ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 7 - 13 มีนาคม 2568 |
---|---|
คอลัมน์ | มองบ้านมองเมือง |
ผู้เขียน | ปริญญา ตรีน้อยใส |
เผยแพร่ |
เพิ่งได้อ่านบทความวิชาการ เรื่องปัญหาการจราจรในเมืองเชียงใหม่ ที่ผู้เขียนสรุปว่าปัญหาทั้งหมดมาจากถนนมีไม่พอเพียง โดยอ้างอิงมาตรฐานพื้นที่ถนนกับเมืองในสหรัฐอเมริกาและยุโรป
ข้อสรุปดังกล่าว คงถูกต้องและชัดเจน เป็นที่ประจักษ์ ตามสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และเป็นเหตุเป็นผล เมื่อถนนน้อย ยานพาหนะมาก การจราจรต้องติดขัด เหมือนฝนตก ถนนต้องเปียก คนเลยหกล้ม
เพียงแต่ว่า การนำสภาพที่เป็นอยู่ในบ้านเรา ไปเปรียบเทียบกับบ้านเขานั้น น่าจะเป็นความไร้เดียงสาทางวิชาการของผู้เขียนมากกว่า
ผู้เขียนคงไม่รู้หรือไม่ได้ค้นคว้าว่า เมืองในยุโรปนั้น ส่วนหนึ่งมาจาก ที่ตั้งกองกำลังทหารโรมัน ที่มีการแบ่งกรมกอง มีถนนแยกเป็นสัดเป็นส่วน อีกส่วนหนึ่ง บางเมืองในสหรัฐอเมริกานั้น เคยเป็นเมืองขึ้นสเปน ผังถนนจะเป็นตาตารางชัดเจน เพราะมาจากผังค่ายทหารที่ส่งไปยึดครองพื้นที่
ส่วนเมืองใหม่ในสหรัฐอเมริกา เกิดขึ้นหลังจากการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ การวางผังเมือง จึงออกแบบถนนกว้างขวาง เป็นระบบเพื่อเอื้อต่อการขับขี่รถยนต์
และที่แน่ๆ คือ ผังเมืองส่วนขยายหรือเมืองใหม่ ทั้งในยุโรปและอเมริกา มาจากการวางผัง และการควบคุม การใช้ที่ดิน การจราจร และพื้นที่สีเขียว รวมทั้งการสร้างถนน เหมือนอย่างในตำราที่ผู้เขียนศึกษามา
กลับมาที่บ้านเรา เมืองเราทั่วทั้งประเทศ ไม่เคยเป็นเมืองขึ้น หรือมีการวางผังชัดเจน เมืองทั้งหลายล้วนมาจากการขยายตัวของเมืองโบราณ ชุมชนเก่า หรือหมู่บ้าน ยกเว้นลพบุรีและยะลา ที่มีการวางผังเมือง เป็นเหตุให้การใช้ที่ดิน ระบบการสัญจร และขนาดถนนไม่เหมือนเมืองที่เคยเป็นเมืองขึ้น ในสหรัฐ ยุโรป และเอเชีย
ผังเมืองที่จัดทำขึ้นภายหลัง ยังเป็นแค่ผังระบายสีการใช้ที่ดินตามตำราฝรั่ง ยังเป็นแค่ผลงานวาดเส้นสายถนนสวยๆ ของข้าราชการผังเมือง ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคาร และการก่อสร้างถนน ผังเมืองจึงเป็นเพียงภาพวาดสีที่ต้องพิมพ์ใหม่ทุกห้าปี
ถนนในบ้านเรา นอกจากจะเป็นไปตามสภาพดั้งเดิมแล้ว เทศบาลในแต่ละท้องที่ ไม่เคยได้รับงบประมาณมากพอตัดถนนใหม่ จึงทำได้แค่ขุด กลบ ลาดยางทับถนนสายเดิมเท่านั้น เพราะมีแต่กรมทางหลวงแผ่นดินและกรมทางหลวงชนบทเท่านั้น ที่รัฐมนตรีมีความสามารถหางบประมาณสร้างทางหลวงใหม่ได้ทุกปี
เรื่องทั้งหมด จึงเป็นคำตอบสำหรับนักวิชาการไร้เดียงสา ทำไมถนนเมืองไทยไม่ได้มาตรฐาน
ในขณะที่ประชาชนที่มีรายได้มากหรือไม่มาก ต่างขวนขวายซื้อรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์สันดาปมากขึ้นทุกปี ปัญหาจราจรจึงเกิดขึ้นแน่นอน เหมือนที่นักวิชาการสรุปไว้
ความไม่รู้หรือเข้าใจสภาพบ้านเมือง ที่ไม่เป็นไปตามตำรา หรือเหมือนเมืองในต่างประเทศ ยังสร้างปัญหาอื่น เช่น ในต่างประเทศ จำนวนรถจักรยานยนต์มีน้อยมาก ตำราการออกแบบถนน จึงมีแค่ทางรถยนต์
แต่ในเมืองไทย แม้จำนวนรถจักรยานยนต์จะมีมากกว่ารถยนต์ แต่วิศวกรจราจรนักเรียนนอก ยังคงกำหนดให้ถนนมีแค่ทางรถยนต์ เลยเป็นเหตุให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ เลือกขับขี่ทุกช่องทาง รวมทั้งบนทางเท้า
เช่นเดียวกับกฎหมายควบคุมการก่อสร้างอาคาร บังคับให้จัดเตรียมเฉพาะที่จอดรถยนต์เท่านั้น ทุกอาคารในบ้านเรา จึงมีรถจักรยานยนต์จอดระเกะระกะ รอบๆ อาคาร
เช่นเดียวกับข้อเสนอของนักวิชาการในบทความนั้น ให้ลงทุนระบบขนส่งทางราง หรือรถราง ที่จะให้บริการได้เฉพาะถนนและทางหลวง ที่กว้างพอให้รถรางวิ่งได้เท่านั้น แต่ไม่ผ่านเขตชุมชน ที่ถนนแคบ และทางแยกไม่พอให้รถรางเลี้ยว
ซึ่งหากเทศบาลเมืองใดเชื่อและดำเนินการตามแผน ก็จะมีปัญหาเหมือนการเดินรถเมล์ขนาดใหญ่ ที่ขาดทุน ไม่มีใครใช้ ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า
มองบ้านมองเมืองอยากชักชวนให้ร้องเพลง ตื่นเถิดนักวิชาการไทย •
มองบ้านมองเมือง | ปริญญา ตรีน้อยใส
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022