ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 4 - 10 เมษายน 2568 |
---|---|
คอลัมน์ | ยานยนต์ |
ผู้เขียน | สันติ จิรพรพนิต |
เผยแพร่ |
งาน “มอเตอร์โชว์ 2025” คาร์โชว์แรกของปีนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 มีนาคม-6 เมษายน ที่เมืองทองธานี สร้างกระแสและแรงกระเพื่อมให้วงการยานยนต์ไทยไม่น้อย
หลักๆ ไม่พ้นที่ทุกค่ายต่างชิงยอดจอง ยอดขาย หวังตุนกำลังในไตรมาสแรก
ไม่เพียงเท่านั้น ยังลดราคาสะบั้นหั่นแหลก ชนิดที่คนซื้อไปก่อนงานจะเริ่มถึงกับจุกอก
ส่วนหนึ่งเพราะรถใหม่จากจีน เปิดราคามาน่าตกใจมาก พลอยทำให้ค่ายที่ทำตลาดอยู่ต้องหั่นราคาลงไปสู้
มอเตอร์โชว์ 2025 มีรถไฟฟ้ารุ่นใหม่เปิดตัวกันเพียบ หากนำมายัดใส่ในพื้นที่ยานยนต์ สุดสัปดาห์ ไม่พอแน่ๆ
จึงขอคัดแบบตัวกลั่นๆ 2 รุ่น มานำเสนอ
เริ่มกันที่รุ่นสร้างกระแสดุเดือดมากของปีนี้กับ “AION UT” รถแฮทช์แบ็กไฟฟ้า
เก๋งเล็กจากค่าย “GAC” ค่ายรถแบรนด์ใหญ่จากจีน ที่เพิ่งเปิดตัวในบ้านเราไม่นาน
ปีนี้ส่งน้องเล็กเข้ามา แถมตั้งราคาเดือดจัดๆ เริ่มต้นไม่ถึง 5 แสนบาท
ทั้งเป็นรถใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวในจีนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี่เอง
ที่บ้านเกิดออกมาเพื่อฟัดกับ “BYD Dolphin” โดยตรง
จึงไม่น่าแปลกใจที่ในงานมอเตอร์โชว์ ทำให้ค่าย BYD ประกาศหั่นราคารถทุกรุ่น เพื่อรับน้อง
โดยเฉพาะ “Dolphin” ตัวเริ่มต้นเหลือเพียง 499,000 บาท ถูกกว่าตอนเปิดตัวเมื่อ 2 ปีก่อนกว่า 2 แสนบาท
“AION UT” รูปร่างหน้าตาเน้นความเรียบง่าย แต่เพิ่มลูกเล่นกับทรงของไฟหน้าที่โฉบเฉี่ยวมากขึ้น มีไฟเดย์ไทม์รันนิ่ง พร้อมแถบไฟ LED เชื่อมต่อระหว่างไฟหน้า
ไฟเลี้ยวหน้าและไฟท้ายทรงคิวบิก
มิติตัวถัง (กว้าง x ยาว x สูง) 1,850 x 4,270 x 1,575 ม.ม.
ถือว่าขนาดกะทัดรัดกำลังดีกับการใช้งานในเมือง หรือออกนอกเมืองก็ไม่ลำบากเกินไป
ภายในเน้นความเรียบง่ายเช่นกัน
พวงมาลัย 2 ก้าน หน้าจอ ข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัลขนาด 8.8 นิ้ว
จออินโฟเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 14.6 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
ระบบสั่งงานด้วยเสียง AI Assistant
ระบบเชื่อมต่อ Wi-Fi และ 5G รองรับ OTA Update
ปุ่มควบคุมหลักเป็นระบบสัมผัส
ใช้วัสดุแบบนิ่มบริเวณคอนโซลและแผงประตู
แอร์พร้อมระบบกรองอากาศ PM 2.5
เบาะนั่งหุ้มด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์คุณภาพสูง
เบาะนั่งและพื้นที่โดยสาร ที่นั่งรองรับผู้โดยสารได้ 5 คน
เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้าพร้อมระบบอุ่นเบาะ
เบาะหลังสามารถพับได้แบบ 60:40 เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ
เทคโนโลยีภายใน
ระบบสั่งงานด้วยเสียง AI Assistant
ระบบเชื่อมต่อ Wi-Fi และ 5G รองรับ OTA Update
มีระบบกรองอากาศ PM 2.5
ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 100 กิโลวัตต์ หรือ 134 แรงม้า
แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟตขนาด 34.8 กิโลวัตต์/ชั่วโมง และ 44 กิโลวัตต์/ชั่วโมง
ระยะทาง 400+ กิโลเมตร และ 500+ กิโลเมตร
รองรับการชาร์จเร็ว จาก 30-80% ในเวลาเพียง 24 นาที
สนนราคาในงานเปิดตัวบอกแบบคร่าวๆ
รุ่น Standard ราคา 49X,XXX บาท
รุ่น Premium ราคา 5XX,XXX บาท
แต่ประเมินแล้วคงไม่หนีไปจากราคาใหม่ของ BYD Dolphin ซึ่งอยู่ที่ 499,000 บาท และ 599,000 บาท
ถัดมาเป็นอีกเจ้าตลาดยานยนต์ทางเลือกของไทย ที่มีขุมพลังทุกรูปแบบมให้เลือกคือ “เอ็มจี”
ส่ง “S5 EV” รถไฟฟ้าในกลุ่ม B-SUV มาชิงชัย
ด้านหน้าคล้ายคลึงกับรถรุ่นอื่นๆ กระจังแบบปิด ไฟหน้าเรียวเล็กแบบ LED พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ
ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights)
ไฟท้ายและไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
มีสปอยเลอร์หลังเพิ่มความสปอร์ตมากขึ้น
ฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้าพร้อมระบบเตะเปิดอัตโนมัติ
หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof)
ภายในเน้นความพรีเมียม ออกแบบเรียบง่าย พื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวางตกแต่งสีทูโทน เทา-ดำ
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังปรับ 4 ทิศทาง ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางโทรศัพท์
หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิทัลขนาด 10.25 นิ้ว
ตรงกลางเป็นหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 12.8 นิ้ว เชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android แบบไร้สาย
ติดตั้งระบบปฏิบัติการ i-SMART 3.0 ที่พัฒนาให้ใช้งานง่ายขึ้นและรวดเร็วขึ้น
ลำโพง 6 จุด
ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ และช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
ขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า 2 บล็อกพละกำลังสูงสุดที่ 170 แรงม้า (125 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 8 วินาที
แบตเตอรี่ Lithium Iron Phosphate Battery ขนาดความจุ 50 kWh (LFP) วิ่งได้ระยะทาง 416 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC
และอีกบล็อกกำลังสูงสุดที่ 245 แรงม้า (180 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 6.1 วินาที
แบตเตอรี่ Lithium Ion Battery ขนาดความจุ 64 kWh (NMC) สามารถวิ่งได้ระยะทาง 550 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC
ชาร์จแบบเร็ว Quick Charge 10-80% ใช้เวลาน้อยกว่า 30 นาที รองรับการชาร์จแบบกระแสตรงสูงสุด 140 kW
รองรับระบบ V2L เป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าสูงสุด 6 kW
โหมดการขับขี่ 5 รูปแบบ Comfort Normal Sport Snow และ Custom
ตัวช่วยการขับขี่จัดมาให้เน้นๆ เด่นๆ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC
ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน พร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน
ระบบช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากมุมอับสายตา เช่น เตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน, เตือนขณะถอยหลัง, เตือนการเปิดประตู และระบบช่วยเตือนการชนด้านหลัง ฯลฯ
ติดตั้งระบบอัจฉริยะต่างๆ ให้การใช้งานสะดวกขึ้น เช่น
ระบบตรวจเช็กอัจฉริยะ (Smart Check)
สั่งการ และระบบค้นหารถ Find My Car
เตือนความผิดปกติของรถยนต์
ช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ
ระบบสั่งการอัจฉริยะ (Smart Command)
ควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศผ่านทางสมาร์ตโฟน
สั่งการชาร์จ สถานี MG SUPER CHARGE ผ่านทางสมาร์ตโฟน
ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ (Smart Connect)
ระบบนำทาง Navigation พร้อมรายงานการจราจรแบบ Real Time
ช่วยค้นหาร้านอาหาร และที่พักบนแผนที่นำทาง ฯลฯ
เห็นสเป๊กและออปชั่นขนาดนี้ แต่จัดราคามาน่าสนใจอย่างยิ่ง
NEW MG S5 EV มี 3 รุ่นย่อย
รุ่น D 739,900 บาท ลดเหลือ 719,900 บาท
รุ่น X 829,900 บาท ลดเหลือ 779,900 บาท
และ รุ่น V 949,900 บาท ลดเหลือ 899,900 บาท
(จองตั้งแต่วันนี้-30 เมษายน 2568 และรับรถภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2568)
ของแถมเพียบเหมือนเดิม อาทิ ฟรีประกันชั้น 1 ฟรี MG HOME CHARGER พร้อมติดตั้ง เป็นต้น •
ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022