‘ระเบียบโลกใหม่?’

เกษียร เตชะพีระ

การเมืองวัฒนธรรม | เกษียร เตชะพีระ

 

‘ระเบียบโลกใหม่?’

 

มาร์ค สักซาร์ (Marc Saxer) เป็นปัญญาชนสาธารณะชาวเยอรมันผู้สันทัดเชี่ยวชาญการวิเคราะห์วิจารณ์การเมืองประเทศต่างๆ และการเมืองโลก เขาเคยเป็นผู้อำนวยการมูลนิธิฟรีดริห เอแบร์ท สำนักงานประเทศไทยและอินเดียช่วงสิบกว่าปีก่อน ก่อนจะไปเป็นหัวหน้าแผนกเอเชีย-แปซิฟิกของมูลนิธิ

สมัยประจำอยู่เมืองไทย (2553-2558) คุณมาร์คได้ค้นคว้าเขียนงานวิชาการเกี่ยวกับสังคมไทยช่วงนั้นไว้เรื่อง สังคมไทยในวังวนแห่งวิกฤตเปลี่ยนผ่าน (In the Vertigo of Change : How to resolve Thailand’s transformation crisis, 2557, https://library.fes.de/pdf-files/bueros/thailand/08259.pdf) ซึ่งสำรวจวิเคราะห์วิจารณ์มูลเหตุที่มาและทางออกของวิกฤตเศรษฐกิจการเมืองและสังคมวัฒนธรรมไทยร่วมสมัยไว้อย่างแหลมคมทั่วด้านลึกซึ้ง

ปัจจุบัน คุณมาร์คเป็นผู้ประสานงานภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกของมูลนิธิ และยังคงเขียนบทวิเคราะห์การเมืองปัจจุบันออกมาอย่างเกาะติดต่อเนื่องทางเว็บไซต์ IPS (https://www.ips-journal.eu/about/writers-and-contributors/writer/marc-saxer/)

ในสภาพที่ระเบียบโลกเก่า (หมายถึงระเบียบโลกเสรีหลังสงครามโลกครั้งที่สองซึ่งก่อตั้งโดยสหรัฐ) กำลังถูกประธานาธิบดีทรัมป์กับพวกโละทิ้งและสะเทือนมาถึงไทยอย่างไม่เกรงอกเกรงใจไว้หน้าพันธมิตรเก่าแก่ (https://th.usembassy.gov/th/announcement-of-a-visa-restriction-policy-th/) นั้น

ระเบียบโลกใหม่จะออกมาหน้าค่าตาอย่างไร? นี่คือเรื่องที่ผมหันมาปรึกษาหาความกระจ่างจากมาร์ค

แผนที่วิสัยทัศน์ระเบียบโลกใหม่ในอนาคตแบ่งเป็น 3 เขตอิทธิพลซึ่งรวมศูนย์ที่ US, รัสเซีย & จีน ChatGPT@15Mar2025

ในบทความเรื่อง ‘He who comes too late is punished by life’ (ผู้มาสายโด่งย่อมถูกชีวิตลงโทษ อันเป็นวาทะของอดีตประธานาธิบดีกอร์บาชอฟแห่งโซเวียต, 18/02/2025, https://www.ips-journal.eu/topics/foreign-and-security-policy/he-who-comes-too-late-is-punished-by-life-8101/) มาร์คชี้ว่าขณะประจักษ์ชัดแล้วบัดนี้ว่าระเบียบโลกเสรีเก่ากำลังอวสานลง แต่ก็ยังไม่แน่ว่าระเบียบโลกใหม่ที่จะเข้ามาแทนที่เป็นอย่างไร?

เขาเสนอให้หาร่องรอยของมันจากคำข่มขู่เว่อร์วังแบบบูลลี่ของประธานาธิบดีทรัมป์ดู โดยเฉพาะที่บอกว่า ทรัมป์ฝักใฝ่ใคร่ผนวกรวมเอาดินแดนกรีนแลนด์, ปานามาและแคนาดาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐอเมริกา! (https://www.usnews.com/news/u-s-news-decision-points/articles/2025-03-14/trump-still-wants-canada-greenland-and-the-panama-canal)

มาร์คตั้งข้อสังเกตว่าถ้อยวาทะโอหังหาเรื่องของจักรพรรดิทรัมป์ดังกล่าวชวนให้หวนคิดถึงลัทธิมอนโร (the Monroe Doctrine) ของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ห้า เจมส์ มอนโร (James Monroe ครองตำแหน่งสองสมัยต่อกันปี 1817-1825) ซึ่งเสนอเป็นหลักนโยบายต่างประเทศของอเมริกาไว้เมื่อปี 1823 ว่า :-

– ซีกโลกตะวันตก (ของเส้นเมริเดียน ณ เมืองกรีนิชในอังกฤษ ซึ่งรวมทวีปอเมริกาและทะเลแคริบเบียนไว้ด้วย) ถือเป็นเขตปลอดการล่าอาณานิคมและแทรกแซงของยุโรป ฉะนั้น

1) ห้ามยุโรปล่าอาณานิคมใหม่เพิ่มเติมในซีกโลกนี้ : ทวีปอเมริกาเหนือ-ใต้ไม่เปิดรับการล่าอาณานิคมของมหาอำนาจยุโรปอีกต่อไป

2) ห้ามแทรกแซง : โดยสหรัฐจะไม่แทรกแซงกิจการของยุโรปหรือกิจการของอาณานิคมของยุโรปเท่าที่มีอยู่ตอนนั้นในทวีปอเมริกาเหนือ-ใต้

3) คัดค้านอิทธิพลของยุโรป : ความพยายามใดๆ ของยุโรปที่จะควบคุมหรือแทรกแซงบรรดาชาติเอกราชใหม่ในทวีปอเมริกาเหนือ-ใต้ทั้งหลายจะถือเป็นการกระทำอันเป็นปฏิปักษ์ต่อสหรัฐอเมริกา

– แม้ว่าลัทธิมอนโรจะบังเกิดผลเฉพาะหน้าเพียงเล็กน้อย ทว่าต่อมามันก็กลายเป็นหลักการสำคัญของนโยบายต่างประเทศสหรัฐโดยเฉพาะในศตวรรษที่ 19 และ 20 (ChatGPT@15Mar2025)

นั่นเท่ากับเป็นการส่งสัญญาณถอยของทรัมป์ในนามอภิมหาอำนาจอเมริกันจากการครองโลกไปสู่ -> การครอบงำเฉพาะซีกโลกตะวันตกแทน

 

ถ้าฟังขึ้น และขยายความกว้างออกไปบวกกับการที่ทรัมป์กับแวนซ์ “เทขาย” ยูเครนทิ้งเมื่อเร็วๆ นี้ (https://lemde.fr/4h3Xh2U) นี่อาจหมายถึงการจัดระเบียบโลกใหม่ในกรอบการคิดแบบ “เขตอิทธิพล” (the spheres-of-influence thinking) ซึ่งเอาเข้าจริงยุโรปยึดถือประพฤติปฏิบัติมานมนานก่อนจะหันไปยอมรับระเบียบโลกแบบหลังสงครามโลกครั้งที่สองซึ่งอเมริกาครองความเป็นเจ้าอยู่ขั้วเดียวแทน

และหากแม้นทรัมป์เจรจาต้าอ้วยได้ลงตัวกับปูตินและสี จิ้นผิง เหมือนที่ประธานาธิบดีรูสเวลต์, นายกรัฐมนตรีเชอร์ชิลและสตาลินเจรจากันสำเร็จที่เมืองยัลตา รัสเซียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 1945 (ดูภาพประกอบที่ 1 https://history.state.gov/milestones/1937-1945/yalta-conf) เราอาจเจอระเบียบโลกแบบ 3 เขตอิทธิพลที่มีสหรัฐ, รัสเซียและจีนเป็นศูนย์กลาง โดยต่างตกลงยอมรับที่จะไม่เข้าแทรกแซง “กิจการภายใน” ในเขตอิทธิพลของกันและกันก็เป็นได้ (ดูภาพประกอบที่ 2)

ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น ชะตากรรมของไต้หวันก็จะมีอันเรียบร้อยโรงเรียนจีน ชะตากรรมของยูเครนก็คงจะเรียบร้อยโรงเรียนรัสเซีย ส่วนชะตากรรมของกรีนแลนด์ ปานามาและแคนาดาก็อาจจะเรียบร้อยโรงเรียนอเมริกัน!