ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 11 - 17 เมษายน 2568 |
---|---|
คอลัมน์ | ภาพยนตร์ |
ผู้เขียน | นพมาส แววหงส์ |
เผยแพร่ |
กลับมาอีกครั้งละ โดยไม่ปล่อยเวลาให้เนิ่นนานเกินรอเลย พระเอกเจสัน สแตแธม กับผู้กำกับฯ เดวิด อาเยอร์ หลังจากหนัง The Beekeeper ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างนักแสดงที่มีภาพลักษณ์ชายชาตรีสุดแกร่งกับผู้กำกับฯ ที่ชำนาญการเรื่องหนังบู๊
ตามฟอร์มพระเอกคนแกร่งและเก่งกล้า เผชิญหน้าใครหน้าไหนก็ได้ ไม่ว่าหน้าอินทร์หน้าพรหม ทั้งเดี่ยวตัวต่อตัวหรือหมาหมู่แบบดาหน้ากันเข้ามา แถมยังบุกรังเหล่าร้ายแบบข้ามาคนเดียวเดี่ยวไมโครโฟน
ความคล้ายคลึงของหนังสองเรื่องนี้ คือพระเอกฝีมือฉกาจเป็นอดีตทหารปฏิบัติการรบหน่วยพิเศษที่ได้รับการฝึกทั้งด้านฝีมือและไหวพริบ เผชิญหน้าสถานการณ์คับขันได้ทุกประเภท เพียงแค่จากการกวาดสายตาประเมินศัตรูคู่อาฆาต
พระเอกของเราต้องการใช้ชีวิตอย่างสันโดษนอกเรดาร์ โดยขอลาขาดจากอาชีพนักฆ่า ไม่ต้องกลับไปยุ่งกับอดีตที่เคยเป็นมือฉมังในหน่วยงานความมั่นคง
แต่แล้วก็ถูกกดดันถูกบีบคั้นถูกแซะให้จำใจต้องออกมาฟาดฟันเหล่าทรชนคนชั่วอีกครั้ง ตามล่าตามล้างกันแบบระเบิดเถิดเทิง ประเภทที่มีแต่พระเอกหนังบู๊เท่านั้นที่จะทำได้ มนุษย์สามัญไม่มีใครเก่งกล้าสามารถขนาดนั้น
ความเก่งของพระเอกเป็นความบันเทิงเริงร่าของคนดู ยิ่งเก่งอย่างเหลือเชื่อ ยิ่งได้ความสะใจมันส์ระเบิดอย่างที่หาไม่ได้ที่ไหนในโลกในชีวิตจริง นอกจากบนจอและในโรงหนัง
เปิดเรื่องขึ้นมาที่พระเอก เลวอน เคด (เจสัน สเตแธม) ทำท่าจะเป็นบุคคลจรจัดไร้ที่อยู่ เพราะบ้วนปากแปรงฟันอยู่บนรถ ก่อนจะเดินอาดๆ ไปทำงานที่ไซต์ก่อสร้างในฐานะโฟร์แมนคุมงาน
พระเอกก็ต้องเป็นที่รักของลูกน้องในปกครอง เพราะมีคนเอาอาหารมาฝาก และทักทายอย่างสนิทชิดเชื้อ
เลวอนก็ทำท่าจะเป็นหัวหน้างานที่ดีในหมู่กรรมกร และยังเป็นที่ไว้ใจของเจ้าของบริษัทกับครอบครัวเสียอีก
ไมเคิล พีนญา รับบทโจ การ์เซีย ซึ่งแม้จะเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุที่ทำให้พระเอกของเราต้องลุยปะฉะดะครั้งนี้ แต่ไมเคิล พีนญา ซึ่งเป็นดาราใหญ่พอควร ก็ไม่ได้โผล่หน้าออกมาในฉากมากนัก ท่าทางจะใช้ชื่อเรียกคนดูว่ามีนักแสดงคุ้นหน้าร่วมงานอยู่ด้วยละมัง
เจนนี่ (อาริอานา รีวา) ลูกสาวของโจ เผอิญได้มาเห็นเลวอนสำแดงเดชแสดงฝีมือปราบอันธพาลกลุ่มใหญ่ที่มาระรานลูกน้องในปกครองของเขา และแอบขอให้เขาสอนเธอบ้าง โดยสัญญาจะปิดปากเงียบไม่บอกเล่าเก้าสิบให้ใครรู้
ไม่นานต่อมา ขณะที่เจนนี่ไปเที่ยวบาร์กับกลุ่มเพื่อนหญิง เธอก็ตกเป็นที่ต้องตาต้องใจน่าปรารถนาของใครคนหนึ่ง ซึ่งทำให้เธอโดนลักพาตัวไปอย่างลึกลับ
ทำให้พ่อแม่ของเจนนี่–คือ โจและภรรยา-หัวใจสลาย ไม่รู้ว่าลูกสาวหายตัวไปไหนและเป็นตายร้ายดีอย่างไร
โจมาขอให้เลวอนช่วย ด้วยการมอบเงินก้อนหนึ่งให้ แต่เลวอนก็กระอักกระอ่วนใจ เพราะไม่อยากพาตัวกลับเข้าไปสู่วังวนของความรุนแรงอีก
ตัวเขาเองก็มีลูกสาว ซึ่งรักและเทิดทูนพ่อ แต่ถูกตากีดขวางแทบจะทุกวิถีทาง เพราะโทษลูกเขยว่าเป็นสาเหตุให้ลูกสาวตายจากไป เนื่องจากว่า ไม่ว่าเลวอนจะไปที่ไหน ก็มีแต่ความรุนแรงและความพินาศตามมา
ครั้งนี้เลวอนตัดสินใจช่วยโจตามหาลูกสาว น่าจะเป็นเพราะตัวเขาเองก็มีลูกสาว จึงเข้าใจหัวอกของคนเป็นพ่อ
การสืบหาและติดตามร่องรอยของเจนนี่ พาเลวอนเข้าไปเกี่ยวข้องกับโลกของอาชญากรซึ่งเป็นมาเฟียตัวเอ้ของรัสเซีย เป็นองค์กรอาชญากรรมที่จัดการเป็นระบบ (organized crime) ซึ่งมีธรรมนูญขององค์กรเป็นกฎกติกามารยาทและระเบียบปฏิบัติที่คนในองค์กรจะล่วงละเมิดไม่ได้
ขณะเดียวกันก็พัวพันกันอีรุงตุงนังในฐานะวงศาคณาญาติ พ่อลูกพี่น้าอาลุง ลูกพี่ลูกน้องและเครือข่ายธุรกิจของแต่ละคนอีกต่างหาก
ไม่ใช่ว่าองค์กรมาเฟียรัสเซีย-ซึ่งมีบารมีปกแผ่เป็นที่ขยาดแม้ในวงการอาชญากรด้วยกัน-จะอยากมีอะไรมาเกี่ยวข้องระรานกับตัวพระเอกของเรานี่หรอก แต่เรื่องของเรื่องคือ ดิมิ โคลิสนิก (แมกซิมิเลียน โอซินสก์) ลูกชายเพลย์บอยนอกคอกของเจ้าพ่อที่ใครๆ กลัวกันหัวหด โวโล โคลิสนิก (เจสัน เฟลมิ่ง) มีกิจการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะในวงการค้าประเวณีชั้นสูงแบบส่งหญิงสาวไปให้จอมวิตถารด้วยราคาสูงลิ่ว
และสาวรุ่นคนที่ไปสะดุดตาเหล่าอันธพาลจนถูกหมายหัว โดนจับคลุมหัวลักพาตัวอย่างแทบไร้ร่องรอยในบาร์นั้นเอง
ตรงนี้เป็นข้อเตือนใจว่าการที่วัยรุ่นนึกสนุกไปเที่ยวบาร์เที่ยวผับนั้น เป็นการเปิดตัวให้เข้าตากรรมการ—คือเหล่าคนร้ายในแหล่งอบายมุขนั่นเอง
หนังสร้างจากนวนิยาย ชื่อ Levon’s Trade และโชว์เคสพระเอกสุดยอดนักสู้จอมอันตราย ที่ไม่อยากใช้ชีวิตแบบเดิมอีกแล้ว หันมาใช้ชีวิตกรรมกรก่อสร้าง และรักษาความสัมพันธ์กับลูกสาวคนเดียวที่อยู่ในอุปการะของตาผู้ร่ำรวย
แต่เลวอนก็ถูกยั่วยุให้ต้องออกลายไว้ฝีมืออีกครั้ง
เรื่องทำนองนี้เป็นเนื้อหาของหนังบู๊พระเอกเก่งอยู่บ่อยๆ คือ พระเอกผู้ใช้ชีวิตต่ำต้อยหาเช้ากินค่ำ ถูกแหย่รังแตนให้ออกมาต่อสู้ฟาดฟันกับเหล่าร้าย เพื่อช่วยคนในครอบครัว หรือคนที่เขาห่วงใย
ซึ่งทำให้เห็นจิตวิทยามนุษย์ที่ไม่นึกอยากให้ใครๆ เชิดชูกันมากเลยว่าเป็นเรื่องถูกต้องแล้ว นั่นคือ ครอบครัวสำคัญเหนือยิ่งสิ่งใดทั้งปวง
พระเอกแบบนี้มักไม่ค่อยสนใจความอยู่รอดของสังคมส่วนรวม เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ หรือหลับตาอยู่ข้างหนึ่งกับความเป็นไปของสังคม ตราบเท่าที่คนที่เขาแคร์ยังอยู่ดีมีสุข
นี่เป็นหนังที่ดูเอามันส์เข้าว่า แล้วก็ตอบสนองความสะใจของคนดู ไม่มีอะไรใหม่ในกอไผ่เลย แคแร็กเตอร์ที่วนเวียนซ้ำซากและเป็นที่คาดเดาได้
แต่ก็อย่างที่บอกแหละ คนไปดูหนังเรื่องนี้ก็เพราะตัวเจสัน สเตแธม ซึ่งมีเสน่ห์ในแบบฉบับของเขา คือ บู๊เด็ดเผ็ดมันส์ ปะฉะดะทุกสิ่งที่เข้ามาขวางหน้า ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์….
และคนดูก็น่าจะได้ตามความคาดหวังทุกประการ… •
A WORKING MAN
กำกับการแสดง
David Ayer
แสดงนำ
Jason Statham
Jason Flemyng
Merab Ninidza
Maximilian Osinsk
Michael Pena
ภาพยนตร์ | นพมาส แววหงส์
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022