มนุษย์โชคร้ายเมื่อไม่พึงพอใจ | นัยความเป็นคน นิ้วกลม

นิ้วกลมfacebook.com/Roundfinger.BOOK

นัยความเป็นคน | นิ้วกลม

 

มนุษย์โชคร้ายเมื่อไม่พึงพอใจ

 

1 ระหว่างนั่งเฉยๆ ให้ลมโกรกหน้าที่หาดหัวหิน จู่ๆ ก็รู้สึกขึ้นมาว่า “ช่วงเวลานี้ทุกอย่างสมบูรณ์แล้ว”

ฟ้าโล่ง ลมตีหน้า ชายหาด รอยยิ้ม

พลันรู้สึกว่ามีความต้องการเทียมมากมายเหลือเกินในชีวิต ทั้งรูปธรรมที่เป็นวัตถุสิ่งของ และนามธรรม เช่น ความสำเร็จ ชัยชนะ ความเก่งกาจ ฯลฯ

แต่ที่จริง ชีวิตเรียบง่ายกว่านั้น

 

2 ผมหันหน้ามองชายหาดเดียวกันกับสมัยมัธยมที่มาวิ่งเล่นกับเพื่อนบดินทรฯ พลันรู้สึกว่าตัวเองเดินทางมาไกลโพ้นจากจุดเริ่มต้น

เช้านี้ ผม พี่สาว และป๊า คุยกันถึงสิ่งที่แม่เคยทักตอนไปดูหอพักปีหนึ่งว่า “เพื่อนเอ๋คนนั้นฐานะดีใช่มั้ย ผ้าปูที่นอนเค้าดูดีมาก ไม่เหมือนของเรา”

ผมบอกกับทุกคนว่า จุดเปลี่ยนของชีวิตคือการเข้าโรงเรียนบดินทรฯ มันทำให้ผมเริ่มตั้งใจเรียน เจอเพื่อนดี เห็นเส้นทางเข้ามหาวิทยาลัยต่อไป ซึ่งก็ตั้งใจว่าอยากเรียนจุฬาฯ

ย้อนกลับไปวัยเด็ก ผมเป็นลูกร้านขายของชำ พ่อแม่ทำงานหนักเพื่อส่งเรียน และถ้าโชคดีผมก็มีโอกาสได้ซื้อรองเท้าผ้าใบยี่ห้อฮิตมาใส่แบบเพื่อนบ้าง (แม้เป็นรุ่นที่ถูกกว่ามาก) หรือลีวายส์ที่เพื่อนใส่ 501 ริมแดงตัวละสามพัน ผมก็อาจได้ 510 มือสอง ตัวละแปดร้อยจากจตุจักร อะไรแบบนั้น

ชีวิตวัยเด็กไม่ได้ได้สิ่งต่างๆ มาง่ายๆ แต่ป๊ากับแม่ก็พยายามเต็มที่ที่จะมอบสิ่งต่างๆ ให้ผมเท่าที่สามารถ

ความไม่ง่ายนี้ผลักดันให้ผมมุ่งมั่น หากตั้งใจทำอะไร ผมจะพยายามเต็มที่ และความพยายามนั้นก็พาผมก้าวไปข้างหน้าเรื่อยๆ

 

3 หันมองชายหาด, ผมมองเห็นภาพตัวเองเตะบอลกับเพื่อนบดินทรฯ เพื่อนถาปัด ซึ่งย้อนคิดแล้วผมรู้สึกโชคดีที่ได้รู้จักเพื่อนเหล่านี้ หากดูฐานะ พื้นฐานครอบครัว เพื่อนๆ หลายคนอาจมีพื้นฐานที่ดีกว่า หลายคนก็พอกัน แต่พวกเราคบหากันสนิทสนมและกลายเป็นเนื้อเดียวกันอย่างกลมกลืน และกลมเกลียว

ผมรู้สึกขอบคุณพ่อแม่ที่ดูแลและส่งผมมาไกลจากจุดเริ่มต้น ขอบคุณความพยายามของตัวเองที่ถีบตัวเองไปสู่ความฝันถัดไปและถัดไปเสมอ

ถ้าถามว่า ผมอยากไปไหนอีก?

ลมทะเลพัดคำตอบมาบอกผมว่า “ที่นี่ตอนนี้ก็น่าพึงพอใจแล้ว” ใช่, ผมได้มานั่งริมหาดเดิม หันกลับมองชีวิตที่ผ่านมาเงียบๆ ในวันเวลาที่รู้สึกว่าเราภูมิใจกับตัวเองได้ ได้ทำสิ่งที่รัก พอจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นบ้าง และมีเวลาว่างพอสมควร รวมถึงมีเพื่อนพี่น้องที่น่ารักรอบตัว

จะต้องการอะไรมากกว่านี้อีกจากชีวิต

ก่อนจะมาถึงวันนี้ ผมคิดว่าตัวเองออกแรงไม่น้อย เป็นประสบการณ์ที่หันไปขอบคุณตัวเองในอดีตได้อย่างเต็มปาก และรู้สึกดีที่ชีวิตในวัยเด็กไม่ได้ได้ทุกสิ่งมาง่ายดาย ขณะเดียวกันก็ไม่ถูกกดกันจนเกินไป

จึงโตมาเป็นคนที่ไม่ต้องเก่งไปกว่านี้ ไม่ต้องดีเลิศไปกว่านี้ ไม่ต้องยิ่งใหญ่ไปกว่านี้

ตอนนี้สมบูรณ์แล้ว

 

4 ชายหาดหัวหินวันนี้บอกกับผมว่า เราควรมีบางวันเวลาได้มานั่งเฉยๆ มองสถานที่ที่พาเรากลับไปสู่อดีตที่ทำให้เราเข้าใจตัวตนปัจจุบันมากกว่าเดิม

มองว่าเราเดินทางมาไกลแค่ไหน มากกว่าเอาแต่ถามตัวเองว่า “จะไปได้อีกไกลแค่ไหน”

เด็กน้อยตัวดำๆ แกร็นๆ คนหนึ่งที่มีพื้นฐานสุดแสนธรรมดา ได้คบหาเพื่อนดีๆ ชักพากันไปสู่ทิศทางที่ดี ได้อยู่ในคณะที่แสนสนุกและอยากเรียน ได้สร้างสรรค์งานที่มีความสุข ได้มีผู้คนอ่าน ฟัง ชมผลงาน มันช่างเป็นชีวิตที่น่าอัศจรรย์

ผมรู้สึกขอบคุณทุกอย่าง ระหว่างลมโกรกหน้า และแหงนมองท้องฟ้ากว้างพอจะบรรจุอดีต-ปัจจุบัน-อนาคตไว้ในชั่วขณะเดียวกัน

ดีจังเลย ตอนนี้

ไม่รู้เหมือนกันว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไง แต่วันนี้ผมมีชั่วขณะหนึ่งที่รู้สึกแบบนั้น เป็นความรู้สึกที่งดงาม ผมนั่งซึมซับมันอยู่คนเดียวสักพัก

นึกถึงเพื่อนๆ ที่มาลอยคอในทะเลหัวหินด้วยกัน เราก็ได้มาเจอกันจนได้นะ รวมถึงอีกหลายคนในชีวิตหลังจากนั้น เรามาเจอกันได้ยังไงเนี่ย จากจุดเริ่มต้นอันไกลห่างกันเหลือเกิน บางคนราวกับคนละจักรวาล

 

5 บางที ชีวิตก็ต้องการวันแบบนี้

วันที่เรารู้สึกดีที่มีชีวิตอยู่และมีชีวิตมาโดยตลอด

มีก้อนเมฆงดงามปรากฏขึ้นขณะนั้น แล้วอีกไม่นานก็สลาย

ลมยังคงพัด ผมลุกขึ้นจากตรงนั้น เสียงเพื่อนกลุ่มเดิมเฮฮาดังก้องสองหู หาดทรายและน้ำทะเลดูเหมือนวันคืนเก่าๆ ตัวเราเดินทางจากอดีตมาเรื่อยๆ

เป็นหัวหินที่สบายใจและรู้สึกไม่ต้องการอะไรอีก

บางชั่วขณะเราอาจรู้สึกว่าชีวิตสมบูรณ์แล้ว

แม้วันรุ่งขึ้นมีอะไรอีกมากมายที่ต้องทำ ปัญหาต้องแก้ไข เรื่องขัดแย้งรอเผชิญ แต่วันเวลาแบบนี้จะย้ำเตือนเราว่า ชีวิตเราน่าพึงพอใจแล้ว ได้บ้าง-ไม่ได้บ้างเป็นเรื่องเล็กน้อย

 

6 ข้อความในคัมภีร์เต้าเต๋อจิงของปรมาจารย์เหลาจื่อกล่าวว่า

“ไม่มีโชคร้ายใดย่ำแย่ไปกว่าความไม่พึงพอใจ”

และท่านยังกล่าวอีกด้วยว่า

“เมื่อเธอตระหนักว่าไม่มีสิ่งขาดหาย โลกทั้งใบก็เป็นของเธอ”

 

7 ผมลุกขึ้นแล้วเดินจากหาดทราย รอยเท้าบนหาดไม่นานก็หาย บางวันที่เราได้มองย้อนกลับไปยังรอยเท้าที่เดินมาอาจทำให้รู้ว่า เราไม่ต้องผลักดันตัวเองให้รีบเดินไปข้างหน้าให้ไกลขึ้นอีกและอีกและอีกขนาดนั้น

ตรงข้าม, เราควรชื่นชมรอยเท้าที่ได้เดินมาบ้าง

และถ้าเป็นไปได้ นั่งเฉยๆ ให้ลมตีหน้าบ้าง

ชีวิตที่สมบูรณ์อาจเผยตัวออกมา, ในช่วงเวลาแบบนั้น