ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 11 - 17 เมษายน 2568 |
---|---|
คอลัมน์ | จ๋าจ๊ะ วรรณคดี |
ผู้เขียน | ญาดา อารัมภีร |
เผยแพร่ |
อันที่จริงการเล่นสักวาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีเนื้อหาหลากหลาย นำมาจากวรรณคดีก็ได้ จากการละเล่นก็มี จากประเพณีก็ยังไหว จากสำนวน สุภาษิต คำพังเพยก็มีอยู่ทั่วไป โดยเฉพาะนำมาจากสถานการณ์บ้านเมืองก็มีให้เห็นๆ อยู่ ฯลฯ
บางทีเล่นสักวามีเนื้อเรื่องจากวรรณคดี แต่ผู้บอกสักวาโยงเหตุการณ์ในเรื่องที่กำลังเล่นอยู่ให้สัมพันธ์กับผู้นำประเทศต่างๆ และสถานการณ์บ้านเมืองขณะนั้น
ครั้งหนึ่งเคยชมการเล่นสักวาเรื่อง “พระร่วง” ที่หอประชุม เอ.ยู.เอ. เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2522 ฝีปากของผู้บอกสักวาบท ‘นายมั่นปืนยาว’ นั้นเฉียบคมจนต้องจดไว้ในสมุดโน้ต
“สักวานายมั่นพลันบอกเล่า นี่แหละเขาคือเดโชโง่นักหนา
ถึงปลอมตัวแต่คนไทยมิใช่ลา จะตบตาเล่นง่ายง่ายไม่อายใจ
ใช่พอลพตเฮงสัมรินผู้สิ้นคิด รบกันเองเพราะเชื่อมิตรผิดพลาดใหญ่
จะสูญชาติสิ้นเผ่าพันธุ์หมดกันไป ปล่อยญวนให้นั่งตีขิมยิ้มเยาะเอย”
นายมั่นปืนยาวย้ำว่าคนไทยไม่ได้โง่เหมือนสองผู้นำเขมร พอลพต และ เฮงสัมริน รบกันเองจนแทบสิ้นชาติ ผลก็คือเวียดนามได้รับประโยชน์สบายๆ ฝ่ายเดียวโดยไม่ต้องลงทุนอะไร
เมื่อเร็วๆ นี้ได้ชมการอภิปรายในสภา หลายต่อหลายช่วงทำให้นึกไปถึงการเล่นสักวาสมัยก่อน ซึ่งนำเนื้อเรื่องมาจากสถานการณ์บ้านเมือง จากสมัยนั้นมาถึงสมัยนี้ รายละเอียดอาจจะแตกต่างกันอยู่บ้าง แต่หลายๆ เรื่องดูคุ้นหูคุ้นตาอย่างไรชอบกล
‘สักวาชุด’ ในหนังสือพิมพ์ประมวญวัน มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรปีน้ำท่วม ผู้สมัครรับเลือกตั้งรายหนึ่งแจ้งความจำนงต้องการสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎร ผู้สมัครแต่ละคนเริ่มแถลงนโยบายหาเสียง ประชาชนก็แสดงความคิดเห็นว่าจะเลือกคนนั้นคนนี้ สักวาจบลงที่กล่าวถึงวันเลือกตั้ง ประชาชนจำนวนมากตั้งใจไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งตามหน้าที่พลเมืองดี (อักขรวิธีตามต้นฉบับ)
หม่อมเจ้าจันทร์จิรายุวัฒน์ รัชนี บอกสักวาบทแรกโดยรับบทดาราสาวผู้ประสงค์จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 หรือ ‘ส.ส.สภากามิณี’
“สักรวาฉันนี้หนาดาราหนัง สมัครรับเลือกตั้งในครั้งหน้า
ฉันเล่นหนังผ่านงานชำนาญมา อยากเล่นเรื่อง ‘เลือดสภา’ ดูสักที
อันผู้แทนราษฎรสองประเภท ฉันมานั่งสังเกตเลศอิถี
ถ้าได้เป็นประเภทสองเห็นต้องดี ส.ส.สภากามิณีเข้าทีเอย” (สักรวา = สักวา)
คำว่า ‘เลือดสภา’ ในที่นี้คือเชือดเฉือนกันด้วยคารมคมกริบ เป็นการเปรียบเทียบว่าปะทะกันด้วยวาจาอย่างรุนแรงจนเลือดนองสภา
เหตุผลที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งต้องการแสดงเรื่องนี้ก็เพราะตัวเองเป็นดาราหนัง ชำนาญงานด้านนี้ ตั้งใจจะเข้าไปมีบทบาท ‘ส.ส.กามิณี’ ในสภาถ้าได้รับเลือกตั้งครั้งหน้า

รองศาสตราจารย์ ดร.ประเทือง ทินรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญภาษาบาลีสันสกฤต อธิบายให้ฟังว่า ‘สภากามิณี’ น่าจะเป็นคำประสมที่เกิดจากการนำคำว่า ‘กามิณี’ มาขยายคำว่า ‘สภา’ (คำบาลีและสันสกฤต) ‘สภา’ แปลว่า ที่ประชุม องค์การ หรือสถานที่ประชุม ในที่นี้ต้องการให้หมายถึง สภาผู้แทนราษฎร
ส่วน ‘กามิณี’ คำนี้ในภาษาบาลีและสันสกฤตใช้ว่า ‘กามินี’ น หนู ไม่ใช่ ณ เณร มีหลายความหมาย เช่น หญิงผู้มีความใคร่ หญิงผู้เป็นที่รัก ภรรยา หญิงขี้อาย นกชนิดหนึ่ง เป็นต้น
ความหมายที่ว่า หญิงผู้มีความใคร่ คำว่า ‘ใคร่’ คือ ต้องการ ปรารถนา
ความหมายของคำนี้ในภาษาบาลีสันสกฤต ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับเรื่องเพศหรือกามารมณ์ ใคร่ในเรื่องอื่นก็ได้ เช่น ใคร่ในธรรม ใคร่ในประโยชน์ ใคร่ในความสุข ฯลฯ
แต่คนไทยส่วนใหญ่รวมทั้งท่านจันทร์จะมองคำนี้ไปในทางลบ เกี่ยวกับเรื่องเพศ หรือกามราคะ
คำว่า ‘สภากามิณี’ ในสักวาบทนี้ ผู้แต่งคงต้องการให้มีความหมายว่า สภาของคนขายตัว ซึ่งไม่ใช่แค่เพศใดเพศหนึ่ง แต่ทั้งเพศหญิงเพศชาย
‘ส.ส.สภากามิณี’ จึงน่าจะมีความหมายว่า ส.ส.ซื้อเสียงขายเสียง พอเข้าสภาได้ก็ขายตัวเพื่อผลประโยชน์ของตน
ต่อจากบทสักวาของหม่อมเจ้าจันทร์จิรายุวัฒน์ ก็มีผู้แถลงนโยบายหาเสียงอีกหลายคน เริ่มจากผู้ใช้นามแฝงว่า ‘มีทู’ ฟังนโยบายแล้วก็ชวนสยองกับคำว่า เล่ห์กล โครงการหลายเหลี่ยม สร้างสวรรค์ชั้นใหม่ ฯลฯ
“สักรวาสภาผู้แทนราษฎร์ ฉันก็ปราชญ์หนึ่งผู้ยังอยู่เฉย
ใคร่สนองประลองรสพจน์ภิเปรย กระพือเผยเล่ห์กลดลบันดาล
ด้วยโครงการหลายเหลี่ยมเตรียมเข้าสู้ จะอุดรูเล็กน้อยค่อยประสาน
สร้างสวรรค์ชั้นใหม่ให้สำราญ สระสนานงานสนุกหมดทุกข์เอย”
ผู้สมัครอีกรายแถลงนโยบายขายฝันสัญญิงสัญญาว่าทันทีที่ได้รับเลือกเป็นผู้แทนละก็ จะทำ ‘สยาม’ หรือเมืองไทยให้เป็น ‘สวรรค์’ ที่น่าอภิรมย์ พาคนไทยสุขสมโดยไว ‘กินทิพย์’ กันทั่วหน้า
ทิพย์ ในที่นี้มีความหมายว่า เป็นของเทวดา เช่น อาหารทิพย์ ดีวิเศษเหนือปรกติธรรมดา ไม่ใช่ ‘ป่วยทิพย์’ ตามความหมายที่ใช้กันในปัจจุบัน อยู่บนสวรรค์ไม่ต้องเสียภาษี ร้ายกว่านั้นคือ ‘สร้างวิมานในอากาศ’ ซึ่งเป็นสำนวนหมายถึง คาดหวังว่าจะมีหรือเป็นอะไรอย่างเลิศลอย
‘เขียวหวาน’ หรือ เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี (สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา) เป็นผู้บอกสักวาแสบๆ คันๆ บทนี้ว่า
“สักรวาข้าแต่ท่าน ‘นกแก้ว’ ข้าได้เข้าสภาแล้วจะตั้งหน้า
ให้สยามเป็นสวรรค์ขึ้นทันตา จะได้พาพวกเราเข้ากินทิพย์
อันภาษีโรงเรือนเหมือนเรานี้ บนสวรรค์ไม่มีเสียแล้วฉิบ
สร้างวิมานในอากาศอาศน์สูงลิบ โหวตฉันเถิดฉันจะหยิบขึ้นอ้างเอย”
ผู้ใช้นามแฝงว่า ‘ศรีอยุธยา’ ยืนยันความพร้อมประกาศว่าจะมุ่งมั่นต่อสู้ฟาดฟันในทุกๆ ชาติเพื่อให้ได้ชัยชนะ ถ้าประชาชนเทใจเลือกตนเป็นผู้แทน
“สักรวาตั้งใจในชาตินี้ แลชาติหน้าถ้ามีเกิดกี่หน
คงตั้งใจให้ท่านหลายล้านคน ร่วมกมลเลือกตูเป็นผู้แทน
ถึงยามเข้าเนาสภาจะปรากฏ ด้วยเหมือนบทเล่นละครตอนนั่งแท่น
เป็นพระรามตามสีดาฝ่ามารแมน ศึกทุกแดนต้องประลัยมีชัยเอย”
พระยาประกิตกลศาสตร์ผู้ใช้นามแฝงว่า ‘ทัศนาลัย’ เตือนสติประชาชนที่มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งให้ไตร่ตรองอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจเลือกใคร ความรู้ของผู้แทนจะมองข้ามไม่ได้ ทักษะความสามารถด้านการพูดก็ต้องมี
“สักรวาเป็นผู้แทนแสนลำบาก แม้นถ้าหากใช่ผู้รู้กฎหมาย
เริ่มศึกษาสภาสอนห่อนแยบคาย ดุจเอาควายแข่งม้าไม่น่าดู
การพูดมากยากไยใช่หีบเสียง ดังปืนเที่ยงไร้เสนาะเพราะหนวกหู
โฆษณาว่าตื้นไม่ขึ้นครู อันความรู้ครึ่งกระป๋องดังก้องเอย”
‘ทัศนาลัย’ เน้นว่าก่อนได้เป็นผู้แทนนั้นต้องรอบรู้กฎหมาย จะมาเรียนรู้เอาในสภาไม่เป็นผลดี ไม่ผิดอะไรกับเอาควายมาแข่งกับม้าซึ่งเป็นคนละพวก ความฉับไวสู้กันไม่ได้ ตามกันไม่ทัน
ที่สำคัญคือต้องรู้วิธีพูด ไม่ใช่ดีแต่พูดมากๆ เข้าไว้ แต่ไร้สาระ หรือพูดจาโหวกเหวกโวยวาย เอาเสียงดังเข้าว่า เปรียบได้กับเสียงยิงปืนใหญ่บอกเวลาเที่ยงวันในพระนคร เสียงดังสนั่นหวั่นไหว แต่ห่างไกลความไพเราะ เมื่ออยู่ไกลจึงไม่ได้ยิน
สำนวน ‘ไกลปืนเที่ยง’ คืออยู่ห่างไกลเมืองหลวง ทำให้ไม่รู้ข่าวคราวหรือเรื่องราว หมายถึง คนบ้านนอก หรืออยู่นอกเขตเมืองหลวงนั่นเอง การยิงปืนเที่ยงเลิกไปหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง
‘ทัศนาลัย’ ยังทิ้งท้ายว่าถ้าผู้แทนไม่มีความรู้ขาดประสบการณ์ ย่อมพูดอะไร คิดอะไรตื้นๆ ไม่ลึกซึ้ง มี ‘ความรู้ครึ่งกระป๋อง’ แต่ป่าวประกาศเสียกึกก้อง
ผู้ใช้นามแฝงว่า ‘อ.ฉ.ก.’ ชี้ผลเสียที่จะเกิดแก่ประชาชนถ้าตัดสินใจเลือกคนผิดเป็นผู้แทน ต้องทนอึดอัดคับข้องใจไปจนครบวาระ
“สักรวาหาผู้แทนแสนจะยาก อย่ามักมากพลอยละเมอเพ้อตามเขา
ถ้าพลาดนิดผิดถนัดมัดพวกเรา จักต้องเซาซมซานนานสี่ปี
ใหม่หรือเก่าเข้าสภาถ้าสามารถ คงบำราศไร้ทุกข์เสริมสุขศรี
ความเดือดร้อนผ่อนหายกลายเป็นดี ชนชาตรีชาติไทยเชิดชัยเอย”
จากนั้นประชาชนก็ปรึกษาหารือกันว่าจะเลือกใครเป็นผู้แทนเข้าไปในสภา เหตุผลในการเลือกมีสารพัด ดูที่คุณภาพเสียง ดูบุคลิกถูกใจ ผู้ใช้นามแฝงว่า ‘วงขอนแก่น’ บอกสักวา ดังนี้
“สักรวานารีที่มีโหวต พากันโจษจะสรรวันเลือกตั้ง
บ้างจะเลือกคนที่มีเสียงดัง เพราะอยากฟังเสียงได้ในสภา
บ้างจะเลือกคนที่มีหนวดโง้ง จมูกโด่งน่ารักเป็นนักหนา
แม้นไม่สวยด้วยประการะนานา ถ้าขึ้นมาไม่ได้โหวตโปรดโน้ตเอย”
ผู้ใช้นามแฝงว่า ‘จีนอิสาณ’ ไม่ไปเลือกผู้แทนเพราะไม่ให้ความสำคัญแก่การเลือกตั้ง คิดแค่ตัวเองกินอยู่สบาย ค้าขายได้เท่านั้นพอ ประโยชน์ส่วนรวมไม่สน ประโยชน์ส่วนตนเป็นหลัก อยู่เมืองไทยแสนสบาย อยากทำอะไรก็ทำได้ จะต้องไปลงคะแนนเลือกตั้งผู้แทนให้เสียเวลาทำมาหากินทำไม มีสีสันกว่าสักวาบทอื่นตรงที่ผู้แต่งใช้คำเลียนสำเนียงคนจีนพูดภาษาไทยสมกับเป็นความคิดเห็นของคนจีนที่อาศัยอยู่ในเมืองไทย
“สักรวาอั๊วนี้ไม่มีโหวต อั๊วไม่โกรธถ้าไม่จับปรับอั้งยี่
โหวตทำลาย,อั๊วอิ่มจาย,ไทยว่าลี ของอั๊วมีขายล่ายซิกบายจริง
อยู่เมืองไทยซิกบายไม่ต้องรบ มีหน่วยครบพร้อมอยู่กับผู้หญิง
สูบอาเผี้ยนก็ล่ายไม่ถูกยิง จะเที่ยววิ่งโหวตทังลายอึ้มอายเอย”
อาเผี้ยน หรือ opium คือ ฝิ่น สูบอาเผี้ยน หมายถึงสูบฝิ่น
ใกล้วันเลือกตั้ง โหรสมัยนั้นก็มีบทบาททำนายทายทักไม่ต่างจากโหรสมัยนี้ เพียงแต่ทำนายเรื่องจะมีน้ำท่วมกรุงเทพฯ ไม่ทายผลการเลือกตั้งเหมือนสมัยนี้ ผู้ใช้นามแฝงว่า ‘นาคบริพันธ์’ จึงเตือนพรรคพวกเพื่อนฝูงทั้งที่เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งและเป็นประชาชนทั่วไปให้เตรียมเรือพร้อมรับสถานการณ์ ต่อให้น้ำท่วมก็สามารถอาศัยเรือเป็นพาหนะไปลงคะแนนในวันเลือกตั้งได้
“ขอเชิญหมู่ผู้สมัครจักให้เลือก ทุกทุกเทือกจงหาเภตราแล่น
รับเวนัยโวเตอร์บำเรอแดน ลงคะแนนคึกคักให้นักเอย”
ผู้คนเมื่อรู้ข่าวน้ำท่วมก็เตรียมการอย่างดี โชคดีน้ำไม่ท่วมมากอย่างที่คาดไว้ ประชาชนจึงสามารถเดินไปเลือกตั้งได้ตามหน้าที่ของพลเมืองดี ดังที่พระยาอุดมพงศ์เพ็ญสวัสดิ์ ผู้ใช้นามแฝง ‘โวเตอร์’ บอกสักวาว่า
“สักวาดีใจน้ำไม่ท่วม พอได้สวมเกือกไปเท้าไม่เปื้อน
เดินทอดน่องมองไปไม่ไกลเรือน พร้อมเพื่อนเพื่อนบ้านใกล้ไปถึงแดน
ตำรวจดีมีฉมังระวังเหตุ จึ่งเข้าเขตด้วยกันมั่นใจแสน
ไม่ต้องมัวกลัวภัยใส่คะแนน เลือกผู้แทนดังมีหน้าที่เอย”
สักวาสมัยก่อน กับสักวาสมัยนี้ ถึงไม่ใช่ก็ใกล้เคียง •
จ๋าจ๊ะ วรรณคดี | ญาดา อารัมภีร
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022