ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 18 - 24 เมษายน 2568 |
---|---|
คอลัมน์ | เหยี่ยวถลาลม |
เผยแพร่ |
เหยี่ยวถลาลม
‘กาสิโน’ ถูกกฎหมาย
เดินหน้าไปให้สุดตัว
การเสนอร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงฯ หรือที่เรียกกันว่า “พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอันใดในประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย
ในระบอบนี้ ฝ่ายหนึ่ง อาจเห็นเป็นอย่างหนึ่ง และอีกฝ่ายหนึ่ง อาจเห็นเป็นอีกอย่าง ก็ไม่เห็นจะเป็นไร
ในความแตกต่างจะต้องมีหลักเกณฑ์ ในบ้านเมืองต้องมีกฎหมาย เรื่องที่เกี่ยวข้องกับส่วนรวมย่อมต้องมี “กติกา” รองรับ ขอให้ทำกันอย่างเปิดเผย มีกระบวนการตรวจสอบและถ่วงดุลได้ก็ถือว่าเป็น “ความปกติ”
ที่จะต้องระแวดระวังสอดส่องคือ พฤติการณ์ที่ผิดปกติ!
การนำร่าง พ.ร.บ.นี้ไป “บิดเบือน” ให้โน้มเอียงไปในทางที่ว่ารัฐบาลต้องการ “กาสิโนถูกกฎหมาย” มอมเมาประชาชนจาก “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” นั้นไม่แฟร์
“กาสิโนถูกกฎหมาย” เป็น 1 ใน 10 ของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
นักทาสีกำลังแต้มสีให้ “กาสิโนถูกกฎหมาย” แปดเปื้อน ดูชั่วร้าย
การงัด “ตรรกะร้อยปี” เอามาใช้โฆษณาชวนเชื่อว่า การพนันจะสร้างความเสื่อมทรามทางศีลธรรม ขัดหลักศาสนา จะทำให้คนไทยติดการพนันงอมแงงจนสิ้นเนื้อประดาตัว บ้านแตกสาแหรกขาดนั้น
ชวนให้สัมผัสได้ถึงบรรยากาศ “การจุดไฟ” เมื่อปี 2556
รัฐบาลสมัยนั้นแถลงยุทธศาสตร์ “พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมการขนส่งของประเทศ” และ 1 ใน 10 ส่วนของโครงการนั้นก็มี “รถไฟความเร็วสูง” พ่วงด้วยเมืองใหม่ที่จะผุดขึ้นราว 30 แห่ง ซึ่งทั้งหมดนั้นคนไทยจะได้ใช้ในปี 2563
แต่ร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท เพื่อมาเปลี่ยนโฉมหน้าโลจิสติกส์ประเทศไทย ยังไม่ทันได้ผ่านรัฐสภา
“นักจุดไฟ” เขย่าขวัญผู้คนด้วยการสาดน้ำมันใส่แล้ววางเพลิง!!
ระบบยุติธรรมกับองค์กรอิสระถูกใช้เป็นกลไกเคลื่อนบดขยี้ จนความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาประเทศมลายสิ้น ตุลาการถึงกับโชว์ลีลาสะบัดสำนวนว่า “ให้ถนนลูกรังหมดจากประเทศเสียก่อน แล้วถึงค่อยคิดมีรถไฟความเร็วสูง”
ทุกระบบบรรจบกันในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557
ถึงวันนี้ 11 ปีล่วงผ่านไป ประเทศได้อะไร
ประเทศเพิ่งจะได้ปลดโซ่ตรวนและได้รัฐบาลพลเรือนมาเมื่อกลางปี 2566 จะถูกใจหรือไม่ถูกใจ แต่โดยความชอบธรรมรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งควรจะได้อยู่ครบวาระ 4 ปี เว้นแต่ “ลาออก” หรือ “ยุบสภา”
ส่วนที่เรียกว่า การต่อสู้กันทางการเมืองระหว่างฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลนั้น เป็นเรื่องปกติที่ผู้บริโภคสดับรับฟังแล้วใคร่ครวญให้เกิดประโยชน์
การเมืองในระบอบนี้มีเงื่อนไขที่ “ความเปิดเผย”
ผู้คนมีเสรีภาพที่จะตีแผ่ความจริงได้โดยไม่ผิดกฎหมาย เว้นแต่หมิ่นประมาท ใส่ร้ายป้ายสี ซึ่งหลายกรณีการเมืองก็มากไปด้วย “สี” และการบิดเบือน
แต่ว่าไปแล้ว ทุกรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งก็มีความอดทนกับแรงเสียดทานมากกว่ารัฐบาลทหารหลายเท่า
“เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ที่รัฐบาลชุดนี้กำลังผลักดันจะให้เกิดขึ้นก็ถูกบิดเบือนเช่นกัน
ศักยภาพของประเทศไทยพร้อมทุกอย่างที่จะเป็นจุดศูนย์กลางและศูนย์รวมการท่องเที่ยวในภูมิภาค “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” แค่การต่อยอดอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
“กาสิโนถูกกฎหมาย” ก็แค่ 1ใน 10 ของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
ถามว่า หากประเทศไทยแชร์ส่วนแบ่งมาจากเพื่อนๆ ทั่วภูมิภาคนี้ เพื่อนจะแฮปปี้หรือ
ลาว กัมพูชา เวียดนาม เมียนมา มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และจีน ไม่มีประเทศไหนที่ “ล่มจม” จากการมี “กาสิโนถูกกฎหมาย”
ในยุโรปกับสหรัฐอเมริกาไม่ต้องพูดถึง
แต่ทุกครั้งที่มีคนกลุ่มหนึ่ง “จุดกระแส” ต่อต้านกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศไทย จะมี “จำนวนหนึ่ง” อ่อนไหวง่าย
“กาสิโนถูกกฎหมาย” นั้นเป็นงานสะอาด อยู่ในที่สว่าง กฎหมายบัญญัติจัดระเบียบ จะเกิดความเรียบร้อย เป็นประโยชน์และปลอดภัย
ถ้าการพนันสกปรก ชั่วร้ายคล้ายภูตผีปีศาจแล้วแทบทุกบ้านเล่นพนันสังสรรค์ในครอบครัวกันทำไม ยิ่งไปกว่านั้น ทุกต้นเดือนและกลางเดือน แทงหวยกันทำไม
หากจะเอาดีกันจริงๆ ไม่เสแสร้งแกล้งดี เพื่อปกป้องศีลธรรมไม่ให้ตกต่ำ คุ้มครองสังคมไม่ให้เสื่อมทราม ยกเลิก “สลากกินแบ่งรัฐบาล” กับการพนันทุกชนิดให้หมดจะดีไหม
เลิกเก็บภาษีบาปจากอบายมุขไปใช้กับสาธารณประโยชน์ทั้งหลายด้วย
“เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ไม่ใช่เป็นงานศาสนา แต่เป็นธุรกิจการค้า มีรายรับรายจ่าย เป็นเรื่องของผลประโยชน์ ทั่วโลกทำกันเป็นปกติ และทำกันได้อย่างดี อย่างหรู และปลอดภัยสูงสุด
เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของคนอีกประเภทหนึ่งจำนวนหนึ่ง ไม่ใช่สำหรับทุกคนในโลก
ถ้าจะมีในประเทศไทยก็ไม่ผิด ไม่ได้พิสดารอะไร
ที่นายกรัฐมนตรี “แพทองธาร ชินวัตร” พูดไว้จึงเห็นว่าใช่
“เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ นโยบายนี้แถลงต่อรัฐสภาอยู่แล้ว หวังเป็นอย่างยิ่งจะได้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในรูปแบบใหม่ๆ มีทางออกใหม่ๆ ที่จะทำให้เกิดการจ้างงาน มีโรงแรม มีร้านอาหาร มีงานบริการ มีการพัฒนาทักษะที่สูงขึ้นเกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจครั้งใหญ่”
เพียงแต่งานนี้ มีคนทาสีให้ภาพออกมาเป็นบ่อนการพนัน พร้อมกับโหมประโคมโพสต์รัวๆ ว่าประเทศจะเต็มไปด้วยกาสิโน เด็ก, ผู้หญิง, ผู้ชาย, ผู้ใหญ่ผู้น้อยจะบ้าการพนันกันไปหมด
จริงทีเดียว ที่ว่า คนเรามักจะรู้สึกปลอดภัยในที่ที่คุ้นเคย และมักคุ้นชินกับสิ่งเดิมๆ จึงไม่ยอมเปิดรับสิ่งใหม่
แต่ถ้ากล้า “ก้าวขาออกมา” จากที่เก่า แล้วเหยียดเหยียบย่ำเดินต่อไปข้างหน้า แน่นอนว่า จะต้องพบกับ “สิ่งใหม่”
“ความกลัว” จะปิดทางในการก้าวไปสู่การสร้างสรรค์
ตรรกะบางอย่างจึงยังถูกใช้ได้นานนับศตวรรษ เช่น คนกลัวผี
กระนั้นก็ตาม ความแตกต่างที่ตั้งอยู่ความสุจริตและเป็นธรรมชาตินั้นถือเป็นเรื่องปกติ
จะไม่ปกติก็มีแต่พวกที่สูญเสียสติสัมปชัญญะในการยับยั้งชั่งคิด จงใจบิดเบือนเรื่องราว กระทั่งบางทีมีแผนซ่อนเร้น ดับความหวัง ล้มกระดาน เป็นอุปสรรคขัดขวางการพัฒนา!?!!!
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022