จากกาสิโนแห้วสู่การยุบสภา

ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์www.facebook.com/sirote.klampaiboon

บทความพิเศษ | ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์

https://www.facebook.com/sirote.klampaiboon

 

จากกาสิโนแห้วสู่การยุบสภา

 

และแล้วกาสิโนก็เป็นอีกหนึ่งในนโยบายที่พรรคเพื่อไทยแห้วจนไม่ได้ทำอย่างที่ต้องการ แต่ขณะที่นโยบายอื่นแห้วทั้งที่ควรทำแต่ไม่ทำ ตัวอย่างเช่น ค่าแรงขั้นต่ำ รัฐธรรมนูญใหม่ หรือนิรโทษกรรม กาสิโนกลับเป็นเรื่องที่ทำไปก็มีแต่คนด่า จนในที่สุดพรรคเพื่อไทยต้องถอยนโยบายนี้ไป

แม่ยกรัฐบาลบางคนแก้เก้อแบบเขินๆ ว่าเห็นด้วยที่เพื่อไทยถอย แต่ก็แก้เกี้ยวต่อว่าไม่อยากให้มองเพื่อไทยถอยจากกระแส “ขับเคลื่อนด้วยการด่า” เพราะเรื่องอื่นที่คนด่าก็ไม่ได้จบด้วยเพื่อไทยถอยเสมอไป ตัวอย่างเช่น แจกเงินหมื่นก็ไม่ถอยถึงคนจะด่าอย่างรุนแรงขั้นเป็นนโยบายทำไปมั่วไป

แลนด์บริดจ์คล้ายจะเป็นอีกนโยบายที่รัฐบาลโดนด่าจนถอย แต่ที่จริงรัฐบาลใช้เหลี่ยมผลักดันนโยบายนี้ เพราะรัฐบาลแอบจัดรับฟังความเห็นประชาชนต่อกฎหมายนี้แบบเงียบๆ ตั้งแต่ 20 มีนาคม-20 เมษายน โดยจงใจทำให้เงียบจนมีคนแสดงความเห็นเรื่องนี้ในเว็บรัฐบาลเพียง 13 คน

นโยบายสาธารณะทุกเรื่องมีคนเห็นและไม่เห็นด้วยเป็นปกติ กฎหมายจะผ่านโหวตหรือไม่จึงขึ้นอยู่กับรัฐบาลดีลพรรคร่วมได้ดีจนได้มือโหวต

แต่ความยอมรับจากประชาชนจะได้มาแค่โดยสองเงื่อนไขคือ ความสมเหตุสมผลของกฎหมาย และความตรงไปตรงมาของการออกกฎหมายเอง

คนที่สติสัมปชัญญะปกติทุกคนรู้ดีว่าการรับฟังความเห็นคนแค่หลักสิบเพื่อออกกฎหมายนั้นน้อยจนไม่ควรใช้เป็นข้ออ้างออกกฎหมายอะไร แต่รัฐบาลนี้กำลังทำเรื่องแบบนี้จริงๆ ในกรณีแลนด์บริดจ์

จนเดาได้ไม่ยากว่ากฎหมายจะถูกต่อต้านแค่ไหนหากใช้เสียงคนแค่หลักสิบเป็นเครื่องมือ

 

เมื่อเทียบกับ “แจกเงินหมื่น” และ “แลนด์บริดจ์” ซึ่งโดนด่าแต่ดันต่อจนเป็นนโยบายลุ่มๆ ดอนๆ กาสิโนเป็นนโยบายที่เพื่อไทยโดนด่าจนถอยแบบหมดสภาพ เพราะเท่ากับพรรคโดนด่าฟรีที่ขอแซงคิวกฎหมายนี้ก่อนญัตติแผ่นดินไหว และโดนด่าฟรีซ้ำสองจากคนที่ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายนี้เลย

แม้คุณแพทองธาร ชินวัตร จะอ้างว่ากฎหมายนี้แค่ “เลื่อน” แต่ “ไม่ได้ถอย” ความเป็นจริงคือคำพูดนี้เป็นข้อแก้ตัวเพื่อที่พรรคเพื่อไทยจะไม่เสียหน้าและคุณทักษิณ ชินวัตร จะไม่หน้าแตกที่ผลักดันกฎหมายนี้ไม่ได้ เพราะในความเป็นจริงแล้วกฎหมายกาสิโนสูตรนี้จะไม่มีทางเกิดในรัฐบาลนี้หรือรัฐบาลไหนเลย

ความแย่ที่สุดของกฎหมายกาสิโนฉบับนี้คือกระบวนการร่างที่ไม่ถามใครเลย คนไทยทุกคนรู้ดีว่าพรรคเพื่อไทย, คุณแพทองธาร, คุณเศรษฐา ทวีสิน , คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, คุณชลน่าน ศรีแก้ว, คุณสุทิน คลังแสง, คุณจาตุรนต์ ฉายแสง ฯลฯ ไม่เคยบอกว่าเป็นรัฐบาลแล้วจะตั้งกาสิโน ความกะล่อนนี้ทำให้กฎหมายนี้มีมลทินที่แก้ไม่ได้เลย

ข้ออ้างของรัฐบาลคือกฎหมายนี้มาจากรายงานของกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎรซึ่งทุกพรรคมีตัวแทน แต่คำอธิบายนี้ทำเหมือนประชาชนโง่จนไม่รู้ว่ากรรมาธิการทุกชุดต้องมีคนจากทุกพรรคตามโควต้าอยู่แล้ว ข้ออ้างนี้จึงไม่มีประเด็น และการศึกษาจากระบบโควต้าไม่มีทางสร้างความน่าเชื่อถือขึ้นมา

ยิ่งดูพรรคและ ส.ส.ที่ต้านกฎหมายกาสิโนก็ยิ่งเห็นว่ากรรมาธิการจำนวนมากไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล พรรคประชาชนมีมติไม่เห็นด้วย เลขาธิการพรรคภูมิใจไทยพูดกลางสภาว่าไม่สนับสนุน หรือพรรคร่วมรัฐบาลอื่นก็พูดถึงกฎหมายนี้น้อยจนยากที่จะบอกว่าเอากฎหมายนี้ด้วยเต็มปากเต็มคำ

กระบวนการที่เลอะจะไม่เป็นปัญหา ถ้าคุณทักษิณไม่กระเหี้ยนกระหือรือจนประกาศเรื่องนี้ออกมา และทันทีที่คุณทักษิณประกาศ แม้แต่แม่บ้านตึกพรรคก็รู้ว่ารัฐบาลเพื่อไทยต้องดิ้นรนทำเป็นนโยบายเท่านั้น

กระบวนการที่เลอะจึงกลายเป็นนโยบายที่มั่วและกฎหมายที่รั่วจนทำลายตัวเอง

 

ใน “ดีเบต” ของคุณพริษฐ์ วัชรสินธุ กับ “รองจอม” คุณศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ จากพรรคเพื่อไทย สิ่งหนึ่งที่คุณพริษฐ์ทำสำเร็จก็คือทำให้เห็นว่าร่างกฎหมายของรัฐบาลมีหลายเรื่องที่ไม่เหมือนรายงานของกรรมาธิการสภา และส่วนที่ไม่เหมือนนี่แหละที่ทำให้เกิดการตั้งคำถามถึงวาระแฝงเร้นที่ทำให้เกิดความรั่วของกฎหมายขึ้นมา

ถ้าเทียบกับ “แจกเงินหมื่น” และ “แลนด์บริดจ์” ที่เพื่อไทยโดนด่าแต่ทำต่อ ปัญหาใหญ่ของกฎหมาย “กาสิโน” คือตอบไม่ได้ว่าประชาชนได้ประโยชน์ตรงไหนเลย เงินหมื่นตอบกำปั้นทุบดินว่าคนได้เงินคือคนได้ประโยชน์ แลนด์บริดจ์อ้างคนใต้ แต่กาสิโนอ้างใครไม่ได้นอกจากนายบ่อนไม่กี่คน

ก๊วนแบกอ้างตามที่รัฐบาลอ้างว่ากาสิโนทำให้รัฐได้ค่าต๋งไปพัฒนาประเทศ ส่วนคนไทยจะได้เป็นลูกจ้างห้าง, โรงแรม, สวนสนุก, คอนเสิร์ตฮอลล์ ฯลฯ แต่ค่าต๋งจะถูกใช้พัฒนาประเทศหรือเอาไปทำงบประมาณโง่ๆ คืออนาคตที่ไม่มีใครรู้ เช่นเดียวกับโอกาสมีงานทำต่างๆ ซึ่งไม่มีใครมีหลักประกัน

ต่อให้ไม่สงสัยอย่างที่คุณพริษฐ์แฉว่าทำไมรัฐบาลจัดงาน Thacca โดยมีนักธุรกิจกาสิโนเป็นคนออกเงิน กฎหมายกาสิโนก็ทำให้คนไทยเชื่อว่ามีแต่นายทุนกาสิโนต่างชาติที่จะรวมหัวกับนักการเมืองไทยโกยเงินมหาศาล รวมทั้งกับเจ้าสัวไทยที่เตรียมรวยอีกมหาศาลจากการพัฒนาที่ดินใกล้กาสิโน

แน่นอนว่าคนไม่น้อยต้านกาสิโนเพราะเรื่องศาสนาและเพราะเหม็นหน้ารัฐบาล แต่การต่อต้านของศาสนิกชนทุกศาสนาก็มีเหตุผลที่รัฐบาลและนายแบกนางแบกไม่กล้าโต้แย้งด้วย ส่วนคนเหม็นหน้ารัฐบาลรอบนี้ก็เยอะไปหมด ผลคือรัฐบาลเดาไม่ถูกว่าเปิดศึกแล้วจะหนีไปทางไหนไม่ให้โดนยำ

น่าสังเกตว่าขณะที่พรรคประชาชนวิจารณ์เรื่องนี้เรียบร้อยเป็นผ้าพับไว้ในดีเบตทีวี รัฐบาลและเครือข่ายกลับด่าพรรคประชาชนแรงที่สุดราวเป็นหัวโจกขบวนการต้านรอบนี้ พิธีกรช่องรัฐบาลถึงขั้นบอกว่า “ไอ้ธนาธร ไอ้ต๋อม มึงต้องรับผิดชอบ พรรคมึงสลิ่มหมดแล้ว” ทั้งที่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรเลย

 

กาสิโนคือกฎหมายที่รัฐบาลเสนอต่อสภา และถ้าสภาคว่ำกฎหมายรัฐบาล รัฐบาลก็ต้องยุบสภาในที่สุด มติพรรคประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับ “วิธี” ออกกฎหมายของรัฐบาลเป็นเรื่องที่เดาได้อยู่แล้ว

แต่สิ่งที่พรรคเพื่อไทยกังวลที่สุดคืออนาคตรัฐบาล หากพรรคร่วมไม่โหวต จนกฎหมายไม่ผ่านสภา

เมื่อใดที่พรรคแกนนำรัฐบาลกลัวว่าพรรคร่วมจะไม่โหวตกฎหมายของรัฐบาล เมื่อนั้นอนาคตของรัฐบาลก็วางอยู่บนเส้นด้ายที่รอวันขาด ชะตากรรมของนายกฯ ก็เหมือนคนไต่ลวดที่ไม่รู้จะตกลงไปวันไหน เช่นเดียวกับอนาคตของคุณทักษิณและเครือข่ายซึ่งไม่มีความแน่นอนทางการเมืองเลย

ถ้าพรรคประชาชาติโหวตกฎหมายพนัน อนาคตของพรรคในพื้นที่สามจังหวัดคงไม่มีเหลือต่อไป แต่อนาคตพรรคประชาชาติไม่ใช่เรื่องที่คุณทักษิณสนใจเท่าความต้องการกฎหมายนี้อยู่แล้ว โอกาสที่พรรคจะถูกบีบให้ยอมรับกฎหมายอย่างเจ็บปวดจึงมีเท่ากับโอกาสที่ ส.ส.พรรคจะไม่ยอม

นักการเมืองสำคัญของพรรคเพื่อไทยเคยบอกผมหลังเลือกตั้ง 2566 ว่าพอสอบตก เข้าพรรคไม่มีใครคุยด้วย การบีบนักการเมืองให้ทำเรื่องที่อาจสอบตกจึงไม่ง่าย เว้นแต่จะจ่ายอย่างงาม

 

ภูมิใจไทยเป็นพรรคที่ท่าทีชัดเจนที่สุดว่าพร้อม “ปีนเกลียว” เรื่องกฎหมายกาสิโน คำพูดคุณเนวิน ชิดชอบ ว่ารัฐบาลสนใจแต่เรื่องนี้ก็ดี คำพูดลูกคุณเนวินว่ายังไงก็ไม่เอากฎหมายนี้ก็ดี และคำพูดคุณภราดร ปริศนานันทกุล ที่ส่งสัญญาณยุบสภาในวันปิดสมัยประชุมก็ดี ทั้งหมดนี้คือการสื่อสารที่คุณทักษิณไม่ต้องการฟังเลย

ต่อให้เป็นเด็กอมมือก็รู้ว่าคุณเนวินเล่นเกมไม่กลัวเพื่อไทย และต่อให้คุณอนุทิน ชาญวีรกูล จะบอกว่ามติพรรคโหวตกาสิโน แต่คำพูดเรื่องมติพรรคในวันที่รัฐบาลเลื่อนกฎหมายนี้ไม่มีความหมาย กว่าที่กฎหมายกาสิโนจะเข้าสภาอีกทีก็ปลายกันยายนหรือตุลาคม ถึงตอนนั้นจึงจะรู้จริงๆ ว่าภูมิใจไทยโหวตอย่างไร

น่าสังเกตว่าขณะภูมิใจไทยตีหัวเพื่อไทยสุดซอยกรณีกาสิโน พรรคเพื่อไทยกลับตอบโต้ภูมิใจไทยด้วยท่าทีนอบน้อมเหลือเชื่อ คุณภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งเป็นร่างสะท้อนคุณทักษิณตัดพ้อว่าไม่รู้ใครคือหัวหน้าระหว่างคุณเนวินและคุณอนุทิน ส่วนคุณอดิศร เพียงเกษ แต่งกลอนไล่ซึ่งมีความหมายแค่โชว์ลีลากลอน

ผมไม่อยากใช้คำว่าเพื่อไทยกลัวภูมิใจไทยซึ่งตรงไป

แต่ถ้าเทียบกับการตอบโต้พรรคประชาชนโดยทุกองคาพยพตั้งแต่คุณทักษิณ, คุณแพทองธาร, คุณภูมิธรรม, กีกี้, ส.ส.กลุ่มองครักษ์ หรือนายแบกนางแบก ก็จะเห็นความเล่นใหญ่ของเพื่อไทยทั้งที่พรรคประชาชนค้านเรื่องนี้เรียบร้อยเหลือเกิน

 

สิ่งที่เพื่อไทยกลัวที่สุดคือการถูกเปลี่ยนตัวโดยเอาพวกเดียวกันมาเป็นหัวหน้ารัฐบาล เพื่อไทยไม่ได้กลัวพรรคชนะเลือกตั้งอย่างพรรคประชาชนตั้งรัฐบาล เพราะพรรคประชาชนไม่มีแคนดิเดตนายกฯ ตำแหน่งนั้นหมดไปทันทีที่พรรคก้าวไกลถูกยุบ คุณณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เป็นได้แค่ผู้นำฝ่ายค้านเท่านั้นเอง

เมื่อใดที่การเปลี่ยนตัวนายกฯ จะเกิด?

คำตอบง่ายๆ คือเมื่อคนที่ผลักดันให้เพื่อไทยเป็นรัฐบาลเห็นว่าไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นต่อไป

แต่เรื่องแบบนี้จะเกิดเมื่อไรคุณทักษิณและเพื่อไทยไม่มีทางรู้ล่วงหน้า อย่างเดียวที่รู้แน่ๆ คือสัญญาณที่ไม่ปกติทางการเมืองตอนนี้มีมากและมากขึ้นทุกวัน

สงกรานต์นี้คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ได้กลับไทยอย่างที่คุณทักษิณคุย เรื่องนี้ตรงกับที่ผมเคยเขียนและพูดในรายการต่างๆ ตั้งแต่ต้นปี

การไม่ได้กลับไทยเป็นอีกดัชนีที่คุณทักษิณคงรู้ว่าไฟเหลืองส่งสัญญาณว่าไฟแดงรัฐบาลกำลังตามมา และจากนี้จะมีสัญญาณอื่นที่แรงกว่าซึ่งผมเคยพูดไว้แล้วเช่นกัน

คุณทักษิณมีสิทธิจะสร้างความมั่นใจให้กับพรรคเพื่อไทยว่าจะไม่ยุบสภาจนถึงปี 2570 แต่จิ๊กซอว์ทางการเมืองส่งสัญญาณแล้วว่าเผลอๆ เราอาจได้เลือกตั้งใหม่ในปี 2569 ด้วยซ้ำ

กาสิโนกำลังจะเป็นจุดเปลี่ยนที่จะไปสู่การยุบสภา จากนี้ก็แค่ only a matter of time