เผยแพร่ |
---|
สถานีคิดเลขที่ 12 | สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร
ร้อนรำคาญ
ลื้อ-ดู-ร้อน อันแผลงมาจาก ฤ-ดู-ร้อน ของพรรคประชาชน
และ (อั๊ว)-รำ-คาญ ที่ บิดนิดๆมาจากคำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร
กลายเป็น คำพูด ที่สะท้อนภาพการเมืองตอนนี้ อย่างดี
โดย “ลื้อ ดู ร้อน” นั้น เป็นหมุดหมายสำคัญของพรรคประชาชน ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้
นั่นคือ วาดหวังว่า ข้อมูลที่จะนำมา”ซักฟอก” จะทำให้เกิดภาวะ”ร้อนอาสน์”
อาสน์อันหมายถึงเก้าอี้ของนายกรัฐมนตรีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร และอาจจะรวมไปถึง เก้าอี้ของรัฐมนตรีที่ถูกพาดพิง ด้วยก็ได้
ซึ่งก็ต้อง ติดตามว่า พรรคประชาชน จะทำให้เป็นไปตามที่สร้างความ”คาดหวัง” หรือไม่
และไม่ใช่ การคาดหวังธรรมดา
แต่เป็นการคาดหวังที่”สูง” ระดับจะชี้เป็นชี้ตาย พรรคประชาชน เช่นกัน
เพราะหากพรรคประชาชนอภิปรายไม่ไว้วางใจ ออกมาได้”ไม่ดี”
จะตอกย้ำถึงภาวะความระส่ำระสาย ความไม่เป็นกระบวน ของผู้นำรุ่น 3 ที่ไม่สามารถสร้าง”คุณภาพ”ใหม่ทางการเมืองขึ้นมาได้
หากสถานการณ์เป็นเช่นนั้นจริง แน่นอน สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ก็คือ การบดขยี้พลังสีส้มบนเวทีการเมือง จะหนักหน่วงยิ่งขึ้น
ชะตากรรม ของ44 ส.ส.และอดีตส.ส. ที่อยู่ระหว่างการไต่สวนของป.ป.ช.น่าเป็นห่วง
ซึ่งหากถูก ประหารทางการเมืองอีกครั้ง พรรคที่ถูกมองว่าเป็นของคนรุ่นใหม่ย่อมจะอับแสงลง จนไม่อาจยืนหยัดท่ามกลางกระแส”อนุรักษ์นิยม”เข้มข้นของการเมืองไทยได้
ตรงกันข้าม หากศึกซักฟอกครั้งนี้ มากด้วยคุณภาพ ทั้งการนำเสนอเนื้อหา หลักฐาน รวมถึง รูปแบบการนำเสนอ
พรรคประชาชนจะได้”ศรัทธา”ของประชาชนจริงๆเป็นหลักให้พิงอย่างมั่นคง
โดยประชาชน จะรู้สึกถึงความสำคัญของพรรคการเมืองนี้ ว่าสามารถเป็นหลัก เป็นที่พึงพิง และนำเสนอคุณภาพใหม่ ให้เกิดขึ้นกับการเมืองได้
การจะบ่อนทำลาย หรือบดขยี้พรรคให้ล้มหายตายจาก ย่อมไม่ใช่สิ่งอันพึงประสงค์ของประชาชน
ซึ่งนี่จะเป็น”สัญญาณ”ที่ส่งไปถึงองค์กรอิสระ รวมถึงกลุ่มอำนาจอนุรักษ์เดิม ที่หวังจะสกัดพรรคการเมือง”ใหม่”ว่าไม่ใช่เรื่องง่าย และจะเกิดการต่อต้าน ขัดขวาง อย่างหนักต่อความพยายามที่จะ”ขับไล่”ให้คนรุ่นใหม่เหล่านี้พ้นจากเวทีการเมืองไป
เช่นเดียวกัน “คุณภาพใหม่”ของการซักฟอกที่เกิดขึ้น ย่อมทำให้ น้ำหนักของคำว่า “น่ารำคาญ” ที่หลุดออกมาจากปากของนายทักษิณ ชินวัตร เบาลงอย่างมากด้วย
ว่าไปแล้ว การที่ นายทักษิณ พูดถึงพรรคประชาชน ในทำนองว่า น่ารำคาญ ก็ถือเป็นการพูดนัยๆ ที่”ด้อยค่า”ในตัวอยู่แล้ว ทำนองเป็นพรรคเด็กๆที่ไม่ได้มีน้ำหนักในการเคลื่อนไหวอะไร
ซึ่งถ้าหากพรรคประชาชน สามารถพิสูจน์ตนเอง และสร้างผลสะเทือนจากการซักฟอกให้เกิดขึ้นได้จริง ย่อมทำให้ นายทักษิณ คงต้องคิดใหม่ กับบริบทการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจนไม่อาจนำแนวทางเดิมเมื่อ20ปีก่อนมาใช้ได้
จำเป็นต้อง”รื้อสร้าง”สิ่งที่เคยยิ่งใหญ่ในอดีตอย่างสิ้นเชิง
ไม่เช่นนั้นอาจจะรับมือกับผลสะเทือนที่เกิดขึ้นไม่ได้
เพราะไม่เพียงจะถูกพรรคประชาชนบั่นทอนเท่านั้น
พรรคร่วมรัฐบาล ที่นายทักษิณ หลุดคำพูด “พ่อมหาจำเริญ”ออกมานั้น ย่อมมีพลังคัดง้างและต่อรองกับพรรคเพื่อไทยมากขึ้น จนไม่อาจรักษาศูนย์กลางแห่งอำนาจเอาไว้ได้
ศึกซักฟอกครั้งนี้ รัฐบาลโดยเฉพาะเพื่อไทยจึงต้อง “สทร.-สู้ทุกเรื่อง”เพื่อสกัดไม่ให้พรรคประชาชนบรรลุเป้าหมายตามที่ต้องการ
พร้อมทั้งกดให้ พรรคประชาชน เป็นแค่”ยุงรำคาญ”ที่ไร้พิษสง
คำถามคือทำได้หรือไม่ เพื่อไม่ให้พรรคเด็กๆย้อนถาม
ซักฟอกครั้งนี้ “ลื้อ ดู ร้อน” นะ
—————