ทำไม ‘มวยไทย’ ไปไม่ถึงไหน มรดกที่ลูกหลานทะเลาะกัน หยุดแบ่งก๊ก-ทำสิ่งที่ถูกต้อง

กีฬามวยไทย กำลังขับเคลื่อนเผยแพร่ไปสู่ระดับนานาชาติขององค์กรที่รับผิดชอบหลักอย่าง สหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA) โดยมีเครือข่ายที่ถูกต้องอย่าง สมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย (AMTAT) และ สมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย (PAT)

อีกด้านหนึ่งที่เข้ามาช่วยเสริมตามนโยบายของรัฐบาลนั่นคือ คณะอนุกรรมการซอฟต์เพาเวอร์ด้านกีฬาขับเคลื่อนเผยแพร่กีฬามวยไทยด้วยเช่นกัน

แม้ว่าที่ผ่านมา ภารกิจอาจซ้ำซ้อน และขัดแข้งขัดขากันไปบ้าง สังคมกีฬาอาจสับสนกันไปบ้าง แต่ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะหากทุกฝ่ายร่วมมือกัน “กีฬามวยไทย” ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศไทยจะได้ไปสร้างการรู้จัก สร้างความนิยมไปทั่วโลก

ไม่ว่าจะพันธกิจของหน่วยงานใด องค์กรใด หากทำแล้วไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน คุ้มค่ากับงบประมาณของภาครัฐก็น่าจะสร้างประโยชน์กลับมาสู่ประเทศไทยผ่านกีฬา “มวยไทย” ได้เช่นกัน

 

องค์กรมวยไทยของเรากำลังทำ 2 ส่วนควบคู่กันไปนั่นคือ สหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA), สมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย (AMTAT) และ สมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย (PAT) ขับเคลื่อน “กีฬามวยไทย” ในด้านความเป็นเลิศเป็นเลิศตามโครงสร้างกีฬาสากลที่ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) รับรองเพื่อเป้าหมายใหญ่คือ การผลักดัน “กีฬามวยไทย” ให้ได้รับการบรรจุแข่งขันในมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติอย่าง โอลิมปิกเกมส์ ฤดูร้อน และเวลานี้สำเร็จไปแล้วส่วนหนึ่งคือ กีฬามวยไทยไปอยู่ในตะกร้าชนิดกีฬาที่ไอโอซีจะหยิบยกไปเลือกชนิดกีฬาบรรจุในขั้นตอนสุดท้าย

ในส่วนของซอฟต์เพาเวอร์ที่โปรโมตโหมโรงกีฬามวยไทย มีทั้งจัดแข่งขัน มีทั้งพาครูมวยเดินสายโรดโชว์มวยไทยไปทั่วโลกตลอดทั้งปี เพื่อกระตุ้นให้ชาวต่างชาติเรียนรู้และฝึกฝนกีฬามวยไทย และหวังดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาประเทศไทยเพื่อต่อยอดการเรียนรู้กีฬามวยไทย

ดูผิวเผินเป็นเรื่องที่ดี หากการทำงานทั้ง 2 ส่วนทำด้วยใจบริสุทธิ์ไม่ขัดแข้งขัดขากันเอง และเอาเรื่องผลประโยชน์ของกีฬามวยไทยเป็นที่ตั้ง

กีฬามวยไทย จะไปได้ไกลกว่านี้ตั้งนานแล้วหากคนไทยไม่ทะเลาะกันเอง และร่วมมือกันทำงาน

 

เคยสงสัยกันไหมว่า กีฬามวยไทยทำไมถึงไม่ได้รับการผลักดันบรรจุแข่งขันในมหกรรมกีฬาระดับทวีปอย่างเอเชี่ยนเกมส์ ทั้งๆ ที่กีฬาระดับทวีปทั้งยุโรป, อเมริกาใต้ หรือแพนอเมริกันเกมส์ ต่างบรรจุ “กีฬามวยไทย” กันไปหมดแล้ว

คำตอบคือ คนในวงการมวยไทยในประเทศแม่อย่างประเทศไทยมัวแต่มานั่งทะเลาะกัน แก่งแย่งกัน สมัยก่อน คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ต้องเป็นผู้ผลักดันไปยัง สภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ) แต่คีย์แมนบ้านอัมพวันกลับไม่สนใจที่จะผลักดันเพราะองค์กรมวยไทยที่ถูกต้องและได้รับการรับรองจากไอโอซี ดันอยู่คนละขั้ว คนละฝั่งกับคีย์แมนบ้านอัมพวัน

สมัยก่อนคณะกรรมการโอลิมปิคฯ ของไทยสนับสนุนสมาคมกีฬามวยไทยฯ อีกสมาคมหนึ่ง ปัญหาแย่งความชอบธรรมในการทำหน้าที่บริหารจัดการกีฬามวยไทยในประเทศไทยถึงขั้นตั้งกัน 2 สมาคม

และน่าประหลาดตรงที่การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) รับรองให้ใช้ “แห่งประเทศไทย” ทั้ง 2 สมาคม

 

สุดท้ายต้องพึ่งพาศาลปกครองในการตัดสิน พอทุกวันนี้เหลือองค์กรเดียวที่ถูกต้องและชอบธรรมทั้งหลักการกีฬาในเมืองไทย และหลักการกีฬาสากลทั่วโลก

แต่ความบาดหมางในอดีต และผลประโยชน์อันมหาศาลในวงการกีฬามวยไทย ยังคงมีอยู่ต่อเนื่องทำให้คนมวยไทยแตกก๊ก แตกเหล่า แย่งชิงอำนาจ แย่งชิงความชอบธรรม แย่งชิงผลงาน แย่งชิงงบประมาณกันอยู่ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อวงการมวยไทยในระยะยาว

เคยคุยกับคีย์แมนระดับเฮดของซอฟต์เพาเวอร์ แม้จะเพิ่งเข้ามาทำมวยไทยไม่นาน แต่ก็ต้องยอมรับว่า ขับเคลื่อนมวยไทยซอฟต์เพาเวอร์และดึงนักท่องเที่ยวกลับเข้ามาเมืองไทยได้จำนวนหนึ่ง

แต่มุมมอง ทัศนคติที่มีต่อกีฬามวยไทยกลับย้อนแย้ง คีย์แมนรายนั้น บอกว่า ไม่มีวันที่ “กีฬามวยไทย” จะไปได้รับการบรรจุกีฬาโอลิมปิกเกมส์

ถามกลับว่า ทำไมคำตอบที่ได้รับคือ มวยไทยต่อแถวชาติมหาอำนาจอื่นๆ ที่ผลักดันชนิดกีฬาของเขา เช่น จีนผลักดันกีฬาวูซู เราจะไปแซงหน้าจีนได้ไง

ถามว่าถูกไหมที่วิเคราะห์มา ตอบได้ว่า ก็อาจจะถูกต้อง แต่สิ่งที่ไม่เข้าใจคือ การผลักดันกีฬามวยไทยไปบรรจุโอลิมปิกเกมส์ ที่อีกฝ่ายหนึ่งกำลังดำเนินการทำกันอยู่ไม่สมควรอย่างนั้นหรือ…?

ถ้าองค์กรที่ถูกต้องที่ไอโอซีรับรอง ไม่ทำ แล้วองค์กรอื่นทำได้อย่างนั้นหรือ…? หรือต้องเป็นองค์กรของตัวเองเท่านั้นที่จะทำ ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่า ขบวนการ วิธีการในการดำเนินการไม่ถูกต้อง เลือกจับมือกับองค์กรที่ผิดระบบสากลกีฬา แต่ก็ใช้วิธีหลับตาข้างหนึ่งเพื่อเอื้อเฟื้อผลประโยชน์ให้พวกพ้องอย่างนั้นหรือ

คนไทยมัวแต่ทะเลาะกันเอง มัวแต่สกัดขากันเอง นี่หรือวิถีคนกีฬา

 

ถามกลับเสียงดังๆ ว่า ทำไมไม่เลือกเดินบนเส้นทางที่มันถูกต้องทั้งในประเทศ และหลักสากลเขาทำกัน

ถ้าเข้ามาวงการมวยไทยแล้วไม่ได้ “รักจริง” มาเพื่อผลประโยชน์ของพวกพ้อง มาเพื่อสร้างความอึดอัดให้กับหน่วยงานภาครัฐที่จำเป็นต้องอนุมัติงบประมาณไปเพื่อการ “ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ”

หยุดซะเถอะ…เพราะมันไม่เกิดประโยชน์ด้านดีต่อวงการกีฬามวยไทยในระยะยาว เห็นใจคนที่เขาก้มหน้าก้มตาทำงานตามขบวนการเขาบ้าง

หากจะเข้ามาชั่วครู่ ชั่วคราวเพื่อตักตวงผลประโยชน์แล้วทำลายความตั้งใจของกลุ่มที่ขับเคลื่อนเพื่อประโยชน์โดยภาพรวมของวงการมวยไทย หยุดซะเถอะกับการตักตวงผลประโยชน์ด้วยการถลุงเงินจากภาษีของประชาชน

กลับตัวมาทำในสิ่งที่ถูกต้อง และคนกีฬามวยไทยก็ควรหยุดทะเลาะกัน หยุดแบ่งก๊กกันได้แล้ว

กีฬามวยไทยเป็น “มรดก” ของคนไทย ไม่ใช่มีไว้ให้ลูกหลานสมอ้างทำมาหากินแบบที่เป็นกันอยู่…!!! •

 

เขย่าสนาม | เงาปีศาจ