ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 25 เมษายน - 1 พฤษภาคม 2568 |
---|---|
คอลัมน์ | นัยความเป็นคน |
ผู้เขียน | นิ้วกลม |
เผยแพร่ |
นัยความเป็นคน | นิ้วกลม
มนุษย์ทุกข์เพราะปรารถนา
ทุกข์เกิดจากความอยาก
เรามีความอยากผุดขึ้นในแทบทุกวินาที แต่ไม่เคยได้ลองนั่งพิจารณาความอยากของตัวเองว่ามันมีหน้าตาอย่างไร ทำงานอย่างไร และส่งผลยังไงต่อชีวิตบ้าง โดยเฉพาะในมุมที่มันสร้างความทุกข์ให้กับเรา
ด้วยความที่เราไม่เท่าทันมัน จึงเหมือนถูกเชือกล่องหนลากพาเราไปทางนู้นทางนี้ตลอดเวลา โดยไม่รู้ตัว
ทุกการตัดสินใจของเราถูกชักจูงด้วยความอยาก ทุกพฤติกรรมของเราเป็นไปตามความอยาก
และแน่นอน ทุกข์-สุขของเราขึ้นอยู่กับความอยากที่สมหวังหรือผิดหวัง
ความอยากเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในชีวิตที่เราละเลยมากที่สุดอย่างหนึ่ง
อยากลองชวนกันมาทำความรู้จักตัวละครนี้ให้มากขึ้น เพราะผมเชื่อว่า ถ้ารู้จักความอยากดีขึ้น เห็นหน้ามันชัดขึ้น เราจะเป็นทุกข์น้อยลงได้
เราสามารถทำความเข้าใจ ‘ความอยาก’ จากการประมวลความรู้ของผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาที่ศึกษาเรื่องนี้จำนวนมาก
ซึ่งอาจสรุปออกมาได้เป็นสามรูปแบบ ได้แก่
1. อยากได้ (Dopamine-driven wanting)
“ฉันต้องมีสิ่งนี้ แล้วฉันจะมีความสุข”
สิ่งนี้เกิดขึ้นในสมองส่วนวิเคราะห์และวางแผน (Neocortex + Nucleus Accumbens) ซึ่งโดพามีนจะถูกปล่อยออกมาเวลาที่เราคิดถึงสิ่งที่น่าพึงพอใจ เช่น เงิน เซ็กซ์ ของอร่อย (กามตัณหา) หรือตำแหน่ง ชื่อเสียง รางวัล การยอมรับ (ภวตัณหา)
มันเชื่อมโยงกับระบบให้รางวัล การคิดล่วงหน้า และการสร้างเรื่องเล่า
ระหว่างโดพามีนหลั่งเราจะรู้สึกดีจากความคาดหวังว่าจะได้รับความสุขเหล่านั้น
รู้สึกดีโดยที่ยังไม่ต้องได้รับผลจากการฝันใฝ่ ด้วยเหตุนี้เราจึงตื่นเต้นเมื่อชีวิตมีเป้าหมายให้พิชิต มีพละกำลังอยากลงมือทำในสิ่งที่เชื่อว่าถ้าได้มาแล้วจะมีความสุข
ฟังเผินๆ อาจดูดี แต่ลึกลงไปของความอยากได้ชนิดนี้คือกับดักของความคาดหวังไม่รู้จบ
เพราะเราจะเสพติดความรู้สึกดีจากการได้หวังได้ใฝ่ฝัน ซึ่งถ้าหมกมุ่นกับความหวังในอนาคตที่ต้องการมากเกินไปก็อาจเป็นทุกข์ไม่รู้จบเช่นกัน เพราะจะต้องวิ่งไล่ตามความคาดหวังไปเรื่อยๆ
ความสุขจะไม่เคยอยู่ที่นี่ตอนนี้เลย มันรออยู่ในอนาคตตลอด
ความอยากได้ทำให้รู้สึกขาดแคลน ไม่เคยพอใจกับสิ่งที่มี เพราะคิดว่ายังมีสิ่งที่ดีกว่านี้รออยู่ข้างหน้าเสมอ หรือถ้าได้รับสิ่งดีงามมาแล้วก็อยากได้อีก สมหวังแล้วก็ไม่พอใจ เพราะเสพติดความสุขจากการไขว่คว้า
ความอยากชนิดนี้กระตุ้นให้เราอยากได้กระเป๋า นาฬิกา รองเท้า มือถือ รถยนต์รุ่นใหม่ พอๆ กับอยากพัฒนาตัวเองให้ไปยืนบนแท่นอันดับหนึ่งของทุกสถาบัน
รวมถึงที่บรรดามหาเศรษฐีแข่งขันกันไต่อันดับเป็นคนรวยที่สุดในประเทศหรือในโลกก็เช่นกัน ล้วนมาจากความอยากชนิดนี้
“ฉันต้องมีสิ่งนี้ แล้วฉันจะมีความสุข”
2. อยากหลีกเลี่ยง (Fear-driven)
“ฉันขออย่าได้เจอสิ่งนี้หรือคนนี้เลย”
สิ่งนี้เกิดขึ้นในสมองส่วนอารมณ์ (Amygdala) ความรู้สึกกลัว ไม่ปลอดภัย ต้องหนี ต้องหลบ
อะมิกดาลาจะคอยตรวจจับภัยอันตรายอยู่ตลอด มันสร้างนิสัยแห่งการหลบเลี่ยง เช่น เลี่ยงความล้มเหลว ซ่อนตัวเพราะกลัวถูกตัดสิน ไม่อยากเจอผู้คน กลัวความเปลี่ยนแปลง ไม่สบายใจกับสภาวะปัจจุบัน อยากให้สิ่งไม่พึงปรารถนาหายไป (วิภวตัณหา)
ยิ่งหลีกเลี่ยงมากขึ้น สมองก็จะไวต่อความกลัวยิ่งขึ้น จนรู้สึกว่าโลกเต็มไปด้วยภยันตราย รอบตัวจึงเป็นสิ่งก่อทุกข์ได้ทั้งนั้น
ความอยากหลีกเลี่ยงทำให้จิตใจขาดความสงบ ใช้ชีวิตอยู่ในโหมดระวังภัยตลอดเวลา ระแวง เครียด ปฏิเสธความจริง
ความสุขไม่อยู่ที่นี่ตอนนี้ ฉันอยากหายตัวไปจากโลกแสนอันตราย
ความอยากชนิดนี้อาจทำให้เราเปลี่ยวเหงา ขี้กลัว ใช้วิธีหลบหน้า ไม่เข้าสังคม ไม่ลงมือทำ ไม่ริเริ่ม ไม่เปิดตัวกับความสัมพันธ์ใหม่ๆ
อาจเพราะเคยมีประสบการณ์ที่สร้างบาดแผลไว้ในใจ
อาจเพราะรู้สึกอายที่ต้องเผชิญหน้ากับเพื่อนฝูง
อาจด้วยความรู้สึกด้อยในฐานะ การงาน ความรู้สึกที่มีต่อตนเอง หรือเติบโตมากับพ่อแม่ที่ดุมากจนกลัวว่าจะทำพลาด
ความรู้สึกกลัวจนอยากหลีกเลี่ยงเช่นนี้ก่อให้เกิดทุกข์
3. อยากควบคุม (Ego-driven control)
“ทุกอย่างต้องเป็นแบบที่ฉันต้องการเท่านั้น”
สิ่งนี้เกิดขึ้นในสมองส่วนวิเคราะห์และวางแผน (Prefrontal Cortex) ซึ่งทำหน้าที่วางแผน ตัดสิน เปรียบเทียบ และพยายามควบคุม มันคือความคิดที่แฝงด้วยอัตตา เป็นแหล่งผลิตทั้งอัตตาและอัตลักษณ์
มันสร้างเรื่องเล่าว่าฉันเป็นคนแบบไหน ฉันต้องเก่ง ฉันต้องไม่แพ้ ฉันต้องเลิศที่สุด
เมื่อสร้างแล้วก็อยากควบคุมให้ทุกสิ่งเป็นดั่งใจ อยากควบคุมคนอื่น ควบคุมตัวเอง ควบคุมอนาคต ควบคุมโลกรอบตัว
การวางแผนเป็นเรื่องจำเป็น แต่ถ้าความคิดเช่นนี้เกิดขึ้นโดยไม่มีสติกำกับย่อมเสี่ยงต่อการเป็นผู้เผด็จการ อยากให้ทุกอย่างเป็นอย่างใจ บังคับบัญชาจนคนอื่นอึดอัด ก่อความขัดแย้ง ซึ่งแน่นอนว่าย่อมเป็นทุกข์ เพราะโลกและผู้คนไม่มีทางเป็นอย่างที่เราต้องการไปเสียหมด โลกไม่ได้หมุนรอบอัตตาของเรา เมื่อไม่ได้ดั่งใจก็เกิดอารมณ์โกรธ เกลียด หงุดหงิด ตามมา
ความอยากควบคุมทำให้รู้สึกว่าโลกนี้เต็มไปด้วยเรื่องน่าหงุดหงิดใจ มองไปทางไหนก็ไม่มีเรื่องน่ายินดีเลย
ความสุขจะไม่เกิดขึ้น จนกว่าทุกอย่างเป็นอย่างที่ฉันวาดภาพไว้
การได้เห็นหน้าตาของความอยากสามแบบนี้ทำให้เราตระหนักมากขึ้นว่า มันเกิดขึ้นตลอดในชีวิตเรา แต่ละคนอาจมี ‘ตัวละครเอก’ ต่างกัน บางคนความอยากได้อาจมีบทบาทเด่น บางคนอาจเป็นความอยากหลีกเลี่ยง และบางคนอาจอยากควบคุมอยู่บ่อยๆ
หากลองสังเกตดูจะพบว่าเพื่อนทุกข์รอบตัวเราล้วนขับเคลื่อนชีวิตไปด้วย ‘ความอยาก’ แบบใดแบบหนึ่งในสามแบบนี้ และบ่อยครั้งที่ในตัวคนหนึ่งคนก็มีทั้งสามรูปแบบ
เราทำอย่างไรกับความอยากเหล่านี้ได้บ้าง?
โชคดีที่ตอนนี้เรารู้จักมันแล้ว ทุกครั้งที่ความอยากเกิดขึ้นก็เหมือนเราได้เห็น ‘สัญญาณเตือน’ ว่าธรรมชาติแห่งทุกข์เดิมๆ ก่อตัวอีกแล้ว อยากได้อีกแล้ว อยากเลี่ยงอีกแล้ว อยากควบคุมอีกแล้ว ถ้าเห็นบ่อยขึ้นก็จะเท่าทันมัน ทำให้ฤทธิ์เดชของมันลดน้อยลงได้ การเห็นความอยากก็เหมือนเจ้าของบ้านเห็นโจร มันจะบุกรุกต่อไม่ได้ ต้องถอยร่นไป เมื่อเห็นทัน เราสามารถเลือกได้ว่าจะตอบสนองอย่างไร โดยไม่ต้องถูกมันบงการพฤติกรรมให้ลงร่องเดิม
เมื่อเกิดอารมณ์รุนแรงขึ้น ลองสูดหายใจลึกๆ แล้วพิจารณาว่ากำลังโดน ‘ความอยาก’ ประเภทไหนจูงจมูกเราอยู่ หรือสามารถนั่งลงทบทวนในแต่ละวัน แต่ละสัปดาห์ ก็ได้เช่นกันว่าวันเวลาที่ผ่านมามี ‘ความอยาก’ ประเภทใดทำให้เราเลือกกระทำ เลือกตัดสินใจในแบบที่ได้ลงมือทำไป
เมื่อได้พิจารณาย่อมเห็นว่า
ความอยากได้ ทำให้เราวิ่งไล่ไขว่คว้าไม่หยุด
ความอยากหนี ทำให้เราซ่อนตัวและเลี่ยงการเผชิญปัญหา
ความอยากควบคุม ทำให้เราตึงเครียดและขัดแย้งอยู่เสมอ
พอเห็นแบบนี้ ทางออกจะเกิดขึ้นเองโดยอัตโนมัติ เพราะเราจะสัมผัสได้ทันทีว่า “ความอยากเป็นที่มาแห่งทุกข์” และอยากเป็นสุขมากขึ้น จากนั้นเราจะบริหารจัดการกับความอยากด้วยตนเอง อาจไขว่คว้าน้อยลง กล้าเผชิญปัญหามากขึ้น ผ่อนคลายจากการควบคุมคนอื่นลงบ้าง แล้วสัมผัสถึงความสุขในหัวใจที่เพิ่มขึ้นจากการจัดการความอยาก
จำไว้ว่า สิ่งที่ทำได้เสมอคือไม่ต้องตอบสนองต่อทุกความอยาก ซึ่งนั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นของ ‘อิสรภาพภายในที่แท้จริง’
เป็นอิสระจากความอยากเท่ากับเป็นอิสระจากความทุกข์
เท่าทันความอยากเท่ากับเท่าทันความทุกข์
เท่าทันความทุกข์เท่ากับมีโอกาสสุขได้มากกว่าที่เคย
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022