ราคาไข่พุ่งสูง เรื่องการเมืองในสหรัฐ

An activist holds up a sign about high egg prices during a protest against the Trump administration's policies outside the Texas Capitol, in Austin, Texas, Tuesday, March 4, 2025. (Mikala Compton/Austin American-Statesman via AP)

บทความต่างประเทศ

 

ราคาไข่พุ่งสูง

เรื่องการเมืองในสหรัฐ

 

จากข้อมูลของรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกา ระบุว่า เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ราคาไข่ในสหรัฐอเมริกา ได้สร้างสถิติราคาขายเฉลี่ยแพงสุดที่โหลละ 4.95 ดอลลาร์สหรัฐ ทำลายสถิติราคาสูงสุดก่อนหน้านี้ที่มีขึ้นเมื่อเดือนมกราคม 2023 ในขณะที่บางพื้นที่ของสหรัฐ ราคาแพงกว่าค่าเฉลี่ยนี้อีก

เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ซูเปอร์มาร์เก็ต เซฟเวย์ ในนครซานฟรานซิสโก ขายไข่ราคาโหลละ 10.99 ดอลลาร์สหรัฐ

กระทรวงเกษตรของสหรัฐ คาดว่า ราคาไข่ในปีนี้จะสูงขึ้น 41 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของปีที่แล้วที่โหลละ 3.17 ดอลลาร์สหรัฐ

ตอนนี้ ร้านอาหารหลายแห่งในสหรัฐ ก็มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นชั่วคราว สำหรับเมนูที่มีไข่เป็นส่วนประกอบ

โดยการปรับราคามากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับว่าอยู่ในพื้นที่ไหน และร้านอาหารแต่ละแห่ง ก็ขึ้นราคาไม่เท่ากัน

 

การถีบราคาสูงขึ้นของไข่ในสหรัฐนั้น ฝั่งพรรคเดโมแครตมองว่า เรื่องไข่น่าจะเป็นหนทางที่ทำให้พรรคเดโมแครตกลับฟื้นขึ้นมาได้ โดยออกมาตอกย้ำว่า ปัญหาราคาไข่ที่สูงขึ้น เกิดขึ้นจาก ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันนั่นเอง

ทั้งนี้ สำหรับต้นเหตุที่ทำให้ราคาไข่แพงขึ้นนั้น ทรัมป์ได้กล่าวโทษว่า เป็นเพราะนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนก่อนหน้าเขา ที่มาจากพรรคเดโมแครต เป็นต้นเหตุที่ทำให้ไข่ราคาสูงขึ้น โดยระบุว่า โจ ไบเดน ปล่อยให้ราคาไข่เพิ่มสูงขึ้น โดยที่ไม่สามารถควบคุมได้ ขณะที่ทรัมป์และรัฐบาลของทรัมป์ กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อทำให้ราคาไข่ลดลงมา

อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้เชี่ยวชาญในแวดวงอุตสาหกรรมไข่ ต่างลงความเห็นเหมือนกันว่า สาเหตุมาจากการระบาดของไข้หวัดนก ที่ทำให้ต้องมีการฆ่าไก่จำนวนมาก จนส่งผลให้มีไข่ออกมาน้อยลง และทำให้ราคาไข่ทะยานสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์

แม้ว่าจะมีบางคนตั้งข้อสงสัยว่า เจ้าของธุรกิจไข่ปรับราคาขึ้นเพื่อเพิ่มกำไรให้มากขึ้นก็ตาม

 

นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานเพิ่มเติมว่า ทีมงานของทรัมป์ตระหนักดีว่า สถานการณ์ราคาไข่กำลังกลายเป็นประเด็นเรื่องการเมือง

ขณะที่ อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีผู้ได้รับมอบหมายจากทรัมป์ ให้เป็นที่ปรึกษาให้กับทำเนียบขาว และผู้นำกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาลได้โพสต์ขึ้น X ของตัวเองในการออกมาโยนความผิดเรื่องราคาไข่ที่สูงขึ้นให้กับไบเดน โดยระบุว่า มีการฆ่าไก่ไข่มากถึง 150 ล้านตัว ตามคำสั่งของรัฐบาลไบเดน

ซึ่งมัสก์เองคงลืมไปว่า มีไก่ไข่หลายล้านตัวถูกฆ่าตั้งแต่ทรัมป์เข้ามารับตำแหน่งเช่นกัน

ทั้งนี้ มีรายงานว่า นับตั้งแต่ทรัมป์กลับเข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเป็นสมัยที่ 2 มีการฆ่าไก่ไปแล้วกว่า 27 ล้านตัว เพื่อเป็นการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดนก

นับตั้งแต่เกิดการระบาดของไข้หวัดนกครั้งใหม่ในสหรัฐ ตั้งแต่ปี 2022 สหรัฐได้ฆ่าไก่ไปแล้วกว่า 166 ล้านตัว

ขณะที่รัฐบาลของทรัมป์ ได้เปิดเผยแผนในการต่อสู้กับไข้หวัดนก เพื่อช่วยลดราคาไข่ลง แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นยากที่จะคาดเดาได้ เนื่องจากแผนที่วางไว้เป็นเงิน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากนโยบายเดิมมากนัก

 

จอช ไรลีย์ ส.ส.พรรคเดโมแครต จากนิวยอร์ก ที่เพิ่งเผชิญกับการระบาดของไข้หวัดนกในเขตเลือกตั้งของเขา บอกว่า แทบทุกครั้งที่เขาพูดคุยกับประชาชนในเขตเลือกตั้ง ก็จะมีการพูดถึงราคาข้าวของที่สูงขึ้น โดยเฉพาะราคาไข่ไก่ ที่ไรลีย์เชื่อมโยงความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจและประชาธิปไตยโดยตรง

ไรลีย์บอกว่า หากคุณกังวลเกี่ยวกับประชาธิปไตยของเรา นั่นเป็นเหตุผลที่ต้องกังวลเกี่ยวกับราคาไข่ไก่มากกว่า

และว่า เหตุผลที่ประชาธิปไตยของสหรัฐอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ เป็นเพราะนักการเมืองละเลยความต้องการของคนทำงานทั่วไปมานานหลายทศวรรษ

“ไม่น่าแปลกใจเลยที่หลังจาก 40 ปีของการส่งงานไปต่างประเทศเพียงเพื่อให้วอลล์สตรีตร่ำรวย หลังจาก 3 ปีที่ราคาไข่พุ่งสูงขึ้นและไม่มีใครทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ทำให้ผู้คนที่นี่รู้สึกหงุดหงิดจริงๆ และเชื่อว่าประชาธิปไตยของเราไม่เหมาะกับพวกเขา แล้วคุณจะโทษพวกเขาได้อย่างไร” ไรลีย์กล่าว

เครดิตภาพ “เอพี”