อาชญากรรม | อาชญา ข่าวสด

LGBT สาดซุป-ซีดยกแก๊ง

ทัพกะเทยบุกล่าถึงคอนโด

โดนข้อหาทำร้าย-กรรโชก

ชวดประกันเข้าเรือนจำทั้ง 8

วัยรุ่นรังสิตไม่แผ่วจริงๆ คดีแก๊งโอริโอ้ยังไม่ทันจาง ก็เกิดคดีแก๊งสาดน้ำซุปร้อน ซ้อนขึ้นมาอีก แถมยังเป็นฝีมือของนักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง ที่ควรจะมีกระบวนการความคิดอย่างมีวิจารณญาณ แต่กลับทำพฤติกรรมราวแก๊งอันธพาล

ย้อนไปเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 7 มกราคม ขณะที่ ‘กัน จอมพลัง’ หรือ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ มาติดตามเรื่อง แก๊งโอริโอ้ อยู่ที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี มีกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพ มาขอความช่วยเหลือ แจ้งว่าถูกกลุ่มรุ่นพี่ LGBTQ+ บุกกระทืบน้องที่คอนโดฯ พร้อมเอาน้ำซุปร้อนราดหัว บังคับให้ถอนวิชาเรียน รีดเงิน 50,000 บาท ถ้าไม่อยากโดนกระทืบอีก

จึงประสาน พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.สิรภพ บัวหลวง สว.สส.สภ.คลองหลวง พร้อมตำรวจชุดสืบสวน สภ.คลองหลวง นำกำลังไปช่วยเหลือ นำตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุ 3 คน และผู้เสียหายมาสอบสวนที่ สภ.คลองหลวง

กัน จอมพลัง กล่าวว่า น้องถูกกลุ่ม LGBTQ+ ตามล่าน้อง ซึ่งได้สอบถามว่าไปมีปัญหาอะไรกัน น้องบอกว่าไม่มีปัญหาอะไรเลย แค่เขาไม่ชอบหน้า น้องบอกว่า พยายามจะคุยเพื่อสงบเรื่องราว แต่กลุ่มนี้พยายามหาเรื่องให้ได้ ตามไปหาน้องที่คอนโดฯ ไปถึงห้องเขาน้องเขาตกใจ ขณะกำลังอาบน้ำก็เลยวิ่งหนี โดยไม่ได้ใส่เสื้อผ้าออกมาไปที่ห้องเพื่อนข้างๆ เข้าไปหลบ

พอไม่เจอตัวน้องก็ไปเล่นงานเพื่อนน้องแทน โดยหัวโจกที่ชื่อพรีม ใช้น้ำซุปร้อนๆ สาดใส่ขณะนั่งกินอยู่ ราดไปที่หัวถึง 3 ครั้ง คือเดินไปหยิบชามตักน้ำซุปร้อนๆ แล้วสาดเลย นอกจากนี้ น้องเขาก็พยายามจะหย่าศึก แต่ทางฝั่งคู่กรณียื่นข้อเสนอมาว่า ถ้าจะให้หย่าศึกก็เอาเงินมา 50,000 บาท และวันนี้เขาบอกว่าจะออกตามหาน้องๆ อีก

นายแอนดริว อายุ 20 ปี น.ศ.ปี 2 ผู้เสียหายเปิดเผยว่า ไม่ได้มีปัญหาโดยตรงกับพรีม แต่พรีมมีปัญหากับเพื่อนของตน ซึ่งก่อนเกิดเหตุพรีมบุกไปที่ห้องของเพื่อนแต่ไม่เจอตัว เพราะเพื่อนไม่ยอมเปิดประตู หลังจากที่พรีมลงมาด้านล่างก็พบตนกำลังนั่งกินข้าวอยู่ที่ร้านดังกล่าวพอดี แล้วจำได้ว่าเป็นเพื่อนกับคู่กรณี

ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องบานปลาย แต่จู่ๆ พรีมก็เข้ามาตัดผมและทำร้ายร่างกาย ก่อนจะถือชามไปตักน้ำซุปแล้วสาดใส่ นอกจากนี้ ยังพยายามจะเดินเข้าครัวไปหยิบมีดด้วย แต่พนักงานของร้านไม่อนุญาตให้เข้าไป ก็ไม่ทราบว่าเหตุใดจึงต้องทำร้าย ทั้งที่ก็ยอมทำทุกอย่างที่เขาต้องการ รวมถึงถอนวิชาเรียนด้วย

วินาทีนั้นไม่กล้าตอบโต้ใดๆ เนื่องจากฝั่งผู้ก่อเหตุมีพวกมาประมาณ 10 คน แต่มีคนลงมือกันสองสามคน และยังถือกรรไกรไว้ด้วย ก็ได้สอบถามว่าต้องการอะไรอีก ทางผู้ก่อเหตุบอกว่าต้องการให้เพิกถอนวิชาเรียน

นอกจากนี้ พรีมยังพยายามข่มขู่ให้เรียกเพื่อนลงมาจากห้องให้ได้ ถ้าหากเพื่อนไม่ลงมาก็จะโดนทำร้ายอีก แต่โชคดีที่มีรุ่นพี่เข้ามาช่วยเหลือก่อน

หลังมีคลิปขณะก่อเหตุเผยแพร่ทางโซเชียล ก็สร้างกระแสความไม่พอใจกลุ่มรุ่นพี่ดังกล่าว โดยเฉพาะกลุ่ม LGBTQ+

โดยเมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 8 กุมภาพันธ์ กลุ่ม LGBTQ+ มากกว่า 500 คน บุกไปรวมตัวบริเวณคอนโดฯ ที่พรีมพักอยู่ บริเวณใกล้เคียงมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อกดดันให้พรีมลงมาขอโทษต่อการกระทำของตน เหตุการณ์วุ่นวายไม่ต่างกับศึกกะเทยไทย-ฟิลิปินส์ ที่ซอยนานา เมื่อมีนาคม 2567

พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.กวินเวทย์ วิริยะสิริภักดี รอง ผกก.ป.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.ฉลาด หอมเงิน รอง ผกก.สส.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.สิรภพ บัวหลวง สว.สส.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.วีระ สุชนะ สว.สส.สภ.คลองหลวง รีบนำกำลังไปควบคุมสถานการณ์ที่เกิดเหตุ พร้อมประสานนิติบุคคลป้องกันไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่ชั้นในของคอนโดฯ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นซึ่งมีกะเทยและชาย-หญิง กลุ่ม LGBTQ+ ต่างส่งเสียงโห่ฮาทั่วหน้าอาคารคอนโดฯ

บิ๊ก คาลิปโซ่ ตัวแทนกลุ่มกล่าวว่า วันนี้ที่พวกเรามารวมตัวกันก็ไม่ได้มีอะไร แค่อยากให้ อีปุ๊ก คลองเตย หรือพรีม มาขอโทษน้องผู้เสียหายเท่านั้น พวกเราเป็นชาวสีม่วงด้วยกันต้องรักกัน มาทำร้ายกันแบบนี้วันนี้มาไม่เจอเดี๋ยววันหน้าได้เจอสังคมจะตัดสินเอง ผลของกรรมจะตามมาแน่นอน

ต่อมา กัน จอมพลัง ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ ก่อนร่วมกับ พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ เข้าเจรจากับกลุ่มกะเทย โดยรับปากว่าจะทำคดีอย่างเต็มที่ ทำให้กลุ่มกะเทยพอใจและแยกย้ายกันกลับ

ต่อมา ตำรวจคลองหลวงรวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลออกหมายจับนายรษิภา สัจวรรณ์ หรือพรีม อายุ 22 ปี และนายชคัทพล วชิรวรรณ หรือโอชิ อายุ 19 ปี ในข้อหา “ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และร่วมกันทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจ” ก่อนที่จะจับกุมทั้งคู่มาสอบสวนที่โรงพัก

พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี เดินทางมาสอบสวนด้วยตนเอง ด้านพรีมรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา ส่วนโอชิรับสารภาพว่า ร่วมกันทำร้ายร่างกาย แต่ปฏิเสธข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์

ภายหลังพรีมถูกจับกุม วีรกรรมโฉ่ก็ถูกขุดขึ้นมาแฉ และตามมาด้วยอดีตเหยื่อที่ทยอยเข้าแจ้งความเอาผิด หนึ่งในนั้นคือนายเตต้า อายุ 20 ปี นักศึกษา ปี 3 มหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่อยู่ระหว่างดรอปเรียนมาขอให้กัน จอมพลัง ช่วย โดยถูกแก๊งกะเทยน้ำซุปทำร้ายร่างกาย หลังรู้ถึงพฤติการของแก๊งนี้ที่ลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า เลยจะขอเอาของคืน จึงถูกเรียกมาทำร้าย และท้าให้แจ้งความ มิหนำซ้ำยังมีการเหยียดว่ารังเกียจคนจน รังเกียจคนอีสาน กูผ่านอะไรมาเยอะ ทำร้ายใครไม่เคยมีความผิด เพราะพ่อใหญ่มีอิทธิพล ตำรวจไม่กล้าทำอะไร

ขณะที่ทางมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ออกแถลงการณ์ ยกเลิกสถานะนักศึกษาของนายรษิภา หรือพรีม พร้อมมีมาตรการเยียวยาเหยื่อ

ส่วนด้านคดี หลังสอบสวนเหตุการณ์โดยละเอียด ตำรวจก็แจ้งข้อหาเพิ่มกับกลุ่มรุ่นพี่ที่อยู่ในแก๊งของพรีมอีก 6 ราย ประกอบด้วยนายนพคุณ พิมลพันธ์ (จั๊ก), นายดลลธี พอลบุ้ธรอยด์ (พอล), น.ส.อุ้มบุญ จำปาทอง (อุ้มบุญ), น.ส.กันยาพัชร ศรีจันทร์ (พิมเจล), น.ส.วรัญญา พรมวารี (แบม) และนายภราดร โอบอ้อม (ไอซ์) โดยทั้งหมดให้การปฏิเสธ

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ ตำรวจนำตัวทั้ง 8 คนไปฝากขังที่ศาลจังหวัดธัญบุรี พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงจะหลบหนีและไปข่มขู่พยาน โดยศาลอนุญาตให้ฝากขัง และไม่อนุญาตให้ประกันตัว ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำตัวทั้ง 8 คนส่งเข้าเรือนจำทันที

ควันหลงจากเหตุการณ์ครั้งนี้ นอกจากแก๊งรุ่นพี่ทั้ง 8 คนแล้ว คนที่อยู่ในกลุ่ม แม้ไม่ได้ร่วมลงมือแต่ก็ได้รับผลไปด้วย รายแรกคือ นายรักศักดิ์ สลักใจ หรือแพร มิสทีนทรานส์เพชรบุรี 2025 ถูกกองประกวดมิสทีนทรานส์ไทยแลนด์สั่งปลดออกจากตำแหน่ง และให้ออกจากการประกวดในปีนี้ เนื่องจากมีคุณสมบัติไม่ตรงตามสโลแกนของกองประกวด ขณะที่ น.ส.กันยาพัชร ศรีจันทร์ หรือพิมเจล ที่เพิ่งมีผลงานการแสดงเป็นนางเอกมิวสิกวิดีโอ และซีรีส์ The Last Time ที่กำลังจะออนแอร์ 14 กุมภาพันธ์ ก็ถูก Jumdde Film Production ต้นสังกัดยกเลิกสัญญา หมดอนาคตไปอีกราย

จากคดีแก๊งโอริโอ้ มาถึงคดีแก๊งกะเทยสาดน้ำซุปร้อน เผยให้เห็นด้านมืดของสังคมวัยรุ่นในยุคปัจจุบัน ที่ต้องขบคิดหาทางแก้ไข รวมทั้งผู้หลักผู้ใหญ่ในครอบครัว ในสถาบันการศึกษา ต้องช่วยกันดูแล ทำความเข้าใจ อย่าให้เดินผิดทาง

สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj

— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022