
ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 21 - 27 มีนาคม 2568 |
---|---|
คอลัมน์ | Technical Time-Out |
เผยแพร่ |
ทุกวันนี้หมากฝรั่งที่มีส่วนผสมของกาแฟกลายเป็นอาวุธลับที่ไม่ลับของนักฟุตบอลในอังกฤษไปแล้ว มีการเก็บข้อมูลที่พบว่า นักเตะอาชีพในอังกฤษ 97 เปอร์เซ็นต์ต้องเคี้ยวหมากฝรั่งก่อนและระหว่างการแข่งขัน
สาเหตุที่หมากฝรั่งกาแฟ หรือแม้กาแฟเองกลายเป็นสิ่งที่นิยมกันมากในหมู่นักเตะที่อังกฤษ เพราะมีงานวิจัยที่ชัดเจนแล้วว่า สารกาเฟอีนในกาแฟช่วยเพิ่มศักยภาพให้นักกีฬาได้ โดยช่วยลดอาการเหนื่อย จากการที่ไปบล็อกไม่ให้ร่างกายสร้างอะดีโนซีน ที่ทำให้ร่างกายรู้สึกเหนื่อยล้า ทำให้รู้สึกเหนื่อยน้อยลง ช้าลง ลดอาการเจ็บ ช่วยให้ลุยต่อในสนามได้
นอกจากนั้น ยังช่วยในเรื่องของการสปรินต์ระหว่างเกม ซึ่งกาเฟอีนมีประโยชน์กับนักฟุตบอลอย่างเห็นได้ชัด
เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้าเลสเตอร์ ซิตี้ เคยเปิดเผยถึงเคล็ดลับของตัวเองในวันที่ยิงกระจายจนพาทีมจิ้งจอกสยามสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองได้ในฤดูกาล 2015-2016 ผ่านทางหนังสืออัตชีวประวัติของตัวเอง ว่า เขาต้องดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง 3 กระป๋อง และดับเบิล เอสเพรสโซ่ สัก 1 แก้ว ก่อนเกมเตะ 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยเครื่องดื่มชูกำลังกระป๋องที่ 3 จะจิบไปเรื่อยๆ ก่อนอบอุ่นร่างกาย และเหลือไว้สักเล็กน้อย เอาไว้ดื่มปิดท้ายกลังจบเกม
สำหรับมาตรฐานของการรับกาเฟอีนต่อวันที่หน่วยงานความปลอดภัยด้านอาหารของยุโรปกำหนดไว้อยู่ที่ 400 มิลลิกรัม สูตรของวาร์ดี้ทำให้ร่างกายรับกาเฟอีน 350 ต่อวัน ซึ่งถือว่าอยู่ในความพอดี
ดร.ร็อบ นอจห์ตัน นักโภชนาการที่ทำงานให้กับอินทรา เพอร์ฟอร์แมนซ์ กรุ๊ป ที่ดูแลเรื่องโภชนาการของนักเตะระดับนานาชาติมามากมาย บอกว่า งานวิจัยพบว่า การรับกาเฟอีน 9 มิลลิกรัมต่อน้ำหนัก 1 กิโลกรัม เพื่อช่วยในการเสริมสร้างประสิทธิภาพในช่วงซ้อมและแข่ง
แต่คนทั่วไปไม่ควรเชื่อว่าสูตรของวาร์ดี้จะเหมาะกับตัวเอง และไม่แนะนำให้ทำแบบนั้น
การจะรู้ว่าตัวเองเหมาะสมกับกาเฟอีนในปริมาณเท่าไร ควรเริ่มจากปริมาณที่น้อยไว้ก่อน เช่น เอสเพรสโซ่สัก 1 ช็อต หมากฝรั่งกาแฟ แล้วค่อยปริมาณที่เหมาะสมไปเรื่อยๆ
โค้ชฟิตเนสของทีมในพรีเมียร์ลีกคนหนึ่งซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ บอกถึงเรื่องกาเฟอีนว่า นักเตะจะกินเจลกาแฟหรือเคี้ยวหมากฝรั่งกาแฟก่อนซ้อมหรือลงสนาม เพื่อให้สมองตื่นตัว เท่าที่ประเมินมีนักเตะในลีกสูงสุดของอังกฤษอย่างน้อย 50 เปอร์เซ็นต์ ที่ใช้หมากฝรั่งกาแฟทุกวัน ซึ่งทีมก็ได้เตรียมของขบเคี้ยวจำเป็นอันนี้ไว้ให้อยู่ตลอด
อย่างไรก็ตาม พบว่า ยิ่งใช้กาเฟอีนในระหว่างสัปดาห์มากเท่าไร เมื่อถึงเกมเตะแล้ว กาเฟอีนก็จะมีผลต่อร่างกายน้อยลงกว่าเดิม เพราะการที่ร่างกายดื้อกับกาเฟอีนไปแล้ว เมื่อนักเตะไปใช้ชีวิตนอกสนามซ้อม พวกเขาอาจจะไม่ได้ดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกาเฟอีนที่เหมาะกับอาชีพนักฟุตบอลก็ได้
จุดนี้ทำให้กาเฟอีนที่จะเอามาใช้ในวันแข่งขันมีประสิทธิภาพน้อยลงไป
ดร.อดัม ฟิลด์ อาจารย์ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาและประสิทธิภาพระดับสูง มหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ บอกถึงสาเหตุที่หมากฝรั่งกาแฟเป็นที่นิยมอย่างมากในบรรดานักเตะอาชีพของอังกฤษ ว่า กาเฟอีนในหมากฝรั่งถูกดูดซึมเข้าร่างกายได้เร็วมากๆ ใช้เวลา 5-10 นาที และออกฤทธิ์เต็มที่ในเวลา 15 นาทีเท่านั้น ต่างจากการดื่มกาแฟโดยตรง ที่ต้องใช้เวลาในการดูดซึมถึง 60 นาที
ดังนั้น นักเตะตัวสำรองที่ถูกส่งลงสนามจึงเหมาะมากๆ ที่จะเคี้ยวหมากฝรั่งก่อนลงสนาม เพราะมันเห็นผลเร็วกว่า
ก่อนหน้านี้กาเฟอีนเป็นสารต้องห้ามที่ องค์การต่อต้านสารต้องห้ามโลก (วาด้า) กำหนดไว้ ระหว่างปี 1987-2004 ก่อนจะถูกถอดออก แม้ว่ากาเฟอีนไม่ได้เป็นสารต้องห้ามมา 20 ปีแล้ว แต่วาด้าก็ยังมีการศึกษาถึงการใช้กาเฟอีนในรูปแบบที่ไม่เหมาะสมมาอย่างต่อเนื่อง
ถึงแม้ว่านักเตะส่วนใหญ่จะพึ่งพากาเฟอีนจากหมากฝรั่งกาแฟหรือเครื่องดื่มชูกำลัง แต่ก็มีแข้งบางส่วนที่ไม่จำเป็นต้องใช้มัน
ดร.นอจห์ตันให้เหตุผลว่า การที่นักเตะจะต้องเดินออกจากห้องแต่งตัวเข้าไปในสนามที่มีความจุหลายหมื่นคน บรรยากาศก็พาให้พวกเขาคึกคักและตื่นเต้นมากพอแล้ว
กาเฟอีนอาจจะมีประโยชน์กับนักเตะยามอยู่ในสนาม แต่ก็ส่งผลเสียกับร่างกายพวกเขาไม่น้อย โดยเฉพาะการทำให้นอนหลับยาก เพราะการดื่มกาแฟนั้นไม่ควรดื่มในช่วงบ่ายไปจนถึงค่ำ เพราะกระทบกับการนอน แต่บรรดานักเตะที่ต้องลงสนามในช่วงเย็นถึงค่ำแล้วรับกาเฟอีนเข้าไป จะได้รับผลตรงนี้อย่างมาก จนต้องหันไปใช้ยานอนหลับ ซึ่งก็มีผลเสียกับร่างกายในระยะยาว
กาแฟอาจเป็นอาวุธสำคัญของแข้งระดับท็อปมากมาย แต่การที่องค์กรกีฬาจะพยายามให้ความรู้กับนักเตะเรื่องความเหมาะสมในการรับกาเฟอีนเข้าสู่ร่างกายก็เป็นเรื่องที่สำคัญมากเช่นกัน
การเป็นนักฟุตบอลอาชีพจะอยู่กับพวกเขาไปเพียงช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น
เมื่อเลิกเล่นแล้ว สุขภาพของอดีตนักเตะก็สำคัญเช่นกัน •
Technical Time-Out | จริงตนาการ
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022