เผยแพร่ |
---|
สถานการณ์อันเกี่ยวกับ “หมอธี” หรือ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ คือ เงาสะท้อนแห่งความขัดแย้ง
1 ระหว่าง “เจตนา” กับ “ผล”
ขณะเดียวกัน 1 ซึ่งสำคัญเป็นอย่างมาก คือ ระหว่าง”คำพูด”กับ “การกระทำ”
การพูดที่สถานทูตไทย ณ กรุงลอนดอน เป็นอย่างหนึ่ง
การพูดและการกระทำภายหลังการทำความเข้าใจกันที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ณ กรุงเทพมหานคร เป็นอีกอย่างหนึ่ง
เหมือนกับผลร้ายจะตกกับ “หมอธี”
แต่ในระยะยาวทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทั้ง พล.อ.ประ วิตร วงษ์สุวรรณ ก็จะได้รับผลสะเทือนไปด้วย
ทุกอย่างเป็นไปตาม “กรรม”
กล่าวสำหรับ “ความเห็น” ของ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ ณ กรุงลอนดอน
มี”ผล”ที่แน่นอนไปแล้ว
ไม่ว่าจะต่อนาฬิกาเรือนที่ 1 หรือต่อนาฬิกาเรือนที่ 25 ในวงแขนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
สะท้อน”หลักการ”อันควรจะเป็นเด่นชัด
ขณะเดียวกัน คำกล่าว”ขอโทษ” ของ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ ก็มี “ผล” ไปแล้ว
ไม่ว่าจะต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ไม่ว่าจะเมื่อออกมาแถลงกับบรรดาผู้สื่อข่าว ณ ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
รู้เช่นเห็นใน “จริยธรรม” ไปหมดสิ้นแล้ว
กระนั้น ภายใน”ความขัดแย้ง”จากกรุงลอนดอนมายังกรุงเทพมหานครก็มิได้เป็นไปตาม “เจตนา”
ไม่ว่าจะเจตนาของ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์
ไม่ว่าจะเจตนาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจะเจตนาของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
1 คสช.สามารถสกัดมิให้มีการ”ปรับครม.”ได้
1 คสช.สามารถรั้งดึงทั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ ให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต่อไปได้
แต่”ความน่าเชื่อถือ”ก็ไม่แน่ว่าจะอยู่ใน “ระนาบ” เดิมหรือไม่