ว่ากันว่าสิ่งที่คนใกล้ชิด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่พอใจ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มากที่สุด

ไม่ใช่แค่เรื่องการแทงข้างหลัง

เพราะโจมตี “บิ๊กป้อม” เรื่องอื่นไม่ว่า

แต่ไม่พอใจมากที่ทำไมต้องเป็นเรื่อง “ยืมนาฬิกาเพื่อน”

อุตส่าห์ดีใจที่ข่าว “เปรมชัย” กับ “เสือดำ” มากลบข่าวของ “นาย” แล้ว

“ตะกอน” กำลังจะนิ่ง

มาเขย่าซ้ำทำไม

แม้จะแก้เกมด้วยการ “ขอโทษ” ที่ “เสียมารยาท”

แต่ข่าว “นาฬิกาป้อม” ก็กลับมาสู่หน้าจอข่าวอีกครั้งเรียบร้อยแล้ว

จะให้ “เปรมชัย” ล่า “เสือดำ” อีกสักตัวเพื่อมากลบข่าวก็คงเป็นไปไม่ได้

คืนนั้น จึงเกิดข่าวการจับกุม “ระเบิด” และ “สมุนโกตี๋”

แบบ “หยากไย่” เต็มห้องเลย

ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ “เนื้อหา” ที่ “หมอธี” พูดบนเวทีและให้สัมภาษณ์นั้นเป็นเรื่อง “จริยธรรม” และ “conscience” หรือ “ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี” ล้วนๆ

ไม่ว่าจะเป็นการบอกว่า สำนึก “นักการเมืองไทย” ต่างจาก “นักการเมืองอังกฤษ” ที่ลาออกเพียงแค่เข้าร่วมประชุมสภาสาย

“แต่เมืองไทย มีนาฬิกาใส่ 25 เรือน ยังไม่เป็นไร”

ประโยคนี้ “หมอธี” พูดบนเวทีอย่างเปิดเผย

ก่อนจะซ้ำอีกครั้งตอนให้สัมภาษณ์นักข่าวบีบีซีที่มีการแสดงตัวให้รู้ว่าเป็น “นักข่าว”

“เมื่อไม่ได้ฝึกมาแต่เด็ก ให้หน้าบาง เมืองไทย ไม่มีทาง เมืองไทยเป็นอย่างหนาตราช้าง”

“เรื่องนาฬิกา ถ้าผมถูก exposed (เปิดโปง) เรือนแรก ผมก็ออกแล้ว”

ทุกประโยคล้วนคมคาย

เป็นสามัญสำนึกที่คนไทยใฝ่ฝัน

อยากเห็นจากคนเป็น “รัฐมนตรี”

นพ.ธีระเกียรติ เข้าพบนายกรัฐมนตรีและ พล.อ.ประวิตร

“ขอโทษ” ที่ “เสียมารยาท”

ก่อนจะตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวด้วย “จริยธรรม” และ “ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี” ในใจ

… “ไม่ลาออก”

ทั้งที่เรื่อง “เสียมารยาท” ร้ายแรงกว่ามาประชุมสภาสาย

ทุกประโยคที่พูดจึงกลายเป็น “บูมเมอแรง” ย้อนกลับมาที่ “หมอธี”

หรือนี่คือการเสียสละเพื่อเพิ่มจำนวน “ตัวอย่าง” แสดงให้เห็นว่า “สำนึก” ของ “นักการเมืองไทย”

แตกต่างจาก “นักการเมืองอังกฤษ” จริงๆ

โชคดีที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์

มิฉะนั้น หุ่น “นนทก” ที่ใส่แหวนเพชรชี้ตัวเองในขบวนล้อเลียนการเมืองอาจเปลี่ยนไป

รูปร่างอาจจะผอมลง

และใส่แว่น

“แหวนเพชร” บนนิ้วอาจเขียนคำว่า “จริยธรรม”

“แหวนเพชรจริยธรรม” ชี้คนอื่นไปทั่ว

รวมทั้ง “ตัวเอง” ด้วย