ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 21 - 27 กุมภาพันธ์ 2568 |
---|---|
คอลัมน์ | ลึกแต่ไม่ลับ |
ผู้เขียน | จรัญ พงษ์จีน |
เผยแพร่ |
ลึกแต่ไม่ลับ | จรัญ พงษ์จีน
แก้ไขรัฐธรรมนูญ “มวยล้มต้มคนดู”
แบบนี้เขาเรียกว่า “มวยล้มต้มคนดู” การประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาเรื่องด่วน “การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 ว่าด้วยการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่” ซึ่งเป็นร่างที่เสนอโดย “พรรคประชาชน” หนึ่งฉบับ กับ “พรรคเพื่อไทย” ส่งเข้าประกบอีกหนึ่งฉบับ
พลันที่ประธานที่เคารพ “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” กดปุ่มเรียกประชุม “พรรคภูมิใจไทย” ออกลายเฉียบพลัน เมื่อ “ไชยชนก ชิดชอบ” ส.ส.บุรีรัมย์ ในฐานะเลขาธิการพรรค ลุกขึ้นประกาศว่า
“ส.ส.พรรคภูมิใจไทยทั้งหมด เห็นว่าวาระที่จะพิจารณากันนี้ เข้าข่ายที่จะผิดและขัดกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จึงขอไม่ร่วมพิจารณา” จากนั้นส่งสัญญาณให้ ส.ส.ค่ายสีน้ำเงินทั้งหมด เดินออกจากที่ประชุมทันที เล่นเอาเพื่อน ส.ส. และ ส.ว.ที่อยู่ในห้องประชุมพากันนั่งอ้าปากหวอ
พรรคภูมิใจไทยไม่ได้ทิ้งระเบิดตูม แล้วตบตูดหนี โดยไม่บอกไม่กล่าว แต่ก่อนหน้านี้หนึ่งวัน “นายอนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรค ประกาศแจ้งให้ทราบล่วงหน้าแล้วว่า ค่ายสีน้ำเงินจะไม่ร่วมสังฆกรรมกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ “เพราะไม่อยากเสี่ยงทำผิดรัฐธรรมนูญ”
ต่อจากนั้น “นายวันนอร์” ได้หยิบยก “เผือกร้อน” อีกกรณีเข้ามาเสียบ คือญัตติด่วนของ “นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ” ส.ว. เรื่องขอให้สภายื่นเรื่องการทำประชามติให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความก่อนพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ
หลังพักยก 15 นาที เมื่อมีการโหวต ผลลงเอ่ยที่เสียงข้างมาก 275 เสียง เห็นชอบไม่ให้เลื่อนญัตติของ นพ.เปรมศักดิ์ที่อยู่ในลำดับที่ 3 ขึ้นมาพิจารณาก่อน เสียงข้างน้อย 247 เสียงให้เลื่อน ที่ประชุมจึงถอยหลังกลับเข้าสู่การอภิปรายตามระเบียบ พิจารณาญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญไปตามเดิม
ถึงตรงนี้บรรยากาศเริ่มวุ่นวายขายปลาช่อน ทั้งสองปีก ยกมือประท้วงกันวุ่น นพ.เปรมศักดิ์เจ้าของญัตติเสนอให้นับองค์ประชุม เนื่องจากพบว่าสมาชิกบางส่วนวอล์กเอาต์จากห้องประชุม ผลปรากฏว่ามีสมาชิกแสดงตนเพียง 204 คน ถือว่าที่ประชุมไม่ครบองค์ เท่ากับ “สภาล่มทันที”
หมากกระดานนี้ “พรรคเพื่อไทย” งานเข้าหนักกว่าใครเพื่อน เพราะอยู่ในห้องประชุมแต่ไม่กดบัตรแสดงตน จึงเป็นห้องเครื่องให้สภาล่ม ถูกถล่มว่าไม่จริงใจ จริงจังต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เล่นเกมการเมืองมากเกินไป
โดยโหวตเห็นด้วยให้เลื่อนญัตติของหมอเปรมขึ้นมาพิจารณาก่อน แถมมีบางคนแหกด่านมะขามเตี้ยไปร่วมลงชื่อในการยื่นญัตติของ นพ.เปรม แต่พอถึงขั้นตอนสุดท้าย กลับไม่แสดงตนซะหน้าตาเฉย
พรรคเพื่อไทย ส่ง “สุทิน คลังแสง” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แกนนำมาแก้เกี้ยว สารภาพบาปว่า พรรคเพื่อไทยมีเจตนายื้อจริง พรรคเพื่อไทยเมื่อยื่นร่างแล้วก็อยากอภิปรายจนจบ และได้ลงมติ แต่เมื่อมีการประเมินสถานการณ์กันแล้ว พบว่าโอกาสที่จะผ่านยากมาก เพราะพรรคร่วมเสียงแตก ยังมีปัญหา ส.ว.อีก ประสานไปแล้วพบอุปสรรค เห็นว่ายากเหมือนเดิม
“ขืนปล่อยไปถูกคว่ำแน่ๆ เราไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น สู้ยื้อปล่อยให้คาสภาเอาไว้ดีกว่า คิดว่าหากเดินไปสู่การลงมติในวันนี้ ร่างรัฐธรรมนูญจะต้องตกอย่างแน่นอน ซึ่งไม่ใช่วัตถุประสงค์ของพรรค เลยขอใช้วิธีทางอ้อม”
โดยสรุป วัตถุประสงค์ของ “เพื่อไทย” คล้ายกับว่า การเดินทางเมื่อเจอขุนเขาตั้งอยู่ ขวางเส้นทางเดิน ก็ต้องหาทางเดินอ้อมบาง เลี้ยวบ้าง ต้องรู้จักหลบเลี่ยงอุปสรรค ไม่ควรเอาหัวโหม่งภูเขา
“เรามีเจตนาที่จะเสนอศาล ถ้าศาลบอกให้เดิน เราเดินต่อ วันนี้เห็นด้วยกับหมอเปรมให้เสนอศาล แต่เมื่อมีมติไม่ได้แพ้โหวต เรารู้ว่าเดินต่อได้อีก เราไม่อยากให้ตก อยากให้ร่างนี้ค้างอยู่ในสภา แล้วตั้งหลักมาสู้กันต่อไป ดังนั้น การที่เราจะเป็นองค์ประชุม ไม่เป็นองค์ประชุม เป็นวิธีการที่ทำสำเร็จ” นายสุทินกล่าว
แน่นอนว่า การที่ “เพื่อไทย” เล่นเกมปลาไหล คว่ำกระดานญัตติ นพ.เปรม จอดป้ายไปเรียบร้อยแล้ว แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 และเพิ่มเติมหมวด 15/1 ว่าด้วยการจัดการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ “ยังได้ไปต่อ”
เพราะร่างที่เสนอโดย “พรรคเพื่อไทย” และร่างที่เสนอโดย “พรรคประชาชน” ยังคงดำรงอยู่บริบูรณ์ ทั้งสองฉบับยังคาอยู่ในวาระการประชุมรัฐสภา ไม่ได้บุบสลายหายไปไหน
แต่กรณีที่เดินทางลัด ไม่รอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย “เพื่อไทย” ประเมินสถานการณ์แล้วเชื่อว่า ไม่ผ่านความเห็นชอบอยู่ดี “กำแพงเหล็ก” คือแม้จะสามารถบีบไข่พรรคร่วมให้เห็นด้วยได้ แต่จะชนตึกคือ ส.ว.สายสีน้ำเงิน ซึ่งครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ติ่งสำคัญคือ 1 ใน 3 หรือ 67 เสียง ที่จะดึงมาร่วมด้วยช่วยกัน ทำได้ยาก เมื่อไม่ผ่าน ก็มีโอกาสที่จะตายหมู่สูง ด้วยเงื่อนไขดังกล่าว “เพื่อไทย” จึงจำเป็นต้องสวมบทยักษ์ลักมา ลิงพาไป
และ “เพื่อไทย” พร้อมที่จะเล่นบทพระเอก ชิงเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความเองภายในวันสองวันนี้ โดยคาดว่า ศาลจะใช้เวลาวินิจฉัยไม่เกิน 6 เดือน เท่ากับอดเปรี้ยวไว้กินหวาน สบายใจและปลอดภัยกว่า
หันไปดู “ค่ายสีส้ม” งานนี้ไม่ใช่สมันน้อยตัวนั้นที่ชื่อ “พรรคประชาชน” โกงคะแนนเข้ากระเป๋าเต็มๆ ฟาดกำไรหลายต่อมากกว่าใครเพื่อน รู้อยู่ตั้งแต่ปีมะโว้แล้วว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ผ่านยาก เผชิญอุปสรรคหลายจุด โดยเฉพาะผนังทองแดงกำแพงเหล็ก 1 ใน 3 เสียงจากวุฒิสมาชิกสายสีน้ำเงินคืออุปสรรคใหญ่
แต่พรรคประชาชนได้ใจจากพี่น้องประชาชน ที่ยืนหยัดต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งความถูกต้อง เพียรพยายามเต็มกำลังเพื่อประชาธิปไตยทางตรงของประชาชนพลเมือง แก้รัฐธรรมนูญเพื่อกำหนดชะตากรรมสังคมร่วมกัน
“พรรคประชาชน” เลือกที่จะอดทน รอคอยโอกาส เลือกที่จะสู้แม้จะรู้ว่าไม่ประสบชัยชนะ เก็บกักตุนคะแนนนิยมเข้ากระเป๋าไปเรื่อยๆ เลือกตั้งสมัยหน้า ไม่ว่าครบเทอม หรือไม่ครบเทอม
กระแสนิยมก็พุ่งขึ้นมาเอง
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022