ทีมประกันสังคมก้าวหน้า : พลังเล็กที่เปลี่ยนแปลงระบบใหญ่

ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี

ฝนไม่ถึงดิน | ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี

 

ทีมประกันสังคมก้าวหน้า

: พลังเล็กที่เปลี่ยนแปลงระบบใหญ่

 

“พ่อรีบกลับบ้านมาบอกข่าวดีหนู ไม่มีใครในบ้านเราได้รับประโยชน์จากสูตรบำนาญนี้ คุณตา คุณยาย เลิกส่งประกันสังคมมานานแล้ว พ่อก็เงินเดือนทะลุ 15,000 มาตั้งแต่ทำงาน แต่วันนี้พ่อได้สวมกอดคนมากมาย รับผลไม้ ขนมจากคนที่พ่อไม่รู้จัก พวกเขาร้องไห้ โอบกอดกัน เมื่อพ่อบอกว่าพวกเราชนะ เรามีสื่อมวลชนที่ช่วยเรื่องนี้ มีความโกรธและคับแค้นของคนธรรมดา มีนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง ที่เจ็บปวดพร้อมกับเรา เพราะมีการเลือกตั้งบอร์ดโดยตรงเสียงของความไม่พอใจจึงดังก้องหอประชุม เราสู้เรื่องนี้คนเดียวไม่ได้ เก่งแค่ไหนก็ทำไม่ได้ พวกเขาคิดว่าเราต้องหวาดกลัวและอ่อนแอเมื่อมีคนต้องดูแล แต่ไม่ใช่สำหรับพ่อ กอดหนูสักครั้ง เพื่อคนข้างหลังพ่อสู้ตาย สูตรบำนาญ CARE อนุมัติหลักการเอกฉันท์”

ผมโพสต์ข้อความนี้ในเฟซบุ๊กส่วนตัวหลังจากการประชุมบอร์ดประกันสังคมยาวนานกว่าสามชั่วโมงเพื่ออนุมัติ 1 วาระ

เป็นหนึ่งในสภาวะกดดันที่สุดของทีมประกันสังคมก้าวหน้า เราคนธรรมดา 6 คน ที่เข้ามามีส่วนบริหารกองทุนขนาด 2.6 ล้านล้านบาท

การแก้ไขสูตรบำนาญมีความสำคัญมาก แม้จะใช้งบประมาณไม่ได้เยอะ แต่ต้องอาศัยแรงจูงใจและความมุ่งมั่นทางการเมืองสูงเพื่อผลักดันแก้ไขสิ่งที่ใช้มาอย่างยาวนานเกือบสามสิบปี (ในบทความสัปดาห์ที่แล้วผมได้อธิบายสูตรคำนวณบำนาญเฉลี่ยโดยละเอียดไปเรียบร้อยแล้ว)

การผลักดันเปลี่ยนแปลงจึงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก แต่ด้วยการสนับสนุนจากทุกฝ่าย เราสามารถผลักดันวาระสำคัญและคืนชีวิตให้ผู้คนนับแสนที่จะรับบำนาญและกำลังรับบำนาญผ่านสูตรที่ไม่เป็นธรรมได้ ด้วยคนธรรมดาที่มีแรงมุ่งมั่น ทั้งการบริหาร ตรวจสอบ และสื่อสาร

 

ในวงการการเมืองไทย เรามักจะให้ความสำคัญกับพรรคการเมืองขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงและประสบการณ์ยาวนาน โดยเชื่อว่าเฉพาะพรรคใหญ่เท่านั้นที่จะสามารถขับเคลื่อนนโยบายสำคัญและแก้ไขปัญหาระดับชาติได้

แต่ในความเป็นจริง บางครั้งกลับเป็นกลุ่มการเมืองขนาดเล็กหรือหน้าใหม่ที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญได้

“ทีมประกันสังคมก้าวหน้า” คือตัวอย่างที่ชัดเจนของปรากฏการณ์นี้ ทีมงานเพียง 6 คนที่เข้าไปอยู่ในบอร์ดบริหารกองทุนประกันสังคมได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า แม้จะเป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ แต่หากมีความเข้าใจระบบอย่างลึกซึ้ง มีความมุ่งมั่น และมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน ก็สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในระบบขนาดใหญ่ได้

ความสำเร็จล่าสุดในการผลักดันสูตรคำนวณบำนาญชราภาพใหม่ให้กับผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 บอร์ดประกันสังคมเองแตกต่างจากอำนาจบริหารทั่วไป

คือเป็นระบบไตรภาคี ไม่ได้มีอำนาจบริหารเต็มแถมยังซ้อนด้วยระบบราชการ

ไม่ได้มีงบประมาณในมือ งบประมาณสิทธิประโยชน์ต่างๆ ก็บริหารภายใต้ข้อจำกัด มีอำนาจในการกำหนดแนวทางการใช้

แต่การแก้ไขสูตรบำนาญคืออำนาจของบอร์ดแน่นอน นี่คือสิ่งที่พวกเราเดินหน้าสื่อสารและใช้ทุกสรรพกำลังในการดำเนินการ

และค้นพบวิธีแก้ปัญหาด้วยการปรับแก้กฎระเบียบและสูตรการคำนวณที่ไม่เป็นธรรม

ความสำเร็จของทีมประกันสังคมก้าวหน้าสะท้อนให้เห็นบทเรียนสำคัญหลายประการสำหรับการเมืองไทย กลไกประชาธิปไตยไม่ได้หยุดอยู่แค่การเลือกตั้งทุกสี่ปี

มันมีช่องทางอีกมากมายที่พลเมืองตื่นรู้และนักการเมืองที่มุ่งมั่นสามารถใช้ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง

บางครั้งเพียงการมีตัวแทนเข้าไปในคณะกรรมการหรือสภาที่มีอำนาจตัดสินใจก็เพียงพอที่จะจุดประกายการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ได้

ดังที่ทีมประกันสังคมก้าวหน้าได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว

 

ประกันสังคมก้าวหน้าไม่ใช่กลุ่มการเมืองกลุ่มเดียวในโลกนี้ที่พัฒนาจากกลุ่มเล็กๆ ที่มีผู้สนับสนุนจำกัดขยายสู่กลุ่มที่ได้รับความสนใจระดับชาติ ปรากฏการณ์ที่กลุ่มการเมืองขนาดเล็กสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มีให้เห็นในหลายประเทศทั่วโลก โดยมีลักษณะการทำงานที่คล้ายคลึงกับทีมประกันสังคมก้าวหน้าในประเทศไทย

1. พรรคไพเรต (Pirate Party) ในไอซ์แลนด์

เมื่อไอซ์แลนด์เผชิญกับวิกฤตการณ์การเงินครั้งใหญ่ในปี 2008 ที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศล่มสลาย พรรคไพเรตซึ่งเป็นพรรคฝ่ายซ้ายที่เน้นความเท่าเทียมทางดิจิทัลและประชาธิปไตยทางตรง ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการผลักดันการปฏิรูปประเทศโดยที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน

พรรคไพเรตสามารถผลักดันกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วม และนโยบายที่นำไปสู่การจับกุมนักการเงินและนักการธนาคารที่ก่อให้เกิดวิกฤต

แทนที่จะแก้ปัญหาด้วยการอัดฉีดเงินเข้าระบบหรือช่วยเหลือธนาคารเพียงอย่างเดียว พวกเขาเลือกที่จะแก้ไขโครงสร้างและกฎกติกาที่เป็นรากเหง้าของปัญหา

ผลลัพธ์คือ ไอซ์แลนด์สามารถฟื้นตัวจากวิกฤตได้อย่างรวดเร็วและเป็นธรรมกว่าหลายประเทศ โดยไม่ทิ้งภาระหนี้สาธารณะให้คนรุ่นต่อไป และเกิดการกระจายความมั่งคั่งที่เท่าเทียมมากขึ้น

2. พรรค SYRIZA ในกรีซ

SYRIZA (Coalition of the Radical Left) เริ่มต้นจากการเป็นพรรคฝ่ายซ้ายขนาดเล็กในกรีซที่มีคะแนนเสียงเพียง 4% ในปี 2004

แต่เมื่อกรีซเผชิญวิกฤตหนี้สาธารณะในปี 2010 พรรคนี้ได้นำเสนอทางเลือกใหม่ในการแก้ปัญหาที่แตกต่างจากมาตรการรัดเข็มขัดที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศและสหภาพยุโรปบังคับใช้

ในปี 2015 SYRIZA สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการชนะการเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาล แม้ว่าจะเผชิญกับแรงกดดันมหาศาลจากเจ้าหนี้นานาชาติ แต่พวกเขาก็สามารถเจรจาต่อรองเงื่อนไขบางประการที่ช่วยบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน โดยเฉพาะการคุ้มครองกลุ่มเปราะบาง

พวกเขาได้ปฏิรูประบบภาษีที่นำไปสู่การจัดเก็บภาษีจากผู้มีรายได้สูงและบริษัทขนาดใหญ่ได้มากขึ้น

ในขณะที่ลดภาระภาษีให้กับผู้มีรายได้น้อย และสามารถแก้ไขปัญหาการหลบเลี่ยงภาษีที่เรื้อรังในกรีซได้ในระดับหนึ่ง

3. พรรค Podemos ในสเปน

ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2011 ที่สเปนเผชิญกับอัตราการว่างงานสูงถึง 25% กลุ่มนักวิชาการฝ่ายซ้ายและนักเคลื่อนไหวได้ก่อตั้งพรรค Podemos (เราทำได้) ขึ้น

ในปี 2014 โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพรรคที่เพิ่งก่อตั้งนี้จะสามารถเข้าไปมีอิทธิพลในการเมืองสเปนได้ ภายในเวลาเพียงไม่กี่เดือน

Podemos สามารถส่งผู้แทนเข้าไปในรัฐสภายุโรปและต่อมาได้ที่นั่งในรัฐสภาสเปน

พวกเขาผลักดันนโยบายที่มุ่งแก้ไขความเหลื่อมล้ำโดยการปฏิรูประบบภาษีและกฎหมายแรงงานที่คุ้มครองสิทธิแรงงานมากขึ้น

4. พรรค Die Linke ในเยอรมนี

Die Linke (พรรคฝ่ายซ้าย) ในเยอรมนีเกิดจากการรวมตัวของพรรคฝ่ายซ้ายในเยอรมนีตะวันออกเดิมกับกลุ่มแยกตัวจากพรรคสังคมประชาธิปไตยที่ไม่พอใจนโยบายสายกลางของพรรค

แม้จะไม่ได้เป็นพรรครัฐบาลในระดับประเทศ แต่ Die Linke มีบทบาทสำคัญในการผลักดันนโยบายทางสังคมที่ก้าวหน้า และเป็นพรรคร่วมรัฐบาลในหลายรัฐของเยอรมนี ในรัฐที่พวกเขามีอำนาจ

Die Linke ได้ผลักดันนโยบายที่สร้างความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ เช่น การขยายบริการสาธารณะ การพัฒนาระบบการศึกษาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น และการจัดการที่อยู่อาศัยที่เป็นธรรม โดยไม่ต้องเพิ่มภาระงบประมาณมากนัก

แต่ใช้วิธีการบริหารจัดการทรัพยากรที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพและกระจายความมั่งคั่งอย่างเป็นธรรมมากขึ้น

5. พรรค La France Insoumise (LFI) ในฝรั่งเศส

ก่อตั้งในปี 2016 โดย Jean-Luc M?lenchon อดีตรัฐมนตรีและสมาชิกพรรคสังคมนิยม LFI เป็นขบวนการฝ่ายซ้ายที่มีแนวทางต่อต้านระบบทุนนิยมแบบเสรีนิยมใหม่และเรียกร้องการกระจายอำนาจกลับสู่ประชาชน แม้ว่า LFI จะไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่พวกเขาก็มีอิทธิพลอย่างมากในการผลักดันประเด็นทางสังคมและสิ่งแวดล้อมเข้าสู่วาระทางการเมืองของฝรั่งเศส โดยเฉพาะในประเด็นการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการกระจายความมั่งคั่ง

ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2022 M?lenchon ได้คะแนนสูงถึง 22% ซึ่งเกือบจะผ่านเข้ารอบสอง และในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภา

LFI ได้เป็นแกนนำในการรวมพรรคฝ่ายซ้ายฝรั่งเศสเป็น “แนวร่วมฝ่ายซ้ายใหม่” (New Popular Union) ซึ่งกลายเป็นพรรคฝ่ายค้านที่ใหญ่ที่สุดในรัฐสภา

 

ความสำเร็จของทีมประกันสังคมก้าวหน้าเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า ทำไมประชาชนควรพิจารณาให้โอกาสกลุ่มการเมืองหน้าใหม่หรือพรรคขนาดเล็กที่มีแนวคิดชัดเจนและมีผลงานเชิงประจักษ์

การเมืองไทยต้องการแนวคิดใหม่ๆ และวิธีการที่สร้างสรรค์ในการแก้ปัญหา

ไม่ใช่การพึ่งพาแต่นักการเมืองหน้าเดิมๆ ที่ใช้วิธีการแบบเดิมๆ ในการแก้ปัญหา

“ทีมประกันสังคมก้าวหน้า” ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า กลุ่มการเมืองขนาดเล็กสามารถเป็น “ม้ามืด” ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงสำคัญให้กับประเทศได้ หากมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน เข้าใจระบบอย่างลึกซึ้ง

และมีความกล้าหาญที่จะท้าทายโครงสร้างที่มีอยู่