ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 16 - 22 กุมภาพันธ์ 2561 |
---|---|
เผยแพร่ |
คอลัมน์สิ่งแวดล้อม
คดี “เปรมชัย กรรณสูต” ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กับพวกบุกเข้าไปตั้งแคมป์ล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมอาวุธปืนเพียบ ทำเอาคนไทยช็อกทั้งประเทศ
ภาพซากสัตว์ป่าสงวนฯ ทั้งเสือดำ เก้งและไก่ฟ้าหลังเทา กองอยู่ในแคมป์คณะ “เปรมชัย” เสมือนประจานให้โลกรู้ว่า มหาเศรษฐีติดอันดับท็อปของประเทศไร้ซึ่งจิตสำนึกสาธารณะ
คดีนี้คนทั้งประเทศเฝ้าจับตาดู “หลุด” หรือ “คุก”
และนี่จะเป็นอีกคดีที่ชี้วัดว่า การบังคับใช้กฎหมายของบ้านเราล้มเหลวอีกหรือไม่?
ถ้าล้มเหลวซ้ำรอยอดีต ก็อย่าได้หวังว่าประเทศไทยจะเดินหน้ากับการใช้ข้อกฎหมายควบคุมทิศทางสู่ความเป็นอารยชน
ผลที่ตามมานอกจากสังคมเกิดความอลหม่าน ไร้ที่พึ่งแล้ว การดูแลอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจะหมดสิ้นสภาพไปด้วย
วกกลับมาพูดถึงเรื่องการรีไซเคิลกับโลกร้อนกันดีกว่า
เมื่อสัปดาห์ก่อนมีข่าวใหญ่ในวงการสิ่งแวดล้อมด้านการรีไซเคิลขยะของอังกฤษ
เนื้อข่าวมีอยู่ว่า รัฐบาลเมืองผู้ดีเตรียมนำแผนปฏิบัติการ “รีไซเคิล” ของนอร์เวย์มาใช้บนเกาะอังกฤษ และได้ส่งทีมงานไปดูวิธีการบริหารจัดการกับขวดพลาสติกที่กรุงออสโลแล้วด้วย
สาเหตุที่อังกฤษต้องการก๊อบปี้การเก็บขวดพลาสติกมารีไซเคิลเหมือนอย่างนอร์เวย์ เป็นเพราะว่า อังกฤษถึงทางตันในการจัดการกับขยะพลาสติกที่กำลังล้นประเทศ
ก่อนหน้านี้ จีนเป็นหนึ่งในศูนย์กลางขยะพลาสติก
ประเทศพัฒนาแล้วไม่ว่าสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น หรืออังกฤษ ส่งขยะและขวดพลาสติกใช้แล้วไปให้จีนรีไซเคิล เฉลี่ยตกปีละ 7.3 ล้านตัน เฉพาะอังกฤษ 2.7 ล้านตัน
เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา รัฐบาลจีนประกาศห้ามนำเข้าขยะพลาสติกต่างด้าวอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ จีนเร่งเพิ่มระดับความสำคัญกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมให้เข้มงวดมากขึ้น
ขณะเดียวกัน ปริมาณขยะพลาสติกในจีนเพิ่มพรวดพราดมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้วเนื่องจากเศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้สังคมจีนเข้าสู่ยุคบริโภคนิยม
เมื่อปี 2558 คนจีนซื้อน้ำขวดดื่ม 68,400 ล้านขวด
ปี 2559 พุ่งเป็น 73,800 ล้านขวด
เพียงปีเดียวปริมาณเพิ่มขึ้น 5,400 ล้านขวด
นี่คิดเฉพาะน้ำดื่มบรรจุในขวดพลาสติกเท่านั้น
ในปี 2549 ทั่วโลกผลิตขวดพลาสติกออกมาใส่เครื่องดื่มชนิดต่างๆ มีจำนวน 300,000 ล้านขวด
10 ปีถัดมาคือปี 2559 ปริมาณการใช้ขวดพลาสติกพุ่งขึ้นถึง 480,000 ล้านขวด
คิดเฉลี่ยคนทั้งโลกกินเครื่องดื่มที่บรรจุอยู่ในขวดพลาสติกวินาทีละ 2 หมื่นขวด
ขวดพลาสติกที่ใช้แล้วและแปรสภาพกลายเป็นขยะนั้น ทุกประเทศทั่วโลกเก็บกลับมารีไซเคิลทำเป็นพลาสติกใหม่เพียง 7 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือทิ้งในกองขยะ ในทะเล หรือไม่ก็เอาไปเผาทำลาย
อย่างที่บ้านเรา ขยะพลาสติกทิ้งลงทะเลมีปริมาณสูงมากถึงขั้นติดอันดับ 6 จาก 192 ประเทศ
นักสิ่งแวดล้อมประเมินว่า แต่ละปีจะมีขยะเหล่านี้ลอยอยู่ในทะเลทุกซอกมุม ไม่เว้นแม้กระทั่งเกาะแก่งต่างๆ หรือขั้วโลกราว 13 ล้านตัน
อย่างที่รู้กันว่าขยะพลาสติกคือหนึ่งในสาเหตุหลักทำให้สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ
ขยะพลาสติกไม่ว่าจะเอาฝังดิน ทิ้งลงทะเลหรือเผาไฟก็ล้วนเกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมตามมา
ถ้าฝังดินต้องใช้เวลานับร้อยปีจึงย่อยสลาย เอาไปทิ้งทะเลก็ทำลายระบบนิเวศน์ทางทะเล
สัตว์ใต้ท้องทะเลกินขยะพลาสติกเข้าไปเพราะนึกว่าเป็นอาหาร มีสถิติการเสียชีวิตเป็นจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปีและมีผลกระทบกับห่วงโซ่อาหาร
นักวิทยาศาสตร์ประเมินว่าในแต่ละปีผู้บริโภคกินเนื้อปลาหรืออาหารซีฟู้ดที่มีพลาสติกชิ้นเล็กๆ ราว 11,000 ชิ้น
เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว นักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยพลีมัธ แห่งอังกฤษตรวจพบชิ้นพลาสติกขนาดเล็ก (microplastic) อยู่ในเนื้อปลาค็อด ปลาแมคเคอเรล และหอย
และหากเอาขยะพลาสติกไปเผา จะเกิดควันพิษทำลายชั้นบรรยากาศและมีผลต่อระบบทางเดินหายใจ มีผลเสียค่อสุขภาพร่างกาย
ถ้าภายในทศวรรษนี้ ทั่วโลกไม่มีระบบการบริหารจัดเก็บขยะอย่างมีประสิทธิภาพเพียงพอ ขยะพลาสติกจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ของโลก เพราะทุกๆ วินาทีจะมีคนซื้อเครื่องดื่มบรรจุอยู่ในขวดพลาสติก และปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นถึง 583,300 ล้านขวด หรือเพิ่มขึ้น 20% ในปี 2574
ขวดพลาสติกที่นำมาบรรจุน้ำดื่มหรือเครื่องดื่มชนิดต่างๆ ส่วนใหญ่ทำจากเม็ดพลาสติกชนิดพอลิเอทธิลีนเทเรฟธาเลต หรือเพ็ต (polyethylene terephthalate : Pet) คิดค้นโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษตั้งแต่ปี 2484
เพ็ตสามารถนำมาแปรรูปใช้ใหม่ได้อีกอย่างน้อย 10 ครั้ง
แต่น่าเสียดายที่ทั่วโลกไม่ได้เอาจริงเอาจังกับกระบวนการรีไซเคิลขวดพลาสติก
ย้อนกลับไปที่อังกฤษ ทุกๆ วันชาวเมืองผู้ดีใช้ขวดพลาสติก 38.5 ล้านขวด แต่ดึงออกมาจากกองขยะเอาไปรีไซเคิลได้แค่ครึ่งหนึ่งเท่านั้น
ที่เหลือ 16 ล้านขวดอยู่ในกองขยะ หรือในทะเล
เมื่อจีนห้ามนำเข้าขยะพลาสติก ระบบการจัดเก็บขยะของอังกฤษได้รับผลกระทบในทันที
ทางออกของอังกฤษเท่าที่มีอยู่ในขณะนี้คือ ไปก๊อบปี้วิธีรีไซเคิลของนอร์เวย์มาใช้เพื่อลดปัญหา ขยะพลาสติกล้นเมือง
สัปดาห์หน้ามาว่ากัน ทำไมต้อง “นอร์เวย์”?