ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 14 - 20 กุมภาพันธ์ 2568 |
---|---|
คอลัมน์ | ลึกแต่ไม่ลับ |
ผู้เขียน | จรัญ พงษ์จีน |
เผยแพร่ |
ลึกแต่ไม่ลับ | จรัญ พงษ์จีน
ภารกิจเยือนจีนของ “นายกฯ อิ๊งค์”
หลัง “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีเสร็จสิ้นภารกิจสำคัญ กับการเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ เข้าคารวะ “ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง” ที่กรุงปักกิ่ง หารือผู้นำระดับสูงหลายราย ไม่ว่าจะเป็น “หลี่ เฉียง” นายกรัฐมนตรีจีน หารือกับ “จ้าว เล่อจี้” ประธานสภาประชาชนแห่งชาติจีน พกพาผลสำเร็จมากมายหลายด้าน ที่จับต้องได้คือ การลงนามความร่วมมือ 13 ฉบับครอบคลุมผลประโยชน์หลายสาขา
สรุปได้ว่า การเยือนจีนของ “นายกฯ อิ๊งค์” ในคาบนี้เวิร์ก แต่มีประเด็นดราม่ากระฉ่อนสังเวียนออนไลน์ โซเชียลมีเดีย คือ “สไตล์การแต่งตัว” ซึ่งกระชากกระแสได้ฮือฮาอย่างมาก
“มนุษย์ป้า-มนุษย์ลุง” นำมาจุดพลุสู่ต้นเหตุของการทะเลาะวิวาท ทางความคิด นำมาเมาธ์กระจายว่า “อุ๊งอิ๊งลุค” ทัวร์เมืองจีน โดยเฉพาะรองเท้าและการมิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อผ้าแต่ละชุดที่มานำมาสวมใส่ เชยระเบิดเถิดเทิง “แพงแต่ไม่เหมาะ ผิดกาลเทศะ”
แต่โดนกองเชียร์ตอกกลับว่าชุดที่สวมใส่เป็นแฟชั่นของคนเจนวาย ที่เติบโตในยุคกลางใหม่ กลางเก่า มีความเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งไม่มีทางเหมือนรุ่น “ลุงบูมเมอร์” หรือ “รุ่นพ่อเจนเอ็กซ์ “เพราะนี่คือยุคของคนเจนวาย กล้าแตกต่างสะท้อนภาวะผู้นำอีกรูปแบบ ที่ไม่มีอะไรต้องกลัว”
สไตล์การแต่งตัวของ “อุ๊งอิ๊ง” ที่ “มนุษย์ป้า” ทำตัวเป็นนกแก้ว นกขุนทอง หัวเราะเยาะเย้ยถากถาง แต่ชาวจีนจำนวนมากพากันอ้าปากหวอชื่นชม ยินดีว่าแต่งตัวสวย สง่างาม เสริมบุคลิกาพได้ดี
“อุ๊งอิ๊งลุค” ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าใครตาบอด ตาถั่ว แต่เป็นสะพานเชื่อมนำพาไปสู่บุคคลอีกคน “เป็นคุณ” มากมหาศาล “อาปู-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ที่กำลังลุ้นระทึกกันว่า “จะได้กลับบ้านเมื่อไหร่” ปีนี้หรือชาติหน้าตอนบ่ายๆ
มีการหยิบยก ขุดภาพเก่าช่วงที่ “ยิ่งลักษณ์” ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และได้รับคำเชิญให้เดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการจาก “นายเวิน เจียเป่า” นายกฯ จีนในขณะนั้น เมื่อปี 2555 และได้เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง” ที่เรือนรับรองเตี้ยวอวี่ไถ ที่กรุงปักกิ่ง
ชุดที่ “ยิ่งลักษณ์” สวมเดินทางไปเยือนจีนเมื่อปี 2012 ไม่แบรนด์เนมลักชัวรี่ แต่แต่งกายด้วยชุดจีน สื่อความหมายหลายนัยยะ บ่งบอกความเป็นคนไทยเชื้อสายจีน ให้เกียรติประเทศจีน ผูกใจชาวจีน และผู้นำจีน คนแห่คอมเมนต์ชื่นชมกันนับล้าน
เหมือนมาตามนัด ข่าว “ปูกลับไทย” ที่สะดุดไปสักระยะหนึ่งแล้ว ภาพในตำนาน 13 ปีของ “ยิ่งลักษณ์” จึงกลับมาจุดกระแสได้อีกครั้ง เอื้อโอกาสให้ผู้สื่อข่าวเอาไมค์จอปากถาม “พี่ใหญ่-ทักษิณ ชินวัตร” ว่า “ยิ่งลักษณ์” จะกลับไทยในเดือนเมษายน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้หรือไม่
“ทักษิณ” เหมือนบอกใบ้อะไรบางประการว่า “ต้องดูเรื่องความเหมาะสม มีหลายปัจจัย ส่วนจะเดินทางกลับได้ภายในปีนี้หรือไม่ กำลังดูอยู่ ความจริงเขาอยากกลับตั้งแต่เมื่อวาน”
“ยิ่งลักษณ์” หลงเหลือคดีความอยู่เพียง “คดีเดียว” คือปล่อยปละละเลย ให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว เมื่อปี 2560 ศาลอ่านคำพิพากษาจำคุก 5 ปี โดยไม่รอลงอาญา โดยระบุว่า การเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้ารัฐบาล มีอำนาจหน้าที่โดยตรง ควบคุม-ตรวจสอบ-กำกับ-ดูแล-ระงับ-ยับยั้ง หรือแก้ปัญหาโดยเฉพาะการทุจริตในการระบายข้าว แต่จำเลยกลับมีพฤติการณ์ในการละเว้นหน้าที่ ส่อแสดงเจตนาออกโดยแจ้งชัด อันเป็นการเอื้อประโยชน์จำเลยอื่นกับพวก แสวงหาผลประโยชน์ แอบอ้างทุจริต ก่อให้เกิดความเสียหาย ดังนั้น “การกระทำของจำเลย จึงเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งโดยทุจริต”
ขณะที่ “คดีอื่นๆ” คือ ศาลฎีกาแผนคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษายกฟ้องคดีแต่งตั้งโยกย้าย “นายถวิล เปลี่ยนศรี” โดยมิชอบ ด้วยเห็นว่า ข้อเท็จจริง ได้วินิจฉัยแล้ว “ยังไม่อาจฟังได้ว่า จำเลย (ยิ่งลักษณ์) มีเจตนาพิเศษเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่นายถวิล เปลี่ยนศรี กรณีโอนย้ายจากเลขาธิการ สมช.ให้มาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำเมื่อเดือนกันยายน 2554 “พร้อมถอนหมายจับ”
และ “คดีโรดโชว์” ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเอง “ยิ่งลักษณ์” และพวก มีมติชนด้วย ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีจัดจ้างโครงการโรดโชว์ “สร้างอนาคตประเทศไทย 2020 “วงเงิน 240 ล้านบาท “ศาลฎีกาแผนคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” มีคำพิพากษา ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกันเมื่อเดือนพฤษภาคม 2567 โดยวินิจฉัยว่า “ไม่พบมีเจตนาเอื้อประโยชน์ในการจัดซื้อจัดจ้าง และมีคำสั่งให้เพิกถอนหมายจับ” โดยมีมติด้วยเสียงข้างมาก 5 ต่อ 1 เสียง และ “ไม่อุทธรณ์คำพิพากษา”
นอกจากนั้นแล้ว คดีความที่อยู่ในขั้นตอนของคำร้องในชั้น ป.ป.ช. อาทิ พ.ร.บ.กู้เงิน-เพื่อวางระบบและสร้างอนาคตประเทศ ที่คณะรัฐมนตรีของ “ยิ่งลักษณ์” อนุมัติงบปะมาณเยียวยาการชุมนุม ก็ยุติแล้ว เมื่อที่ประชุมมีมติ “ยุติการสอบสวน” กรณีระบายข้าวจีทูจี-อนุมัติการบริหารจัดการน้ำ วงเงิน 35 แสนล้าน ก็ยุติการสอบสวน
ทางโล่งเกือบตลอด “ยิ่งลักษณ์” เหลือติดติ่งอยู่เพียงคดีเดียว ทุจริตรับจำนำข้าว แต่ไม่ได้โดนกล่าวหาว่าทุจริตเอง เป็น “การละเว้นการปฏิบัติหน้าที่” จึงเชื่อว่า “ยิ่งลักษณ์” อยากจะกลับประเทศไทยมากในช่วงนี้ เพื่อเดินตามช่องเข้าสู่กระบวนการรับโทษตามกฎหมายราชทัณฑ์ และขอพระราชทานอภัยโทษ
ตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์กำหนดให้ผู้ต้องโทษจำเป็นต้องรับโทษอย่างน้อย 1 ใน 3 หรืออย่างน้อย 6 เดือนก่อนจะเข้าสู่กระบวนการคุมขัง กรณีที่ว่านี้ “ยิ่งลักษณ์” ต้องติดคุกก่อน จะกี่เดือน กี่วันก็แล้วแต่ “วันเหมาะสม”
เดิมทีเดียวมีข่าวว่า โปรแกรมกลับบ้านของ “นายกฯ ปู” ต้องใจเย็นๆ ดูไปก่อน อาจจะชักตะพานแหงนรอไปหลังวันคล้ายวันเกิดเดือนมิถุนายน อาจจะขยับปรับเปลี่ยนมาเป็นปลายเมษายน ตอนนี้เจ้าตัวพร้อมกลับมารับโทษ แต่ “รอสัญญาณ”
ส่วนการรับโทษ สถานที่คุมขังแม้จะเป็นเรือนจำ แต่ก็ต้องดี มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากพอสมควร สมสถานะ “อดีตนายกรัฐมนตรี” คนที่ 28 ของประเทศไทย ว่างั้นเถอะ
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022