คอลัมน์ประจำ

ลูกเขา ลูกเรา

President Donald Trump is joined by Elon Musk and his son X Æ A-Xii, as he signs a series of executive orders in the Oval Office at the White House on Feb. 11, 2025 in Washington./Alex Brandon/AP
ที่มามติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 14 - 20 มีนาคม 2568
คอลัมน์สำเริงคดี
เผยแพร่

ขณะกะลังเมาธ์ข่าวนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะตัวใหม่ในออฟฟิศทำเนียบขาว

การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ไม่เกี่ยวกะฮวงจุ้ย รึฮวงซุ้ยใดๆ แต่เพราะเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ หาใช่ภุมภีร์ อีลอน มัสก์ เข้ามาร่วมประชุมการพัฒนาหน่วยงานต่างๆ เพื่อการบริหารประเทศ ซึ่งมีการบันทึกวิดีโอแล้วแถมบทพ่อแสนดีพา ด.ช.ไครมส์ วัย 4 ขวบมาด้วย

ช่วงเวลาหนึ่งซึ่ง ปธน.ผู้บริหารสูงสุดของประเทศ กับ CEO สูงสุดของบริษัทเทสลา สนทนาเรื่องทางการอย่างไม่เป็นทางการอยู่ พ่อหนูไครมส์ก็ล้วงจมูก แคะขี้มูก โปรยป้ายลงบนโต๊ะทำงานประจำตำแหน่งของ ปธน.อย่างเพลิดเพลิน

ในตอนนั้น ทรัมป์ซึ่งอวยเจ้าหนูน้อยไว้ว่าเป็นเด็กไอคิวสูง เยี่ยมยอด แสร้งทำเป็นมองไม่เห็น แต่แล้วต่อมา ก็มีการเปลี่ยนโต๊ะเกิดขึ้น โดยมิมีการแจ้งแจงสาเหตุใดๆ แต่ทรัมป์เคยบอกไว้ก่อนหน้าเหตุการณ์นี้นานแล้วว่า เขาเป็นพวกหวาดผวาเชื้อโรค…

 

เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ปธน.สหรัฐสมัยแรก ทรัมป์ได้ใช้โต๊ะทำงานหลักตัวนี้มาตลอด ในการเข้ารับตำแหน่งเป็นสมัยที่ 2 วันแรกๆ เขาก็นั่งเซ็นเอกสารคำสั่งต่างๆ ที่โต๊ะนี้เช่นเคย กระทั่งหลังการเยือนทำเนียบของลูกชาย อีลอน มัสก์ นี่แหละ ทรัมป์จึงเลือกโต๊ะทำงานที่มีอยู่ด้วยกัน 7 ตัวมาใช้แทนตัวหนึ่ง

เขาโพสต์ลงโซเซียล เมื่อ 19 กุมภาพันธ์ว่า “โต๊ะทำงาน THE C & O นี้ เป็นโต๊ะที่ ปธน.จอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุช เคยนำมาใช้ตอนที่โต๊ะหลัก RESOLUTE DESK ถูกนำไปปรับแต่งใหม่”

“มันเป็นการใช้ทดแทนที่สวยงามดี”

แต่ก็เป็นเพียงการใช้ชั่วคราวเท่านั้น

ขณะที่ลูกชายมิตรรักนักการเมือง ทำให้ทรัมป์ต้องเปลี่ยนโต๊ะทำงาน ลูกชายของเขาเองก็ทำให้ประธานชมรมนักศึกษามหาวิทยาลัยนิวยอร์กต้องลาออกจากตำแหน่ง

เหตุเพราะ กายา เจ. วอล์กเกอร์ รุ่นพี่ซีเนียร์ ซึ่งเป็นประธานนักศึกษาได้ให้สัมภาษณ์นิตยสาร VANITY FAIR ไปว่า บาร์รอน ทรัมป์ เฟรชชี่วัย 18 หัวแก้วหัวแหวนของเมลาเนีย และโดนัลด์ ทรัมป์ เป็น “ODDITY ON CAMPUS” เธอให้เหตุผลในการวิพากษ์เช่นนั้นว่าเขามาเรียนเสร็จแล้วก็กลับบ้าน อาจเป็นเพราะว่าวัฒนธรรมในแคมปัสเป็นสิ่งน่าชัง ซึ่งเหล่าเซเลบไม่อยากร่วมกิจกรรมสังคมใดๆ ด้วยก็เป็นได้

ต่อมา กายาจึงลาออกจากประธาน น.ศ. เพื่อแสดงความรับผิดชอบ แต่ก็กล่าวแก่ว่า คอมเมนต์ของเธอคงทำให้คนเข้าใจผิด เธอไม่ได้วิจารณ์ตัวบาร์รอนว่าประหลาดพิกล แต่หมายถึง พฤติกรรมของนักศึกษาที่สนใจแต่ธุระของตัวเองในมหาวิทยาลัยเท่านั้น (แบบว่าไม่เข้าร่วมกิจกรรมใดๆ เลย)

กายาบอกด้วยว่า เธอไม่รู้จักบาร์รอนเป็นการส่วนตัว ทั้งไม่รู้ว่าเขาเป็นลูกชายสุภาพสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐ และไม่เคยพบเห็นเขาภายในแคมปัสอีกด้วย •

 

สำเริงคดี | ทรงวาด