ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 11 - 17 เมษายน 2568 |
---|---|
คอลัมน์ | อาชญากรรม |
เผยแพร่ |
อาชญากรรม | อาชญา ข่าวสด
กระชากหน้ากาก ‘ไฮโซเก๊’
ลวงวิวาห์ดาราสาว ‘คะน้า’
อ้างเบื้องสูง-นักการเมือง
สุดท้ายคอตกเข้าเรือนจำ
กลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ เพียงชั่วข้ามคืน กับกรณี ‘นายฮอต ไฮโซเก๊’ กับดาราสาว ‘คะน้า ริญญารัตน์’ เพราะงานนี้ลุกลามไปไกลทั้งวงการการเมือง ทหาร ตำรวจ ที่สำคัญอาจถึงขั้นเป็นคดีหมิ่นเบื้องสูง
เรื่องราวการออกมาแฉไฮโซเก๊ครั้งนี้ เริ่มต้นขึ้นเมื่อราวกลางเดือนมีนาคม 2568 เมื่อดาราสาว ‘คะน้า ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ’ โพสต์ไอจี แจ้งข่าวดีว่าถูกแฟนหนุ่มไฮโซขอแต่งงานแล้ว โดยเจ้าตัวโพสต์ภาพจับมือกับแฟนหนุ่ม เห็นแหวนเพชรเม็ดโตสวมที่นิ้วนาง พร้อมทั้งเขียนข้อความว่า “I say yes มีคนมาขอละนะ” ทำเอาคนในวงการบันเทิงต่างเข้ามาคอมเมนต์แสดงความยินดี
แต่หลังจากนั้นเพียงแค่ 4 วัน จู่ๆ เย็นวันที่ 21 มีนาคม ดาราสาวก็ประกาศว่าโสดแล้ว!! โดยระบุสาเหตุว่า ช็อก เจอโลกสองใบกับตัวเอง
เหตุการณ์ควรจะจบลงเพียงแค่การยุติความสัมพันธ์ หากดาราสาวไม่ไปพบความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับตัวอดีตคนรัก ว่าทั้งหมดที่ผ่านมาล้วนแต่เป็นเรื่องหลอกลวง
วันที่ 7 เมษายน นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง พร้อมด้วย ‘คะน้า ริญญารัตน์’ มาออกรายงานโหนกระแส ของหนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย พร้อมแฉพฤติกรรมของอดีตแฟนหนุ่มชนิดหมดเปลือก โดยโชว์หลักฐานทั้งรูปถ่าย หลักฐานการแชตที่อ้างว่าคุยกับคนใหญ่คนโตในบ้านเมือง
คะน้าเล่าว่า รู้จักกับนายฮอต ผ่านแอพพลิเคชั่นหนึ่ง เมื่อช่วงปลายปี 2567 ฝ่ายชายทักมาพูดคุยด้วย ก็เลยลองคุยดูแต่ก็ยังไม่เคยพบกัน กระทั่งวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ขณะที่ตนไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ฝ่ายชายทักว่ามาเที่ยวใกล้ๆ กันจะมาหา เอาดอกไม้มาให้ พอไปเจอทีแรกก็แอบตกใจนิดหน่อย แต่ด้วยความที่เป็นคนมองโลกในแง่ดี ก็คิดว่าคงเป็นคนใจดี ประกอบกับพูดคุยกันถูกคอ ก็เลยแลกไอจีกัน
เธอยอมรับว่าเป็นคนที่รู้สึกอยากได้ความรักความใส่ใจ พอมาเจอนายฮอต ที่คอยเอาใจใส่ มาเจอกันทุกวัน คอยรับ-ส่ง ไปนั่งรอทำเล็บ-ทำผม เลยทำให้ใจอ่อน แม้นจะไม่ได้ถูกใจที่รูปร่างหน้าตา
“เขาดีกับเรามาก เขาดูแล เทกแคร์เรามากๆ ไม่ใช่รักเรา รักครอบครัวของเรามาก เพราะรู้ว่าคะน้ารักแม่มาก เขามาถูกจุด เทียวรับเทียวส่งเรากับแม่เราด้วย พูดจาดี พูดจาหวาน” คะน้ากล่าว

ดาราสาวเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ของเธอกับนายฮอต ที่ดำเนินต่อมาอีกราว 1 เดือน จนถึงขั้นตัดสินใจจะแต่งงานว่า ระหว่างที่คบกันฝ่ายชายบอกว่าตัวเองทำธุรกิจค้าเพชรและเป็นนักการเมือง โดยมีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาให้กับผู้ใหญ่ในรัฐบาล และยังอ้างว่าทำงานกับเบื้องสูง
ทั้งยังบอกว่าบิดาเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพรรคไทยรักไทย มีความสนิทชิดเชื้อกับนายทักษิณ ชินวัตร เป็นอย่างดี เดินทางไปไหนมาไหนมีรถ สห.นำขบวน
แต่เมื่อนำชื่อไปเช็กข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตกลับไม่พบ ซึ่งทางนายฮอตบอกว่าตำแหน่งของตนเป็นตำแหน่งสำคัญ จึงไม่มีการเปิดเผยทางอินเตอร์เน็ต รวมทั้งที่ผ่านมาเคยพาไปเจอกับคนใหญ่คนโตหลายๆ คนจึงเชื่อใจ
ต่อมานายฮอตอ้างว่า พบข้อมูลว่าเธอกับแฟนเก่ามีเส้นทางการเงินเกี่ยวข้องกับเรื่องผิดกฎหมาย อาจถูกดำเนินคดี แต่เขาสามารถช่วยเหลือได้พร้อมอ้างชื่อคนใหญ่โตในรัฐบาล และ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เป็นคนช่วยเหลือ แต่หากสำเร็จต้องซื้อไวน์ไปตอบแทนให้ผู้ใหญ่เป็นเงิน 98,000 บาท เธอจึงได้โอนเงินให้ไป
ล่าสุดก่อนที่เป็นข่าว นายฮอตขอเธอแต่งงาน พร้อมนำใบสมรสพระราชทานมากดดันทำให้ไม่กล้าปฏิเสธ โดยนายฮอตมอบเครื่องเพชร และทองคำหนักรวม 50 บาท เป็นสินสอดในการหมั้นหมาย เธอจึงโพสต์รูปจับมือกับฝ่ายชายที่มีแหวนเพชรที่นิ้วนางข้างซ้ายลงไอจี
พอเราลงรูป ก็มีผู้หวังดี DM มาบอก ว่าลองเช็กที่นี่ๆ สิ เบอร์นี้สิ ก็เลยโทร.ไป ปรากฏว่าผู้หญิงรับสาย รอบแรกเขาถามว่าเราเป็นใคร เกี่ยวข้องอะไรกับคนนี้ ไม่ได้วีนอะไรน้ำเสียงปกติ
พอผ่านไป 3 ชั่วโมง เขาโทร.กลับมา แล้วบอกว่า “ฉันเป็นเมียเขานะ ฉันคบมา 3-4 ปีแล้ว” เราก็ได้ยินเสียงผู้ชาย เราจำเสียงเขาได้ เหมือนทะเลาะกัน เลยยิ่งมั่นใจว่าเขาอยู่ด้วยกัน จึงประกาศยุติความสัมพันธ์ทางไอจี
ส่วนที่ทำไมถึงออกมาแฉนายฮอตนั้น กัน จอมพลัง เผยว่า หลังตัดสินใจเลิกกัน คะน้าก็จะนำทองสินสอดไปคืนให้ฝ่ายชาย แต่พบว่าทองลอกจึงรู้ว่าเป็นของปลอมทั้งหมด ประกอบกับพอเช็กประวัติก็พบว่ามีคดีหลอกลวงติดตัว จึงกลัวเรื่องความปลอดภัย และไม่ต้องการให้ไปหลอกลวงใครอีก

ยังไม่ทันได้เป็นคดี ขณะที่ดาราสาวแฉเรื่องราวอยู่นั้น ตำรวจ สน.โคกคราม ก็รับแจ้งเหตุคนพยายามกระโดดจากชั้น 3 อาคารแห่งหนึ่ง โดยตะโกนต่อว่าดาราสาว อ้างว่าตนถูกแบล็กเมล์เรื่องเงิน 10 ล้านบาท ต่อมาเจ้าหน้าที่ให้ภรรยาและพี่สาวไปเกลี้ยกล่อมกว่า 30 นาที เจ้าตัวจึงยอมลงมา
จากการสอบสวนทราบชื่อต่อมาคือ นายธัญเทพ ศิริทรัพย์เดชากุล หรือนายฮอต อายุ 32 ปี โดยเจ้าตัวปฏิเสธว่าเรื่องที่ดาราสาวแฉออกทีวีนั้นไม่เป็นความจริง ตนไม่เคยรู้จักคนใหญ่คนโตอะไรทั้งนั้น
แต่ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพาไปตรวจปัสสาวะที่ห้องน้ำ ชั้น 3 ของ สน.โคกคราม นายฮอตกลับวิ่งไปที่ระเบียงก่อนกระโดดลงมาร่างกระแทกหลังคาที่จอดรถก่อนร่วงลงไปนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นปูน เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล
พอเป็นข่าวใหญ่ โลกโซเชียลก็ขุดประวัติและภาพต่างๆ ของนายฮอตออกมาแฉกันชนิดหมดไส้หมดพุง ทั้งรูปที่ถ่ายกับนักการเมือง คนดัง หรือแม้แต่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็ถูกเอาไปแอบอ้างว่าจะแต่งตั้งให้นายฮอตเป็นรัฐมนตรี รวมทั้งคลิปวิดีโอที่มีเจ้าหน้าที่ สห.ขี่รถนำระหว่างไปรับ-ส่งดาราสาวที่บ้าน
เล่นเอาสะเทือนไปทั่วทั้งวงการนักการเมือง ทหาร ตำรวจ พากันออกมาปฏิเสธว่าไม่เคยรู้จักกับนายฮอต โดยเฉพาะ น.ส.แพทองธาร และ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ที่ถูกทำบัญชีไลน์ปลอมเอาไปหลอกลวงเหยื่อ จึงส่งตัวแทนแจ้งความเอาผิดนายฮอต
ต่อมาเวลา 16.00 น. วันที่ 8 เมษายน ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) กัน จอมพลัง พาคะน้า ริญญารัตน์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.พชรเดช บุญฤทธิ์ รอง ผกก.1 บก.ป. เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายฮอต ในความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง
คะน้ากล่าวว่า ที่มากองปราบฯ ในวันนี้ก็เพื่อมาแจ้งความดำเนินคดีกับนายฮอต เกี่ยวกับเรื่องแอบอ้างเบื้องสูง โดยนำพยานหลักฐานต่างๆ ทั้งภาพและคลิปเสียง รวมถึงแชตข้อความสนทนา ที่มีเนื้อหาพาดพิงแอบอ้างถึงสถาบัน มามอบให้กับทางตำรวจกองปราบฯ พิจารณา ว่าการกระทำนั้นเข้าข่ายความผิดใดบ้าง

หลังจากที่เกิดเรื่องนี้ ก็มีเหยื่อที่ถูกหลอกแบบนี้ แล้วทักหาประมาณ 5-6 เคส พบว่าลักษณะถูกหลอกคล้ายกัน ทั้งแอบอ้างเบื้องสูง เป็นข้าราชการ และยังทำคนท้องด้วย อีกทั้งยังมีคนที่โดนถ่ายคลิปแบล็กเมล์ แต่เขาไม่กล้าออกมา ส่วนตัวหลังจากที่ออกมาเปิดเผยเรื่องราวทั้งหมด รู้สึกว่าคิดถูกแล้วที่ออกมาเป็นกระบอกเสียงให้กับทุกคน ถึงแม้ว่าจะมีกระแสตีกลับมาบ้าง แต่ก็รู้สึกว่าเราได้ช่วยขจัดภัยสังคม เพราะหลายคนได้รับความเสียหาย ตั้งแต่ระดับเบื้องบน นายกรัฐมนตรี ผู้ใหญ่อีกมากมาย รวมไปถึงเหยื่อ ทุกคนจะได้กล้าออกมาเอาผิดตรงนี้ ไม่ให้เขาไปหลอกใครอีก
ส่วนที่พิสูจน์แล้วว่าทองและเพชรเป็นของปลอม ตนไม่ได้ตกใจเพราะรู้อยู่แล้ว เชื่อว่าทั้งตัวก็มีแค่หน้าเขาที่จริง ส่วนที่เหลือก็ไม่รู้เลยว่ามีอะไรจริงบ้าง ทั้งหน้าที่ การงาน ชีวิต และคำพูดเขา ไม่มีอะไรจริงเลยสักอย่าง
‘คะน้า’ ยังกล่าวว่า ได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณหมอที่เป็นแฟนกับนายฮอตด้วย ซึ่งทราบว่าเขาจะแต่งงานกันทั้งหมด 3 รอบแล้ว แต่ก็หาข้ออ้างมาล่มทุกครั้ง คุณหมอก็ตกเป็น 1 ในเหยื่อที่โดนหลอก ถูกหลอกไปกว่า 10 ล้านบาท แต่เขาก็ยังอยู่ด้วยกัน
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายฮอตปรากฏภาพร่วมกับแกนนำพรรคเพื่อไทยหลายคน โดยสวมเสื้อพรรคเพื่อไทยว่า เวลาเราไปทุกที่ ทุกจังหวัด ทำเนียบรัฐบาล หรือแม้แต่พรรค ก็มีบางคนเขาอยากถ่ายรูปด้วย มีหลายรายที่เป็นอย่างนี้ ซึ่งตนก็เคยโดนเอาไปอ้างก็ได้จัดการไป 1-2 รายแล้ว กรณีของตนก็ให้ตำรวจตามเลย เพราะฉะนั้นตรงนี้เวลาถ่ายรูปคนที่เราไม่แน่ใจก็ดึงคนอื่นเข้ามาถ่ายรูปด้วย
ส่วนกรณีมีข่าวว่านายทหารเข้าไปช่วยเคลียร์ ตนสั่งให้ตรวจสอบแล้ว รวมทั้งเรื่องสารวัตรทหารที่ขี่รถนำขบวนก็เอามาสอบแล้ว เขาก็รับสารภาพทั้งหมดว่ารถที่นำมาใช้ไม่ใช่รถราชการ เป็นรถส่วนตัวที่ไปดัดแปลง ผู้บังคับบัญชาก็สั่งขังแล้ว
ขณะที่อาการของนายฮอต แพทย์ตรวจพบว่ามีอาการกระดูกสันหลังแตก แต่ยังไม่หนักถึงกับต้องผ่าตัด หลังออกจากโรงพยาบาลจึงถูกคุมตัวส่งศาลอาญา ตลิ่งชัน เพราะเจ้าตัวมีคดีฉ้อโกงเมื่อปี 2564 ค้างอยู่ หลังถูกนำตัวส่งให้ศาล ปรากฏว่าไม่มีญาติหรือใครมาประกันตัว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงคุมตัวนายฮอตไปขังที่เรือนจำพิเศษธนบุรีต่อไป
ขณะที่ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวว่า พฤติกรรมของนายฮอตเข้าข่ายความผิดหลายข้อหา ทั้งเรื่องฉ้อโกง, แอบอ้างเบื้องสูง ม.112, ปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม, ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และความผิดเกี่ยวกับการแอบอ้างแต่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เป็นต้น แต่ความผิดตามมาตรา 112 หลักฐานค่อนข้างชัดเจน น่าจะสามารถออกหมายจับได้ภายในสัปดาห์นี้
โดนทั้งคดีเก่า คดีใหม่ เรียกว่านายฮอต ไฮโซเก๊ ทำตัวเองโดยแท้




สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022