ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 18 - 24 เมษายน 2568 |
---|---|
คอลัมน์ | ยานยนต์ |
ผู้เขียน | สันติ จิรพรพนิต |
เผยแพร่ |
ไม่เกินความคาดหมาย กับการแนะนำรถยนต์ออฟโรดเครื่องยนต์ใหม่ “TANK 300 Diesel” จากค่าย GWM หรือ เกรทวอลล์มอเตอร์
เพราะกลายเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ในงาน “มอเตอร์โชว์ 2025”
ส่งให้ GWM ติดอันดับที่ 6 ค่ายรถที่มียอดจองสูงสุดในงาน
โดย “TANK 300 Diesel” กวาดยอดจองไปเกินครึ่ง
ต้องบอกว่านอกจากรูปทรงย้อนยุค ที่ครอบลงบนเทคโนโยลีนำสมัยแล้ว
การตั้งราคาและการรับประกัน มีผลอย่างมากต่อการตัดสินใจ
เพราะนี่คือรถรุ่นใหม่ที่ GWM กล้ารับประกันนานถึง 8 ปี หรือ 1 ล้านกิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
แถมราคาในงานมีโปรโมชั่นถูกกว่าเดิม 30,000 บาท
จนรุ่นเริ่มต้นมีราคาไม่ถึง 1 ล้านบาท
แต่หลังจบงานปรับขึ้นราคาปกติ ก็ยังถือว่าถูกอยู่ดี หากเทียบกับขนาดตัวถังที่พอฟัดพอเหวี่ยงกลับกลุ่มรถปิกอัพดัดแปลง หรือพีพีวี ในเมืองไทย
ภาพลักษณ์ภายนอก ดูเอกลักษณ์แบบแนวเรโทร แต่แฝงไว้ด้วยความท้นสมัยตามจุดต่างๆ
ตัวรถเน้นเหลี่ยมสัน ให้ความรู้สึกแข็งแกร่ง
กระจังหน้าหน้าแนวนอนพร้อมโลโก้ “TANK” ขนาบข้างด้วย
ไฟหน้า LED ทรงกลมพร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติและปรับระดับสูงต่ำ
กันชนหน้าขนาดใหญ่พร้อมแผ่นกันกระแทก พร้อมไฟตัดหมอก LED ฝังในกันชน
โป่งล้อขนาดใหญ่เพิ่มความดุดันมากขึ้น
กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัว ปรับ-พับไฟฟ้า มีระบบไล่ฝ้า
ประตูท้ายแบบเปิดข้างพร้อมระบบดูดไฟฟ้า
ติดตั้งยางอะไหล่แขวนหลัง
มีสปอยเลอร์เพิ่มความสปอร์ตมากขึ้น
ไฟท้าย LED ทรงแนวตั้ง รับกันดีกับกันชนหลัง พร้อมแผ่นกันกระแทก
ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง All-Terrain
ติดตั้งบันไดข้างเพือความสะดวกในการขึ้น-ลง
เสาอากาศครีบฉลาม
มิติตัวถัง (กว้าง x ยาว x สูง) 1,930 x 4,760 x 1,903 ม.ม.
ระยะต่ำสุดจากพื้น 224 ม.ม.
ลุยถนนทุรกันดาร หรือระดับน้ำสูงๆ ได้สบาย
หากเทียนบกับกลุ่มพีพีวีในเมืองไทยหลายรุ่น แม้ความยาวจะน้อยกว่า แต่ความกว้างและความสูงมีมากกว่า
แน่นอนว่าทำให้ห้องโดยสารดูโปร่ง และนั่งสบายมากขึ้น
ภายในเน้นโทนดำ แบบผู้ชายลุยๆ พร้อมเน้นความคลาสสิคด้วยการตกแต่งสีเงิน ตามจุดต่างๆ
พวงมาลัย 3 ก้านพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น มีแป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
มาตรวัด Full Digital ขนาด 12.3 นิ้ว มีหน้าจอแสดงข้อมูลบนกระจกบังลมหน้า
ขยับมาตรงกลางจออินโฟเทนเมนต์ ขนาด 12.3 นิ้ว เท่ากัน
รองรับ Apple CarPlay / Android Auto
ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth
ลำโพง 6 ตำแหน่ง พร้อมระบบปรับระดับเสียงอัตโนมัติตามความเร็วรถ
ต่ำลงมาเป็นช่องแอร์ทรงกลมตัดสีเงินทรงไอพ่น ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ
เจาะช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังมาให้ด้วย
คอนโซลกลางวางคันเกียร์แบบ Electronic e-Shifter ดูล้ำสมัยสุดสุด
พร้อมปุ่มเปลี่ยนโหมดการขับขี่แบบหมุน ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น
เบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมฟังก์ชั่น Auto Brake Hold
เบาะนั่งหนัง Nappa และหนังสังเคราะห์
เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง มาพร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง และ welcome seat
หลังคาซันรูฟ เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
มาถึงจุดเด่นที่สุดอีกอันหนึ่งไม่พ้นเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด
สำหรับ GWM ไม่ได้เด่นเฉพาะขุมพลังไฟฟ้า ไฮบริด หรือเบนซินเท่านั้น
แต่เครื่องดีเซลมีประสบการณ์พัฒนามากว่า 30 ปีแล้ว
ใช้งบประมาณลงทุนไปแล้วราวๆ 1 พันล้านบาท
เป็นขุมพลังที่ใส่ในรถยนต์ GWM TANK และ GWM POER
เครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เทอร์โบแปรผัน (VGT) ให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 480 นิวตัน-เมตร
อัตราเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 11 วินาที
ทำงานควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด
ที่น่าสนใจคือสามารถเปลี่ยนเป็นเกียร์ 9 ได้ที่ความเร็วเพียง 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง
อัตราการบริโภคน้ำมัน 14 กิโลเมตร/ลิตร (ตาม Eco Sticker)
เคลมว่าในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ น้ำมันหนึ่งถังสามารถขับขี่ได้ระยะทางกว่า 1,000 กิโลเมตร
อีกจุดเด่นของขุมพลังนี้คือติดตั้งเทคโนโลยีลดการสั่นสะเทือน และพัฒนาเทคโนโลยีในการลดเสียงรบกวน NVH (Noise, Vibration, Harshness)
ผลที่ได้ เครื่องที่เงียบกว่าเครื่องดีเซลอื่นๆ โดยเสียงเล็ดลอดเข้ามาในห้องโดยสารพอๆ กับเครื่องยนต์เบนซิน
ระบบช่วยเหลือการขับขี่ เด่นๆ อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ, เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก
ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนด้านหน้า-ด้านหลัง
ช่วยเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วต่ำ, ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน, ช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA
ช่วยเตือนมุมอับสายตา, ช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง, ช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง, ช่วยเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง
แจ้งเตือนเมื่อเปิดประตูรถ ฯลฯ
ส่วนถ้าเป็นรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่เพิ่มเติมเข้ามา เช่น ระบบช่วยกลับรถในที่แคบ
ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แบบ Off-Road Cruise Control
ระบบล็อกเฟืองขับด้านหลัง Electronic Differential Lock-Rear
ปุ่มควบคุม Terrain Modes บนคอนโซลกลาง (7 โหมด)
มาตรวัดองศารถและเข็มทิศบนหน้าจอ
TANK 300 DIESEL มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย
PRO 2WD ราคา 1,029,000 บาท
ULTRA 2WD ราคา 1,179,000 บาท
และ ULTRA 4WD 1,279,000 บาท •
ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022