ชายผู้ตากผ้า

พิชัย แก้ววิชิต

เสียงเครือๆ ดังมาจากเครื่องซักผ้าเมียซื้อ กำลังทำงานประจำของมันอยู่หลังห้อง มันเป็นเสียงบอกกล่าวเป็นที่เข้าใจกันระหว่างเครื่องจักรกับชายตากผ้า เขาจะรอจนเสียงเพลงแจ้งเตือนดังขึ้น เมื่อการปั่นเสื้อผ้าสกปรกแล้วเสร็จ และนั่นคงราวหนึ่งชั่วโมงในโหมดการซักปกติ พอมีเวลาที่ชายตากผ้าจะคิดหาสิ่งใดทำ หรือจะเหมาะกว่าถ้าจะทำงานที่ค้างคาไว้ และดูจะเข้าทีกับเวลาที่มีอยู่

และโดยไม่ทันที่เขาจะทำงานของตัวเอง ก็ได้ยินเสียงหนักๆ จากระยะที่พอจะได้ยินถึง แม้ชายตากผ้าจะแสร้งเป็นคนหูตึงทวนลม แต่แล้วยังคงได้ยิน ยากอยู่จะเลี่ยงหลบเสียงตอกเสาเข็มที่สั่นอากาศมาจากพื้นที่ก่อสร้าง เสียงกระทบกระแทกบอกให้รู้ว่ามันยังไม่แล้วเสร็จจากความคาดหวัง และคงอีกนานหากจะจับเวลาดูระยะ กับสิ่งปลูกสร้างใหม่ในเมืองเดิม ไม่นานนักจากเวลาที่พอมี หูของชายตากผ้าก็เริ่มหาเสียง

เสียงจิ๊บจ้อยแว่วประสานโต้กันไปมา ไม่รบกวนบรรยากาศของชายตากผ้า เสียงนกกระจอกหรืออาจเป็นนกกระจิบร้องมาจากทิศระเบียงหน้าห้อง นกไร้เจ้าของกำลังเกาะกลุ่ม วิหคเท้าเปลือยเกาะเกี่ยวอยู่บนสายไฟ ไม่รู้ซึ้งถึงอันตรายใต้กรงเล็บ แม้เขาอยากจะร้องเตือนเป็นภาษานก แต่คงไม่เป็นที่เข้าใจกัน จำต้องส่งความหวังดีให้โบยบินไป ให้เกาะเกี่ยวสายไฟประกันภัยด้วยความแคล้วคลาด

ท่ามกลางเสียงนกเสียงกาได้เข้าแทรก ยังมีอีกเสียงของใครไม่รู้จักกำลังยืนคุยกัน น้ำเสียงสูงต่ำกับถ้อยคำแสลงหูชวนให้ติดตาม เขาจึงลดระดับสายตาไปตามเสียง

เจ้าของเสียงเป็นเธอทั้งสอง ยืนอยู่ตรงเสาไฟฟ้าต้นเดียวกันกับเหล่านก

 

“เมื่อคืนที่ห้อง นอนร้อนชิบหาย! ไฟแม่งดับทั้งคืน!” เธอคนนั้นบ่นระบายกับหล่อนอีกคน

“พวกเธออาจจะอยู่กันคนละที่ในคืนไฟดับ” ชายตากผ้าคิด

คู่สนทนาของเธอ ตอบกลับด้วยความเห็นอกเห็นใจ ผ่านสีหน้าแววตาของคนที่อาจเคยนอนตัวเหนียวในคืนไฟดับมาบ้างแล้ว เธอคนเดิมเล่าประสบการณ์นอนไม่เป็นสุข เล่นงานเธอเกือบทั้งคืน ในคืนที่ไร้กระแสไฟฟ้า พัดลม แอร์ คอมพิวเตอร์ ดูจะไร้ประโยชน์ วาสนาดีที่รอดมาได้ เพราะพัดมือถือของเด็กชายข้างห้องที่ได้มาจากงานวันเด็กแห่งชาติ เธอแก้ปัญหาคลายร้อนจับพัดสะบัดโบกแหวกอากาศให้ผ่านร่าง จนได้ลมเย็นเป็นของตัวเองด้วยความภูมิใจ

อีกฟากฝั่งของคู่สนทนา ด้วยกลัวน้อยหน้าความลำบาก หล่อนจึงเล่าประสบการณ์ DIY ดับร้อนด้วยการใช้ของภายในบ้านที่มีอยู่ เธอไม่มีพัดมือถือไว้ในครอบครอง ไม่มีเด็กชายข้างห้อง และด้วยความเชื่อมั่น เธอจึงโรยตัวเองด้วยแป้งเย็นในตำนานทั่วทั้งตัว ด้วยความร้อนในเป็นการส่วนตัว เธอมิให้ว่างแม้แต่จุดสงวนที่ควรเว้น เธอทั้งสองหัวเราะร่วนให้กับปัญหาไฟดับที่ผ่านพ้น

เสียงจิ๊บจ้อยแว่วประสานโต้กันไปมา ไม่รบกวนบรรยากาศของชายตากผ้า เสียงนกกระจอกหรืออาจเป็นนกกระจิบร้องมาจากทิศระเบียงหน้าห้อง นกไร้เจ้าของกำลังเกาะกลุ่ม วิหคเท้าเปลือยเกาะเกี่ยวอยู่บนสายไฟ ไม่รู้ซึ้งถึงอันตรายใต้กรงเล็บ / เทคนิค : F.8 1/100s ISO100 / สถานที่ : ใกล้แยกบางนา กรุงเทพฯ

“กว่าคนจะมาซ่อมไฟน่าจะใกล้เช้า พี่ก็เลยหลับๆ ตื่นๆ เค้าว่ากันนะ ไอ้พวกกระรอกกับไอ้พวกนกที่พากันมาเกาะสายไฟนี่ละ! มันทำไฟชอร์ต! ไฟเลยดับ!” เธอคนเดิมบ่นเสริม ขณะเงยหน้ามองไปยังเหล่านกที่ยังเกาะบินๆ เกาะๆ อยู่อย่างนั้น

เสียงดนตรีจากโรงงานผลิตเครื่องซักผ้าดังแจ้งเตือน ร้องบอกให้ชายตากผ้ารีบเดินกลับไปยังหลังห้องเพื่อทำหน้าที่ของตัวเอง ชายตากผ้ารีบเก็บผ้าจากถังที่ปั่นเกือบแห้ง นำไปตากต่อเพื่อจบงานประจำอย่างว่าง่าย

เสร็จงานประจำแล้ว พอได้นั่งเพียงประเดี๋ยวเดียว ชายตากผ้ารู้สึกได้ยินเสียงของบางสิ่ง มันเป็นเสียงที่ดังมาจากบรรยากาศโดยรอบตัวของเขา เป็นเสียงกระซิบอยู่ที่ข้างหู ชายตากผ้าเริ่มวิตกกังวล กับเสียงที่ดังก้องอยู่ในความรู้สึก และพอจะจับใจความของเสียงที่ได้ยินว่า “ซักผ้าเสร็จ เขียนงานต่อ รออะไรล่ะครับบบ!?”

ขอบคุณมากมายครับ •

 

เอกภาพ | พิชัย แก้ววิชิต