คุยกับทูต | แร็มโก ฟัน ไวน์คาร์เดิน ชาวดัตช์ กับวันพระราชา

คุยกับทูต | แร็มโก ฟัน ไวน์คาร์เดิน

ชาวดัตช์ กับ วันพระราชา

 

เมื่อคุณคิดถึงเนเธอร์แลนด์ สิ่งแรกที่มักจะนึกถึงคือ กังหันลม จักรยาน คลอง ทิวลิป ชีส รองเท้าไม้ และผลงานในโลกศิลปะของปรมาจารย์ชาวดัตช์ เช่น เรมบรันต์ ฟัน ไรจน์ (Rembrandt van Rijn), ฟินเซนต์ ฟัน โคค ซึ่งคนไทยมักเรียก วินเซนต์ แวนโก๊ะ (Vincent van Gogh) และโยฮันเนิส เฟอร์เมร์ (Johannes Vermeer)

สัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมเหล่านี้มีชื่อเสียงไปทั่วโลกและไม่ควรพลาดเมื่อได้ไปเยือน แต่นั่นเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของภูเขาน้ำแข็งทางวัฒนธรรมเท่านั้น

ชาวดัตช์ปิดเมืองปาร์ตี้ฉลองเทศกาลยิ่งใหญ่ที่สุด ในวันที่ 27 เมษายนของทุกปี ร่วมเฉลิมฉลองวันชาติสไตล์ชาวดัตช์ ซึ่งเป็น “วันพระราชา” (King’s Day) หรือที่ชาวดัตช์เรียกว่า โกนิงส์ดัค (Koningsdag)

ในวันนี้ ชาวดัตช์จะตกแต่งทุกอย่างด้วยสีส้ม รวมถึงสวมใส่เสื้อผ้าที่มีสีส้มด้วยเช่นกัน

เพราะสีส้มเป็นสีของราชวงศ์เนเธอร์แลนด์ คือ ราชวงศ์ออเรนจ์-นัสเซา (The House of Orange-Nassau) และเป็นสีประจำชาตินี้มาเป็นเวลาหลายร้อยปี

นายแร็มโก ฟัน ไวน์คาร์เดิน (H.E. Mr. Remco van Wijngaarden) เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ประจำราช

นายแร็มโก ฟัน ไวน์คาร์เดิน (H.E. Mr. Remco van Wijngaarden) เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ประจำราชอาณาจักรไทย เล่าถึงกิจกรรมใน “วันพระราชา” ของประเทศเนเธอร์แลนด์

“เราเฉลิมฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพของของสมเด็จพระราชาธิบดีวิลเลม-อเล็กซานเดอร์ (King Willem-Alexander) ในวันที่ 27 เมษายน และเราเรียกว่า ‘วันพระราชา’ เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์สำคัญวันหนึ่งในเนเธอร์แลนด์ ผู้คนหลากหลายจากภูมิหลังที่แตกต่างกันทั่วประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่จะสวมชุดสีส้มสดใส ออกมารวมตัวพบปะสังสรรค์เดินเล่นตามท้องถนนกันอย่างคึกคัก เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในเทศกาลยิ่งใหญ่ที่สุดนี้อย่างสนุกสนาน ตั้งแต่ปาร์ตี้ริมถนน การแสดงคอนเสิร์ต เพลิดเพลินกับเกมการละเล่นต่างๆ ตามสถานที่สาธารณะ

อีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญของ ‘วันพระราชา’ คือ ตลาดนัด (The vrijmarkten) เป็นที่รู้กันทั่วไปว่าชาวดัตช์เป็นผู้มีความใส่ใจในด้านธุรกิจมากที่สุด และ ‘วันพระราชา’ ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

ในระหว่างวัน ทุกคนสามารถนำสินค้าของตนเองออกจำหน่ายได้โดยไม่ต้องเสียภาษีหรือใบอนุญาต ถือเป็นวิธีที่ดีในการทำความสะอาดห้องใต้หลังคาของคุณ เป็นการหารายได้เล็กๆ น้อยๆ และมั่นใจว่าสินค้ามือสองของคุณมีบ้านใหม่ โดยไม่ต้องทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์”

งานวันพระราชา (King’s Day) ณ สถานเอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ กรุงเทพฯ
งานวันพระราชา (King’s Day)ในกรุงอัมสเตอร์ดัม เมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์ @Carmelrmd

เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชนและความยุติธรรมทางสังคมอยู่เสมอ นอกจากนี้ ยังติดอันดับประเทศที่มีสถิติสิทธิมนุษยชนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

ความสำเร็จที่สำคัญของขบวนการเรียกร้องสิทธิพลเมือง (Civil Rights Movement) มีอะไรบ้าง และพระมหากษัตริย์ทรงมีส่วนสนับสนุนอย่างไร

“เราภูมิใจมากกับสถิติสิทธิมนุษยชนของเราและอยากเห็นตัวเองเป็นผู้นำในเรื่องนี้ เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศแรกในโลกที่ประกาศใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียมอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2001 และกรุงเฮก (The Hague) ซึ่งเป็นเมืองหลวงทางการเมืองและการบริหารของเนเธอร์แลนด์ นอกจากเป็นที่ตั้งของศูนย์กลางการปกครองและองค์กรสำคัญของประเทศแล้ว ยังเป็นที่ตั้งของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) อีกด้วย แม้ว่าอัมสเตอร์ดัมจะเป็นเมืองหลวงอย่างเป็นทางการก็ตาม

จากมุมมองของการต่างประเทศ เราสนับสนุนนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนทั่วโลกอย่างแข็งขัน เราให้สัตยาบันในข้อตกลงระหว่างประเทศหลายฉบับ ทั้งยังส่งเสริมสิทธิมนุษยชนในต่างประเทศผ่านกองทุนสิทธิมนุษยชนและโครงการ Human Rights Tulip ประจำปีของเรา นี่คือรางวัลที่เรามอบให้กับนักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่โดดเด่นซึ่งส่งเสริมประเด็นสำคัญและยืนหยัดเพื่อความยุติธรรม

ด้านพระมหากษัตริย์ เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของรัฐ (Head of State) ภายใต้รัฐธรรมนูญ และทรงอยู่เหนือการเมือง

พระองค์เป็นสัญลักษณ์ของค่านิยมและนโยบายร่วมกันของเรา โดยจะทรงนำนโยบายดังกล่าวไปเผยแพร่ในทุกแห่งที่พระองค์เสด็จ ตัวอย่างเช่น ในการเสด็จเยือนต่างประเทศ พระองค์อาจจะทรงกล่าวถึงประเด็นสิทธิมนุษยชน เน้นถึงความคิดริเริ่มด้านนโยบายบางอย่าง หรือเชิดชูผู้ปกป้องสิทธิมนุษยชน

ดังนั้น พระองค์จึงเป็นบุคคลสำคัญในการสร้างความตระหนักรู้ และส่งเสริมนโยบายของเราเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน”

เอกอัครราชทูตดัตช์ กล่าวต้อนรับในงานเฉลิมฉลอง วันพระราชา (King’s Day 2024) กรุงเทพฯ
กษัตริย์นักบิน ภาพ-aerocorner.com

คิดเห็นอย่างไรกับตำนานของกษัตริย์ที่สืบทอดต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน

“ผมคิดว่าสมเด็จพระราชาธิบดีวิลเลม-อเล็กซานเดอร์ ถูกมองว่าเป็นกษัตริย์ที่ทันสมัย เข้าถึงได้ง่าย ทรงเป็นคนติดดินและร่วมทำกิจกรรมกับเพื่อนร่วมชาติ ทรงพระปรีชาสามารถอย่างมากในการแก้ไขปัญหาโดยไม่เกิดความขัดแย้งมากนัก ทั้งยังรวมผู้คนให้มาช่วยกันแก้ไขปัญหาเหล่านั้น

งานหลักของพระองค์มีสองประการ ได้แก่ การบริหารจัดการน้ำและการกีฬา ทรงเป็นผู้มีส่วนสนับสนุน และเป็นผู้อุปถัมภ์องค์กรต่างๆ ในเรื่องนี้ และอย่างที่ผมได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่า สิทธิมนุษยชนเป็นเรื่องสำคัญในวาระการประชุมซึ่งพระองค์ก็มักจะทรงพูดถึงเรื่องนี้เป็นประจำ

ขอกล่าวเพิ่มเติมนอกจากนี้ด้วยว่า สมเด็จพระราชินีมักซิมา (Queen M?xima) พระอัครมเหสีในสมเด็จพระราชาธิบดีวิลเลม-อเล็กซานเดอร์ ได้รับความนิยมอย่างมากในเนเธอร์แลนด์ ทรงได้รับการฝึกอบรมให้เป็นนักเศรษฐศาสตร์และมีส่วนร่วมในสังคมอย่างแข็งขัน

ปัจจุบัน สมเด็จพระราชินีมักซิมาได้รับมอบหมายให้ส่งเสริมสุขภาพทางการเงินและการเข้าถึงบริการทางการเงินภายในองค์การสหประชาชาติ โดยเน้นไปที่การเข้าถึงผู้คนที่ไม่มีบัญชีธนาคารจำนวน 1.5 พันล้านคนทั่วโลก

และเช่นเดียวกับพระมหากษัตริย์ไทย นอกจากพระราชกรณียกิจในฐานะประมุขของประเทศแล้ว สมเด็จพระราชาธิบดีวิลเลม-อเล็กซานเดอร์ ยังเป็นนักบินตัวยง ทรงได้รับใบอนุญาตนักบินทหารและใบอนุญาตนักบินพาณิชย์

ในการสัมภาษณ์เมื่อปี 2017 ทรงเปิดเผยความลับว่า แอบไปเป็นนักบินสายการบินแห่งชาติ KLM มาแล้ว 21 ปี เมื่อพระองค์แต่งเครื่องแบบนักบินและสวมหมวก ก็แทบไม่มีใครจำได้ มีเพียงผู้โดยสารบางคนเท่านั้นที่รู้สึกประหลาดใจมาก”

สมเด็จพระราชาธิบดี และสมเด็จพระราชินีแห่งเนเธอร์แลนด์ พร้อมด้วยพระราชธิดาทั้งสามพระองค์
สมเด็จพระราชาธิบดีวิลเลม-อเล็กซานเดอร์ และสมเด็จพระราชินีมักซิมา พระอัครมเหสี ในวันพระราชา

เนเธอร์แลนด์กับสิทธิสตรีและความเท่าเทียมทางเพศ

“ประเทศเนเธอร์แลนด์เป็นที่รู้จักทั่วโลกในฐานะผู้สนับสนุนความเสมอภาคระหว่างเพศและเพิ่มบทบาทของสตรีและเด็กหญิงทุกคน

ในประเทศของเรา สิ่งสำคัญที่สุด คือการให้แน่ใจว่าสตรีและเด็กหญิงมีโอกาสในการทำงาน มีการศึกษาที่ครอบคลุม มีการดูแลในเรื่องที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสม รวมทั้งระบบสนับสนุนอื่นๆ อย่างเท่าเทียมกัน

ภาวะผู้นำและการเป็นตัวแทนทางการเมืองก็มีความสำคัญในเรื่องนี้ ซึ่งเรามุ่งมั่นที่จะให้สตรีได้เป็นตัวแทนในตำแหน่งดังกล่าวให้มากขึ้น

เรามุ่งมั่นที่จะส่งเสริมสิทธิสตรีและความเท่าเทียมทางเพศทั่วโลก ตัวอย่างเช่น เนเธอร์แลนด์มีกองทุนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกสำหรับการส่งเสริมสิทธิที่เท่าเทียมกันสำหรับสตรีและเด็กหญิง ความเท่าเทียมทางเพศ และสิทธิสุขภาพทางเพศและอนามัยการเจริญพันธุ์ (SRHR) ซึ่งก็คือกองทุน SDG5 (Sustainable Development Goal ข้อที่ 5) กองทุนนี้มีเงินทุนเกือบ 500 ล้านยูโรสำหรับในช่วงปี 2021-2025

ที่กรุงเทพฯ เราได้เป็นเจ้าภาพและมีส่วนร่วมในกิจกรรม โครงการริเริ่ม และโปรแกรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมสิทธิสตรีและความเท่าเทียมทางเพศอยู่บ่อยครั้ง เรามุ่งเน้นเป็นพิเศษในการขจัดความรุนแรงทางเพศและส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ

กังหันลม ทิวลิป และดอกเดลฟต์บลู คนทั่วโลกมองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเอกลักษณ์ของดัตช์ © jacobh
รองเท้าไม้แบบดั้งเดิมของชาวดัตช์ที่โด่งดัง

จุดมุ่งหมายของการเฉลิมฉลอง ‘วันพระราชา’ ในปีนี้

“วันพระราชา (King’s Day) ไม่ได้มีธีมหรือรูปแบบเฉพาะในแต่ละปี แต่เป็นการรวมตัวกันอย่างมีความสุข ดังเช่นทุกปี คล้ายสงกรานต์เมืองไทย

ถึงอย่างนั้น เมื่อพิจารณาจากสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลก ผมคิดว่า เราโชคดีแค่ไหนที่ได้มีโอกาสเฉลิมฉลองในวาระต่างๆ อย่างเสรีและสันติสุข ดังเช่น ‘วันพระราชา’

เมื่อระลึกได้ดังนั้น ผมจึงขออวยพรให้พลเมืองของเราทุกคน รวมทั้งทุกคนที่เข้าร่วมในการเฉลิมฉลอง ‘วันพระราชา’ ไม่ว่าจะอยู่ในประเทศไทยหรือในเนเธอร์แลนด์ เปี่ยมไปด้วยความสุขสดใส

แล้วพบกันนะครับ… สุขสันต์วันแห่งพระราชา!” •

ดินแดนแห่งน้ำ ความสัมพันธ์ของชาวดัตช์กับน้ำเป็นที่รู้จักและนับถือในระดับนานาชาติ
เนเธอร์แลนด์มีชื่อเสียงในด้านศิลปินมากความสามารถมากมาย ทั้งในอดีตและปัจจุบัน เช่น Rembrandt

 

รายงานพิเศษ | ชนัดดา ชินะโยธิน

Chanadda Jinayodhin