ภาษีทรัมป์

อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์

โลกทรรศน์ | อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์

 

ภาษีทรัมป์

 

น่าสนใจมีคนตั้งข้อสังเกตว่า หากมองจากทรัมป์และสหรัฐ ภาษีทรัมป์อาจเป็นมากกว่าการแก้ปัญหาการขาดดุลการค้าของสหรัฐ และเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจภายในสหรัฐ

ผมเลยพยายามติดตามอ่านงานวิจัยโดยเฉพาะจากต่างประเทศ แล้วพบว่างานของสถาบันวิจัยสิงคโปร์ใช้การสำรวจความคิดเห็นคือ The State of South East Asia Survey 20251 ซึ่งมีอยู่หลายประเด็นมาก

แล้วดึงเอามาเฉพาะประเด็นภาษีทรัมป์

 

โดนัลด์ ทรัมป์

ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ผู้นำก้าวร้าว มีชื่อเสียงเป็นนักเจรจา และคาดว่า เขาอาจให้ความสนใจต่อเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากกว่า และเขาหวังเอาชนะเหนืออาเซียน

การกลับสู่ทำเนียบขาวของทรัมป์ได้กระตุ้นความรู้สึกตะลึงทั่วโลก รวมทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประธานาธิบดีและทีมงานของเขาได้ดำเนินการใช้ภาษีในกรอบการค้าพหุภาคีและละเลยความผูกพันระยะยาวกับเหล่าพันธมิตรของตน

ช่างย้อนแย้ง มันไม่ได้สะท้อนเช่นนี้ในรายงาน The State of South East Asia Survey 2025 ที่สหรัฐมีคะแนนสูงกว่าปี 2024 ในหลายคำถาม ได้แก่

สหรัฐผูกพันกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

อิทธิพลทางเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์ต่อภูมิภาค

ทางเลือกตอบสนองระหว่างจีนและสหรัฐ

ผลของทรัมป์อาจทำดีในการมุ่งมั่นความเป็นผู้นำ เกี่ยวดองการเป็นผู้จัดการดีลกับมหาอำนาจใหญ่ และคาดว่าเขาต้องให้ความสนใจมากขึ้นต่อเอเชีย-แปซิฟิก

ในรายงานฉบับนี้ บรรดาผู้ตอบคำถาม 47% คาดว่าสหรัฐมุ่งมั่นต่อเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นในช่วงทรัมป์ 2.0 ที่เปลี่ยนชัดเจนทีเดียวจากการสำรวจในปี 2024 ปีสุดท้ายของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และเมื่อ 25% ของผู้ตอบคำถามรู้สึกว่า ความมุ่งมั่นของสหรัฐกับภูมิภาคเพิ่มขึ้น .0%

จากผู้ตอบคำถาม ประเทศอาเซียนทั้งหมดเชื่อว่าสหรัฐฯจะเพิ่มความผูกพันมากขึ้น 32.2% เวียดนาม 47.1% สปป.ลาว 45.0% กัมพูชา 42.4% เมียนมา 33.0%

น่าสนใจประเทศที่ใกล้ชิดจีนออกนอกหน้า ต่างต้องการความผูกพันมากขึ้นของสหรัฐ ตรงกันข้ามกับสิงคโปร์ 15.7% และฟิลิปปินส์ 28.2%

 

ความสนใจมากขึ้นจากทรัมป์

ผู้นำก้าวร้าวอย่างทรัมป์ปรากฏก้องกังวานในหมู่ผู้ตอบคำถาม เกือบ 38.7% พูดถึงจุดยืนกร้าวร้าวต่อจีนจะช่วยรักษาดุลอำนาจในภูมิภาค

อีก 29% เชื่อว่าทรัมป์ต้องร่วมมือกับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อต่อต้านอิทธิพลจีน

และอีก 31.7% ของผู้ตอบคำถามเชื่อในความกล้าตัดสินใจของทรัมป์สามารถช่วยแก้วิกฤตโลก โดยเฉพาะจากไทย กัมพูชาและเวียดนาม

ในบรรดาผู้ตอบคำถาม 46 % มั่นใจการกระทำของสหรัฐเป็นสิ่งถูกต้อง

ทำให้เกิดสันติภาพโลก ความมั่นคง ความมั่งคั่งและธรรมาภิบาล เปลี่ยนจาก 42.4% เป็น 47.7%

การสนับสนุนที่แข็งแกร่งที่สุดในประเด็นนี้มาจากฟิลิปปินส์ สปป.ลาว เวียดนาม กัมพูชาและเมียนมา

น่าสังเกตความมั่นใจนี้เกิดน้อยจากความใกล้ชิดทางอุดมการณ์ และมีมากจากทัศนะด้านความแข็งแกร่งทางทหารและความสามารถทางเศรษฐกิจ

 

สหรัฐแข็งแรงกว่า

การพัฒนาที่น่าสนใจอีกอันหนึ่งคือ อันดับพันธมิตรคู่เจรจาอาเซียน เพื่อมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ของพวกเขา ปี 2025 สหรัฐใกล้ชิดกับผู้นำจีนในอันดับสูง คะแนนตรงกลางของสหรัฐคือ 8.76 ต่อมา 8.80

มาตรวัดอันนี้ไม่มีคุณค่าอะไรสำหรับกัมพูชา เมียนมา ฟิลิปปินส์และเวียดนาม ที่จัดลำดับสหรัฐคือหุ้นส่วนสำคัญทางยุทธศาสตร์ที่สุด

การเดินหน้าชนของทรัมป์สามารถมีได้ 3 เหตุผล

1. ในภูมิภาคที่มีผู้นำเข้มแข็ง มีเสถียรภาพ มีลำดับขั้น (Hierarchy) และปฏิบัตินิยม บุคลิกต่อสู้ของทรัมป์อาจตีความไม่ก่อผลเสียหาย แต่เป็นผู้นำในอุดมคติในเวียดนาม ความเป็นผู้นำของทรัมป์ก่อรูปขึ้นมาของคนที่นำประเทศของเขาจากช่วงมืดมิดสู้ชัยชนะ

2. การมุมมองเชิงบวกมากกว่าของทรัมป์และสหรัฐสามารถจัดวางเขาเป็น deal maker จุดเชื้อไฟแห่งความหวังของการต่อรองใหญ่กับจีน ที่ต้องการบรรเทาความตึงเครียดต่างๆ อย่างน้อยก็ชั่วคราว การเจรจาทำตัวเป็นโบรกเกอร์ของทรัมป์ไม่ว่าสงครามในยูเครนกับรัสเซีย หรือจัดใหม่กับจีนดูแล้วมีเหตุผล

3. นี่สามารถเป็นมุมมองมีวิธีการแปลกๆ เพี้ยนๆ นั่นคือยุทธศาสตร์การไม่มุ่งมั่นของสหรัฐกับยุโรป และอุทิศทรัพยากรของสหรัฐเพื่อใช้ตอบโต้การแข่งขันที่แท้จริงของสหรัฐในอินโด-แปซิฟิก

นอมินีของทรัมป์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม Elbrizdge Colby ได้โต้แย้งการไม่จัดอันดับยุโรป แต่ไปนิยมการเน้นทรัพยากรสหรัฐในเอเชีย-แปซิฟิก ความคิดตะกอนยุโรป คือ ยุโรปเป็นของเหลือ ไม่สำคัญ และปักหมุดเอเชีย มีปรากฏในหมู่ผู้นำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ต้องการความสนใจเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างยั่งยืนจากสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกสหรัฐมีมากกว่าต่อทรัมป์ ไม่ได้หมายความว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเห็นด้วยกับสหรัฐโดยไม่มีข้อวิจารณ์

ภูมิภาคยังคงแบ่งแยกว่า ใครในอาเซียนจะเป็นแนวร่วมกับสหรัฐ ถ้ามีการบังคับให้ต้องเลือกระหว่างจีนและสหรัฐ ผู้ตอบคำถามส่วนใหญ่ซึ่งแคบมาก 52.3% พูดว่าพวกเขาจะอยู่ข้างสหรัฐมากกว่าจีนคือ 47.7%

ในทำนองเดียวกัน สหรัฐยังคงล้าหลังจีนในมุมมองของชาติมหาอำนาจมีเศรษฐกิจแข็งแกร่งที่สุด มีอิทธิพลทางการเมืองและยุทธศาสตร์ในภูมิภาค

 

สหรัฐใกล้ชนะแล้ว

ยังมีอีกมุมมองผู้นำสหรัฐในการเป็นแชมป์การค้าเสรีมีการตกต่ำต่อเนื่อง สหรัฐอยู่ในอันดับ 3 ต่อจากอาเซียนและจีน นี่เข้าใจได้ ที่ทรัมป์มีแนวโน้มเอนเอียงใช้ภาษีการค้า ทำดุลการค้าขาดดุลถูกต้องกับหุ้นส่วนการค้าสหรัฐ

คำถามใหญ่คือ มุมมองที่แสดงออกในการสำรวจสะท้อนความจริงพื้นฐานหรือไม่?

มุมมองเปรียบเทียบทรัมป์ 2.0 อาจย้ายไปหรือเปลี่ยนแปลง ถ้าแนวทางของทรัมป์ทำให้เกิดอันตรายมากกว่าสำหรับสหรัฐ ทรัมป์สามารถผลักดันแนวทางที่ยากขึ้นเพื่อปกป้องไต้หวันและต่อต้านจีน ความขัดแย้งในช่องแคบไต้หวันจะก่อผลกระทบต่อภูมิภาคแน่นอน

ทางเลือก การต่อรองใหญ่กับจีนสามารถเห็น ยื่นหมู ยื่นแมว กับจีน จีนจะเปิดตลาดของตนให้สหรัฐส่งสินค้าและลงทุนมากขึ้นในประเทศ

ในทางกลับกัน สหรัฐจะลดความช่วยเหลือและความมั่นคงแก่ไต้หวัน

นี่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี อะไรที่ทรัมป์ผลักดันในยูเครนที่เขาถอนการสนับสนุนทางทหารของสหรัฐ และการไม่ให้ข้อมูลด้านข่าวกรองแก่ยูเครน ได้บังคับยูเครนต้องตกลงสันติภาพกับรัสเซีย

ยื่นหมู ยื่นแมว ในกรณีไต้หวัน ควรเป็นผลให้เกิดเสถียรภาพในภูมิภาค และลดความเสี่ยงในการเพิ่มความขัดแย้ง อย่างไรก็ตาม นี่จะไม่ได้เป็นลางดีสำหรับภูมิภาค ที่มันแสดงว่าสหรัฐจะเจรจากับจีน ซึ่งสามารถนำไปสู่การลดหลักประกันความมั่นคงของสหรัฐ

สุดท้าย การสำรวจนี้แสดงการปรับปรุงความรู้สึกของเอเชียตะวนออกเฉียงใต้ต่อสหรัฐภายใต้ทรัมป์ การสำรวจได้ทำ 6 สัปดาห์ระหว่าง 3 มกราคม ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2025 และคล่อมการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์วันที่ 20 มกราคม การปรับปรุงความรู้สึกอาจเป็นเหมือนแมวที่ตายแล้ว คือ ไม่มีคุณค่า หรือกลายเป็นเรื่องยั่งยืนไปในสมัยที่ 2 ของทรัมป์

ผลสุดท้ายจะขึ้นอยู่กับผลจากการตัดสินใจของทรัมป์ทางการเมือง เศรษฐกิจและยุทธศาสตร์ต่อเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และกว้างขึ้นเป็นเอเชีย-แปซิฟิก การมองแง่ดีแต่กำลังเผชิญการตรวจสอบความจริง

ทรัมป์ตอบโต้ ไม่คาดคิด รุนแรงมาก และแม้ต่อทรัมป์เองเมื่อ 2 เมษายน ขึ้นภาษีการค้ามากกว่า 40% ในประเทศอาเซียน

สำรวจคราวหน้าอาจได้ผลตรงข้ามได้ แต่อย่างน้อย เราเห็นแล้วว่า ภาษีทรัมป์เป็นมากกว่าการแก้ปัญหาดุลการค้า และปัญหาเศรษฐกิจภายในสหรัฐ ภาษีทรัมป์ก้าวร้าว ทดสอบการตอบสนองของอาเซียน ให้เลือกสหรัฐหรือจีน ทรัมป์อาจหน้ามืดหนุนไต้หวัน แล้วอาเซียนจะสนองตอบอย่างไร

 

1ISEAS, Yusus Institute, Singapore, 2025 เป็นรายงานที่ทำทุกปี มีรอบด้าน หลายประเด็น โดยเฉพาะการสำรวจความเห็นชนชั้นนำทุกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้