ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 21 - 27 กุมภาพันธ์ 2568 |
---|---|
คอลัมน์ | Cool Tech |
ผู้เขียน | จิตต์สุภา ฉิน |
เผยแพร่ |
Cool Tech | จิตต์สุภา ฉิน
Instagram : @sueching
Facebook.com/JitsupaChin
เชื่อใจได้ไหม
ถ้าใช้ AI ช่วยทำข่าว
แวดวงสื่อสารมวลชนเป็นอีกแวดวงหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากการมาถึงของเทคโนโลยี AI ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลยเพราะอาชีพสื่อสารมวลชนต้องอาศัยทักษะหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเขียน การอ่าน การสรุปใจความ ไปจนถึงการเลือกหรือจัดทำภาพประกอบซึ่งล้วนเป็นทักษะที่ AI สามารถทำได้ภายในระยะเวลาสั้นมากเมื่อเทียบกับเวลาที่มนุษย์ต้องใช้
ผลการวิจัยจาก RMIT University ที่เกี่ยวข้องกับ Generative AI และการทำสื่อสารมวลชนระบุว่าทุกวันนี้ผู้รับข่าวสาร และแม้กระทั่งตัวผู้สื่อข่าวเองต่างก็แสดงออกถึงความวิตกกังวลว่าสำนักข่าวกำลังใช้เทคโนโลยี AI ในการทำงานด้านสื่อสารมวลชนในหลากหลายรูปแบบ
ไม่ว่าจะเป็นการใช้เพื่อทำแชตบ็อต ไปจนถึงการใช้เพื่อสร้างและจัดทำภาพประกอบทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ
ผลวิจัยชิ้นนี้บอกว่ามีเพียง 25 เปอร์เซ็นต์ของผู้รับข่าวสารที่เข้าร่วมในการวิจัยที่บอกว่ามั่นใจว่าตัวเองเคยได้เห็นการใช้ AI ในการทำสื่อสารมวลชนมาแล้ว
ในขณะที่อีกราว 50 เปอร์เซ็นต์บอกว่าไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ แต่ก็สงสัยว่าอาจจะเคยได้พบเห็นมาบ้าง
ทำให้เราพอเห็นภาพว่าการใช้ AI ในสื่อสารมวลชนเองก็อาจจะไม่ได้โปร่งใสตรงไปตรงมาสักเท่าไหร่นัก
บางแห่งใช้ก็อาจจะเนียนไม่ยอมบอก หรืออาจจะโกหกไปว่าไม่ได้ใช้ AI ก็ได้
ซึ่งการที่ผู้รับข่าวสารไม่รู้ว่าข่าวที่ตัวเองกำลังเสพไปเกิดจากการรายงานของมนุษย์หรือของ AI ก็อาจจะทำให้เกิดความเสียหายได้
รูปแบบการใช้ AI เพื่อช่วยในการทำข่าวอาจจะเป็นไปได้หลากหลาย สำนักข่าวอาจจะใช้ AI มาช่วยในการคัดเลือกภาพประกอบว่าภาพที่ถ่ายมาภาพไหนเหมาะสมสำหรับการใช้ประกอบข่าวแต่ละชิ้นมากที่สุด และ AI ก็อาจจะช่วยปรับแต่งภาพให้ดูน่าสนใจขึ้น หรือช่วยระบุเพื่อติดฉลากได้ว่าบุคคลในภาพเป็นใคร ถ่ายเมื่อไหร่ ที่ไหน มีวัตถุอะไรอยู่ในนั้น พร้อมให้ข้อมูลสำคัญๆ เพื่อให้ใช้ค้นหาได้ง่ายขึ้นในอนาคต บางสำนักข่าวก็อาจจะใช้ AI มาช่วยในการตัดต่อคลิปวิดีโอบ้าง
ถ้าพูดถึงงานเขียน อ่าน หรือสรุปใจความก็นับเป็นทักษะที่เหมาะมากที่จะใช้ AI เข้ามาช่วย ในปัจจุบันก็มีสำนักข่าวและเว็บไซต์บางแห่งที่เขียนแจ้งตรงๆ ว่าข่าวและบทความชิ้นไหนใช้ AI เข้ามาช่วยในการเขียน เรียบเรียง หรือสรุปความบ้าง
นักข่าวอาจจะใช้ AI มาช่วยในการถอดคำจากบทสัมภาษณ์ที่บันทึกภาพหรือเสียงมาซึ่งก็นับว่าเป็นเครื่องมือที่ใช้ช่วยย่นระยะเวลาในการทำงานข่าวไปได้มาก
ในขณะเดียวกันความสามารถของ AI มันก็เก่งกาจมากพอที่จะช่วยงานสำนักข่าวได้มากกว่านั้น อันที่จริงแล้วมันสามารถขึ้นงานและจบงานด้วยตัวมันเองโดยที่ไม่ต้องอาศัยการป้อนข้อมูลจากนักข่าวที่เป็นมนุษย์เลยด้วยซ้ำ
AI สามารถสร้างภาพประกอบเหตุการณ์ขึ้นมาตั้งแต่ศูนย์และทำให้ภาพดูสมจริงจนคนทั่วไปไม่สามารถแยกแยะได้ ซึ่งความน่ากลัวก็คือมันอาจจะเป็นภาพประกอบเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงเลยก็ได้ เชื่อว่าคุณผู้อ่านบางท่านก็น่าจะได้ประจักษ์ความสามารถของมันด้วยตาของตัวเองมาแล้ว
เว็บไซต์ The Conversation เก็บข้อมูลเพื่อประเมินว่าจริงๆ แล้วผู้รับข่าวสารโดยทั่วๆ ไปนั้นยอมรับได้หรือไม่หากสำนักข่าวที่ตัวเองติดตามจะใช้ AI มาช่วยในการรายงานข่าว
ผลการเก็บข้อมูลพบว่าคนอ่านข่าวส่วนใหญ่จะโอเคถ้าหากสำนักข่าวใช้ AI ในการช่วยทำงานเบื้องหลัง อย่างเช่น การช่วยถอดบทสัมภาษณ์ การใช้หาไอเดียในการทำข่าว หรือใช้ AI ช่วยออกแบบอินโฟกราฟิกหรือสร้างไอคอน เพราะทั้งหมดนี้เป็นรูปแบบการใช้งาน AI ที่ตัวเองก็คุ้นเคยและทำอยู่บ่อยๆ ด้วยเหมือนกัน
แต่พวกเขาจะไม่โอเคเลยถ้าได้รู้ว่าสำนักข่าวใช้ AI มาทำงานเบื้องหน้า อย่างเช่น ใช้เพื่อตัดต่อ ปรับแต่ง หรือสร้างภาพขึ้นมาใหม่
เพราะอะไรคนอ่านข่าวถึงรู้สึกไม่ค่อยสบายใจที่จะอ่านข่าวที่ทำขึ้นโดย AI สาเหตุหลักๆ อาจจะมาจากความไม่เชื่อถือว่า AI จะให้ข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำ เพราะที่ผ่านมาก็มีหลายกรณีที่ AI หลอน สร้างข้อมูลเท็จขึ้นมาแบบไม่มีที่มาที่ไปมาแล้ว
บางคนอาจจะกลัวเรื่องความลำเอียง เหลื่อมล้ำ ไม่เท่าเทียม อันเกิดมาจากการเทรน AI ด้วยข้อมูลที่ไม่รอบด้าน
หรืออย่างสาเหตุขั้นต้นว่าการที่ AI สามารถสร้างภาพเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นและทำให้ออกมาดูสมจริงสุดสุดได้นั้นก็ทำให้คนไม่กล้าที่จะเชื่อทุกอย่างที่ได้เห็นอีกต่อไป ภาพที่ AI สร้างขึ้นมาเองหลายภาพกลายเป็นไวรัลที่โด่งดังไปทั่วโลกจนคนเชื่อไปแล้วว่าเป็นเรื่องจริงกันมากมาย
อย่างภาพมาร์กช็อตหรือภาพถ่ายหลังถูกตำรวจจับกุมตัวของ โดนัลด์ ทรัมป์ ภาพเจ้าชายวิลเลี่ยมและแฮร์รี่สวมกอดกัน ภาพเมียหุ่นยนต์ของอีลอน มัสก์ ฯลฯ
ส่วนการใช้อวตาร AI มาช่วยประกาศข่าวนั้นคนส่วนใหญ่ก็บอกว่าดูแล้วไม่ค่อยจะโอเคสักเท่าไหร่ ฉันเองก็เคยได้ดูตัวอย่างของผู้ประกาศข่าว AI ในจีนหรือในประเทศอื่นๆ อยู่บ้าง แม้จะมีหน้าตาสะสวย หล่อเหลา ประกาศข่าวได้คล่องแคล่วแค่ไหนแต่ก็ให้ความรู้สึกเหมือนขาดอะไรบางอย่างไป ซึ่งก็ไม่แน่ว่าสักวันหนึ่งมันอาจจะเก่งกาจจนเราไม่สามารถแยกแยะได้อีกเลยก็ได้
ไม่ว่าจะอย่างไรเราก็คงไม่สามารถห้ามการใช้งานเทคโนโลยี AI ในแวดวงสื่อมวลชนหรือแม้กระทั่งแวดวงอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วนได้ เพราะมันก็เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การทำงานสะดวกสบายขึ้นจริงๆ แต่ในฐานะของผู้ติดตามข่าวสารเราก็สามารถมีบทบาทในการช่วยคัดกรองได้ว่าเรายอมรับได้กับการใช้งาน AI ในบทบาทไหนบ้าง
หากเห็นว่าอันไหนไม่โอเคก็ส่งเสียงออกไปให้สำนักข่าวได้รู้และช่วยปรับกันไป ส่วนสำนักข่าวเอง นอกจากจะต้องคอยควบคุมการใช้งาน AI ในการทำข่าวให้เป็นไปอย่างถูกต้องโปร่งใสแล้ว ก็ยังต้องอัพเกรดคุณภาพการรายงานข่าวของตัวเองให้ดีขึ้นไปพร้อมๆ กันด้วย
เพื่อไม่ให้ใครปรามาสได้ว่าถ้าจะทำงานแบบนี้ ใช้ AI ทำแทนก็ได้นะ
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022