต่ยังทรงตามสไตล์คนป่วย
อาการคัดจมูกเนื่องจากมีน้ำมูกมาขวางทางลม แบบนี้คาดเดาได้โดยง่าย จากประสบการณ์ที่เคยเป็นมา เจ็บป่วยคราวนี้คงเป็นเพียงไข้หวัดธรรมดา ด้วยช่วงนี้อากาศเปลี่ยนไปตามฤดูกาล เจ็บไข้ในแบบนี้หนีไม่พ้น เพราะเป็นคนแพ้อากาศ กินยา พักสักครู่เพียง 2-3 วัน ก็คงหายดิบหายดี หายเป็นปลิดทิ้งเหมือนเทน้ำเทท่า
เพราะอาการป่วยในแบบนี้ คิดเองได้ว่ามันเป็นป่วยแบบสามัญประจำบ้าน ไม่ใครก็ใครคนใดคนหนึ่ง ลองถ้าอากาศเปลี่ยนแปลง เขาหรือเธอผู้อ่อนโยน มีอันต้องป่วยไข้พอหอมปากหอมคอ “อย่าได้กังวล ใครเขาก็ป่วย”
ผมบอกตัวเองไว้อย่างนั้น

เมื่อความป่วยไข้มันดื้อ อยู่นานเกินกำหนด เรื้อรังจนเริ่มน่ารำคาญ เหมือนจะหายแต่ไม่หาย แสดงอาการตรงตามเวลา เพราะงดแสดงอาการในช่วงกลางวัน แต่พอถึงเวลาตกเย็นในระยะพลบค่ำ ลมหายใจเริ่มรุ่มร้อน ขนเท่าทั้งมวลเท่าที่มีในร่างกายลุกชันเป็นระยะ เนื้อตัวร้อนๆ หนาวๆ จนไปรบกวนกระดูก อาการแบบนี้ไม่สนุก แต่กินยาแล้วสักประเดี๋ยวก็หลับสบายดี ด้วยห่มผ้าให้เหงื่อออก
เช้านี้สดใสขึ้นบ้าง ด้วยนอนแต่หัววันเพราะพิษไข้ ผมลุกขึ้นจากที่นอน ล้างหน้าแปรงฟัน อาการตอนนี้ไม่ได้ย่ำแย่เหมือนเมื่อคืน เสียบปลั๊กหม้อข้าวแล้วกดปุ่ม เพื่อกันข้าวไม่ให้บูด
แม่เข้ามาถามอาการด้วยเป็นห่วง “เป็นยังไงบ้าง ค่อยยังชั่วยังล่ะ?” (ผมไม่ได้บอกแม่ว่ายังชั่วอยู่) ผมบอกอาการป่วยไข้ที่เริ่มดีขึ้นแล้วกับแม่ ตามความเป็นจริง
“เดี๋ยวแม่จะโทร.ไปถามผีให้!! ว่าอะไรมาทักมาทาย แก้ซะจะได้หาย”
ได้ยินในแบบนี้ ถ้าผมทำตามที่แม่แนะนำ ก็ไม่ได้เสียหายอะไร แต่อีกใจก็นึกโมโหผี (ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ) “ผีแบบนี้รังแกคน ควรว่ากล่าวให้เสียผีซะมากกว่า” ผมบอกเหตุผลของการปฏิเสธ “ผีแบบนี้ตอนเป็นคนคงเป็นอันธพาล ยอมกันแบบนี้จะอยู่กันยังไง มีฤทธิ์มีเดชขนาดนี้ ช่วยคนจะดีกว่ามั้ย ทำคนเจ็บไข้ได้ป่วย แบบนี้มันไม่ดีนะ” เมื่อผมยืนยันสละชีพเพื่ออุดมการณ์ แม่ก็หมดคำพูดกับคนหัวดื้อ
ความเป็นผีเท่าที่ในรู้ในแบบชาวบ้าน ผีเคยเป็นคน อนาคตของคนจะเป็นผีตามวาระ ไม่จำเป็นต้องสอบแข่งขัน หรือวิ่งเต้นให้ได้เป็นผี คนดีมี ผีดีมี ผีหลอกคน และอาจมีคนหลอกผี แต่ผีไม่เคยหลอกผี เท่าที่รู้ คนหลอกคน มีเห็นคนบ่อยๆ มากกว่าจับไข้หัวโกร๋น หลอกกันชนิดหมดเนื้อหมดตัว แบบนี้ควรกลัวผีหรือกลัวคน ถามใจเธอดู
ว่ากันว่า ผีดี มักใช้พลังอำนาจในทางสร้างสรรค์ คอยปกปักษ์รักษา คุ้มให้ผู้คนอยู่รอดปลอดภัย หาอยู่หากินอยู่ด้วยความอุดมสมบูรณ์ (ถ้ายังไม่สมบูรณ์ก็ร้องขอเข้าไปอีก) เชื่อมโยงผู้คนให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ แม้จะด้วยความกลัว ผีที่ทำตนเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในแบบนี้น่าเคารพนับถือ แม้จะมองไม่เห็นหน้าก็ไม่เป็นไร แบบนี้น่ะ ดีแล้ว!
ขอบคุณมากมายครับ •
เอกภาพ | พิชัย แก้ววิชิต
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022