เผยแพร่ |
---|
สถานีคิดเลขที่ 12 | สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร
ส.ว.หวิว-กกต.ไม่หวิว
การที่ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร ประธานกรรมาธิการกิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญและสมาชิกวุฒิสภา
ยื่นหนังสือ ต่อประธานวุฒิสภา
เพื่อบรรจุญัตติให้วุฒิสภาพิจารณาปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรม และการบังคับใช้กฎหมายของกระทรวงยุติธรรม
พร้อมขอให้ยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมต.ยุติธรรม และ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดี ดีเอสไอ ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบและฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม
นอกจากนี้ ส.ว.อีกส่วนหนึ่งเตรียมขอเปิดอภิปรายทั่วไป ซักฟอก พ.ต.อ.ทวี โดยไม่ลงมติ
เป็นสิ่งที่ไม่เหนือความคาดหมาย
เพราะส.ว.กว่าร้อยคน คง “สุดหวิว” กับการถูกบี้เรื่องฮั้วการเลือกตั้ง จึงต้องตอบโต้อย่างรุนแรง
ซึ่ง พ.ต.อ.ทวี โต้กลับว่าทำด้วยความยุติธรรมไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง
พร้อมกับพูดในเชิงขู่ๆ ว่า หากต้องชี้แจง ก็จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับบางอย่าง
นั่นหมายความว่า ดีเอสไอ กุมข้อมูลสำคัญไว้
อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นการตอบโต้ในเชิง”วิวาทะ”
แต่ที่จะเป็นเนื้อเป็นหนัง พ.ต.อ.ทวี และพ.ต.ต.ยุทธนา คงต้องลุ้นเต็มที่ ให้บอร์ดคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.)ของดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษ ในวันที่ 6 มีนาคม นี้ให้ได้
หากต้องเลื่อนอีกหรือ มี มติไม่รับ เชื่อว่าคงปั่นป่วนแน่
ซึ่งก็มีโอกาส ไม่ใช่ไม่มี
เพราะอย่างที่ทราบข่าว กคพ.เสียงแตก มีกรรมการลังเล อยู่ไม่น้อย
จะด้วยไม่มั่นใจในแง่ข้อกฎหมาย หรือ เป็นไปตามข่าวลือที่ว่ามีการล็อบบี้ ก็ตาม
แต่สะท้อนว่าการผลักดันให้กรณีฮั้วส.ว.เป็นคดีพิเศษ ไม่ง่าย
และแน่นอน ตัวละครสำคัญคือ คณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.)ที่มีสิทธิชี้เป็นชี้ตายกรณีนี้
แต่ดูเหมือน กกต.ชุดนี้ จะไม่รู้สึก”หวิว”เอาเสียเลย
แสดงท่าที”วางเฉย”ทั้งที่กรณี”ฮั้วส.ว.”ว่ากันว่า มีพยานหลักฐานเกินระดับ “น่าเชื่อได้ว่า”ไปหลายขีด
แต่กกต.ก็เงียบกริบ สังคมไม่เคยได้รับรู้ว่า กกต.กำลังดำเนินการอะไรอยู่
และกระตือรือร้นช่วยเคลียร์ปมการเลือกตั้งส.ว.ให้ชัดเจนมากน้อยเพียงใด อย่างไร
เราจึงเห็นแต่ภาวะอึมครึม
เห็นแต่การขบปม ทางกฎหมายระหว่างดีเอสไอกับกกต.ว่าใครมีอำนาจ หรือไม่มีอำนาจในเรื่องนี้
สังคมแทบไม่เห็นกกต.แสดงท่าทีที่จะร่วมมือกับทุกฝ่ายเพื่อทำให้การเลือกตั้งทุกระดับโปร่งใส เที่ยงธรรม
ทั้งที่ เป็นหน้าที่โดยตรง
อย่างไรก็ตาม หลังถูกถล่ม ล่าสุด นายแสวง บุญมี เลขาฯกกต.ออกมาชี้แจงว่า กกต.และสำนักงาน กกต.ได้ให้ความสำคัญเรื่องนี้
และได้ดึงข้าราชการระดับสูง จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดีเอสไอและปปง.มาไต่สวนเพิ่มเติม
โดยการเลือกส.ว.มีคำร้อง 577 เรื่อง โดยในจำนวนดังกล่าว เป็นกลุ่มทุจริต (เสนอให้ ว่าจ้าง เรียกรับ ฮั้ว จัดตั้ง โพย เลขชุด บล็อกโหวต คะแนนสูงผิดปกติ คะแนน 0) มีจำนวน 220 เรื่อง กกต.พิจารณาแล้วเสร็จ จำนวน 109 เรื่อง และส่งศาลฎีกา จำนวน 3 เรื่อง
ยืนยันว่ากกต.เดินหน้าเรื่องนี้แล้ว
แถมย้ำว่า กฎหมายไม่ได้กำหนดให้มอบหมายให้หน่วยงานอื่นของรัฐทำหน้าที่แทนไว้
ซึ่งเท่ากับส่งสัญญาณกลายๆว่าดีเอสไอ อาจไม่สามารถรับเป็นคดีพิเศษได้
ตรงนี้ จึงอาจทำให้การประชุม กคพ.วันที่ 6 มีนาคม ส่อจะยืดเยื้อ
ยืดเยื้อว่า เรื่อง”ฮั้วส.ว.” กกต.ไม่ได้หวิว
ได้ทำแล้ว และกำลังทำอยู่
ไม่ได้เป็นเรื่อง(คดี)พิเศษ อย่างกระทรวงยุติธรรมและดีเอสไอ ต้องการทำแต่อย่างใด
——————-