‘NEW MG IM6’ เอสยูวีไฟฟ้า สปอร์ตเต็มขั้น-ไฮเทคจัดมาล้นๆ

สันติ จิรพรพนิต

ถือว่าเปิดราคามาได้น่าสนใจ สำหรับ “NEW MG IM6” เอสยูวีไฟฟ้ารุ่นล่าสุดที่อวดโฉมในเมืองไทย

ก่อนหน้านี้บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย แนะนำรถรุ่นนี้ต่อสื่อมวลชนพร้อมพาไปสัมผัสใกล้ชิด

และล่าสุดแนะนำรถยนต์เข้าสู่ตลาดอย่างเป็นทางการ พร้อมประกาศราคาออกมา

แบ่งเป็น 2 รุ่นย่อย

Premium 2WD ราคา 1,399,900 บาท

และ Performance AWD ราคา 1,799,900 บาท

รถยนต์ MG IM6 เป็นเอสยูวีแนวคูเป้ ที่ดูสปอร์ตปราดเปรียวมากขึ้น

การันตีด้วยรางวัลๆ “2024 Red Dot Product Design Award”

ดีไซน์ภายนอกที่เรียบหรูภายใต้คอนเซ็ปต์ Gentle Sculpture เน้นความโค้งมน ให้ความรู้สึกถึงความเคลื่อนไหว

กระจังหน้าแบบปิดพร้อมลวดลายแบบ Parametric Design ดูดุดันและล้ำสมัย

ไฟหน้า LED Matrix พร้อม Daytime Running Light ออกแบบเป็นเส้นเรียวบาง

กันชนหน้าขนาดใหญ่มีช่องระบายอากาศด้านล่าง ช่วยเรื่องอากาศพลศาสตร์

ฝากระโปรงหน้าลาดลงเล็กน้อยรับกับแนวเส้นหลังคา

มองจากด้านข้างได้อารมณ์คูเป้จากแนวหลังคาที่ลาดเอียงไปด้านท้าย

ไฟท้ายแบบ Full-width LED Light Bar พาดยาวจากซ้ายไปขวา

สปอยเลอร์ท้ายแบบ Ducktail ทั้งดูสปอร์ตและช่วยเรื่องแรงกดอากาศ

ดิฟฟิวเซอร์ท้ายขนาดใหญ่

มือจับประตูแบบ Pop-up เรียบไปกับตัวรถ ตามเทรนด์นิยมของรถอีวี

ล้ออัลลอยดีไซน์สวยขนาด 21 นิ้ว

ฝาท้ายไฟฟ้าพร้อมระบบเตะเปิดอัตโนมัติ

ภายในเน้นความหรูหรา และทันสมัย ใส่เต็มกับเทคโนโลยีอัจฉริยะต่างๆ

ดีไซน์ล้ำสมัยแบบ Minimalist & Futuristic

คอนโซลหน้าเน้นความเรียบหรูด้วยวัสดุ Soft Touch และลดปุ่มกดให้เหลือน้อยที่สุด

พวงมาลัย D-Cut ทรงสปอร์ต หุ้มหนัง พร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น แบบเพาเวอร์ไฟฟ้า (EPS) ปรับน้ำหนักตามความเร็ว

หน้าจออัจฉริยะระบบสัมผัส Intelligent Immersive Touch Screens จำนวน 2 จอขนาดใหญ่

ประกอบด้วยหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิทัลขนาด 26.3 นิ้ว

และหน้าจอกลางแบบสัมผัสขนาด 10.5 นิ้ว สำหรับควบคุมส่วนต่างๆ ภายในรถ

เชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ตโฟนระบบ Android แบบไร้สาย

ระบบเสียงพรีเมียมจาก Bose อัดแน่นด้วย

ลำโพง 20 จุด ประกอบด้วย ลำโพงรอบทิศทาง 16 จุด และลำโพงหลังคา 4 จุด

พร้อมระบบเสียง 3D Surround Sound

และระบบตัดเสียงรบกวน (Active Noise Cancellation)

เบาะนั่ง หุ้มหนังแท้ Nappa Leather (เฉพาะรุ่น Performance AWD)

เบาะนั่ง POPO Sofa ทรงขนมปัง

เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อม Lumbar Support และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง

เบาะคู่หน้าเป็นแบบระบายความร้อน พร้อมระบบนวดสำหรับผู้ขับขี่

ส่วนเบาะหลังสามารถพับได้ 60:40

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual-Zone

พร้อมแผ่นกรองอากาศ PM2.5 พร้อมช่องแอร์ตอนหลัง

มีระบบ Cooling System เจเนอเรชั่นใหม่ ระบายความร้อนถึง 15 องศาเซลเซียส ภายในเวลา 30 วินาที

มี Wireless Charging 50W

รองรับการชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สาย

หลังคากระจก Panoramic Sunroof เปิด-ปิดได้ด้วยไฟฟ้า

ไฟ Ambient Light ปรับได้ 64 สี

เติมความพิเศษด้วย IM MAG HUB อุปกรณ์เสริมติดแม่เหล็กภายในตัวรถ เพื่อใช้ติดตั้งแอคเซสเซอรี่ต่างๆ อาทิ โคมไฟ กระจกแต่งหน้า ไฟอ่านหนังสือ ฯลฯ จำนวน 5 ตำแหน่ง

ขุมพลัง 2 แบบ

รุ่น Premium 2WD

มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว กำลังสูงสุด 295 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง

อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 5.9 วินาที

ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง

แบตเตอรี่ขนาด 75 kWh

ระยะทางวิ่งสูงสุด 550 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC)

ระบบชาร์จเร็ว DC รองรับกำลังไฟ 400V

ชาร์จ AC 11 ชั่วโมง (0-100%)

ส่วนชาร์จเร็ว 30 นาที (10-80%)

ส่วนรุ่นท็อป Performance AWD

มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ (Dual Motor) กำลังรวมสูงสุด 787 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 802 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD)

อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 3.48 วินาที

ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง

แบตเตอรี่ขนาด 100 kWh

ระยะทางวิ่งสูงสุด 634 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC)

ระบบชาร์จเร็ว DC รองรับกำลังไฟ 875V

ชาร์จ AC 13 ชั่วโมง (0-100%)

ส่วนชาร์จเร็ว 20 นาที (10-80%)

มีให้เลือก 6 โหมดการขับขี่ Eco / Comfort / Custom / One-Pedal Driving / Sport / Snow

โดยรุ่น Premium 2WD จะไม่มี 2 โหมดหลัง

พร้อมระบบ Regenerative Braking ชาร์จไฟกลับไปที่แบตเตอรี่ ขณะเบรกหรือยกคันเร่ง ปรับได้ 3 ระดับ

เทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง และระบบช่วยขับขี่กึ่งอัตโนมัติระดับ Level 2+

ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ (ADAS) ประกอบด้วย

ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน

ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในเลน

ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน

ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ

ระบบเตือนจุดอับสายตา

ระบบเตือนขณะถอยหลัง

กล้องรอบคัน 360 องศา พร้อม AI Parking Assist ช่วยจอดอัตโนมัติ

ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง (คู่หน้า, ด้านข้าง, ม่านนิรภัย และถุงลมเข่าฝั่งคนขับ)

ระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้ออัจฉริยะ (Intelligent Four Wheel Steering System) ช่วยให้การเปลี่ยนเลนในความเร็วสูงเสถียร และการกลับรถในที่แคบได้ง่ายขึ้น

ระบบ One Touch iAD ช่วยในการถอยจอดด้านข้าง การจอดและออกจากช่องจอดรถในพื้นที่จำกัด และการถอยหลังอัตโนมัติเมื่อขับเจอซอยตัน

มีฟังก์ชั่น Crab Mode ปรับมุมทั้ง 4 ล้อในมุมเดียวกัน เพื่อเคลื่อนรถออกจากพื้นที่จำกัด

ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ APA (Auto Park Assist) และระบบอัจฉริยะแสดงผลในที่มืดและฝนตก ช่วยให้การขับขี่ยังคงมีความชัดเจน

ไปดูคันจริงได้ทุกโชว์รูมของเอ็มจี และในงานมอเตอร์โชว์ 2025 ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม-6 เมษายน ที่อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี •

 

ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต

[email protected]