เทียบฟอร์ม 3 รถ ‘พีพีวี’ 7 ที่นั่ง-รุ่นเริ่มต้น ‘ปาเจโร่ สปอร์ต-ฟอร์จูนเนอร์-มิวเอ็กซ์’

สันติ จิรพรพนิต

ขยับตัวอีกค่ายแล้วสำหรับเซ็กเมนต์ รถยนต์นั่งอเนกประสงค์ หรือ PPV

คราวนี้เป็นคิวของ “มิตซูบิชิ” เปิดตัวรุ่นเสริมพิเศษ “ปาเจโร่ สปอร์ต ไพรม์” (PRIME)

ถือเป็นตัวเริ่มต้นของรุ่น พร้อมจัดราคาให้เป็นเจ้าของง่ายขึ้น

การเปิดตัวรถรุ่นเริ่มต้นลักษณะนี้ กลายเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ของการทำตลาดในปัจจุบัน

ก่อนหน้านี้มี 2 ค่ายหลักทั้งโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ LEADER S

และอีซูซุ มิว-เอ็กซ์ 2.2 Ddi MAXFORCE รุ่น Active

ซึ่งแนะนำไปเมื่อช่วงกลาง-ปลายปี 2567

ภาพรวมภายนอกปรับเปลี่ยนไม่มากนัก เพราะก่อนหน้านี้ช่วงไตรมาสแรกปี 2567 ปรับไมเนอร์เชนจ์โมเดลเยียร์ 2024 ไป

กระจังหน้าดีไซน์ใหม่แบบรังผึ้ง ไฟหน้า LED ทรงสวย

แผงกันชนหน้าและหลังดีไซน์ใหม่ ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์ใหม่

ไฟท้ายทรงเรียวยาวแนวตั้ง คาดกลางด้วยเส้นโครเมียม

ราวหลังคาโครเมียมและเสาอากาศครีบฉลาม

ภายในสีดำตัดด้วยโครเมียม

พวงมาลัย 3 ก้านมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังรูปแบบใหม่

จอแสดงผลการขับขี่ใหม่แบบ Full Digital ขนาด 8 นิ้ว

ระบบเครื่องเสียง Mitsubishi Power Sound System ระดับพรีเมียม

เชื่อมต่อผ่านสมาร์ตโฟน Apple CarPlay และ Android Auto

จอเพดานสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ขนาด 12.1 นิ้ว มาพร้อมกับรีโมต หูฟังอินฟราเรด และเชื่อมต่อ HDMI และ USB เพื่อความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง

มีระบบชาร์จอุปกรณ์ไร้สาย

เบาะปรับดันหลังด้วยไฟฟ้าด้านคนขับ

ขุมกำลังใหม่ “ไฮเปอร์เพาเวอร์” (Hyper Power)

เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล วีจี เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ เทอร์โบ 4 สูบ ความจุ 2.4 ลิตร

พร้อมหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์แบบคอมมอนเรลเจเนอเรชั่นใหม่ มาตรฐานไอเสียระดับยูโร 5 (Euro 5)

ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,250-2,500 รอบต่อนาที

ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ

ประหยัดน้ำมัน 15.2 กิโลเมตร/ลิตร ตาม ECO Sticker

ระบบความปลอดภัยและตัวช่วยที่เพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิม อาทิ เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ 360 องศา (Diamond Sense)

ประกอบด้วยระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา พร้อมสัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน (Blind Spot Warning with Lane Change Assist : BSW with LCA)

ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (Rear Cross Traffic Alert : RCTA)

ระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control : ACC)

กล้องมองภาพรอบคัน (Multi Around Monitor : MAM)

และระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (Forward Collision Mitigation System : FCM)

เสริมความปลอดภัยด้วยถุงลมนิรภัยจากเดิม 2 ตำแหน่ง (บริเวณผู้ขับขี่ และผู้โดยสารด้านหน้า) เพิ่มอีก 5 ตำแหน่ง

ประกอบด้วยถุงลมด้านข้าง และม่านถุงลม พร้อมถุงลมบริเวณหัวเข่าด้านผู้ขับขี่ รวม 7 ตำแหน่ง

มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต ไพรม์ ใหม่ ราคา 1,389,000 บาท

ส่วนคู่แข่งในตลาดเดียวกัน เริ่มจากโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ LEADER S

ไฟหน้าแบบ Bi-Beam LED พร้อม Daytime Running Lights

ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED

ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว

ไฟท้ายแบบ LED Light Guiding

ภายในพบกับ หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto

มาตรวัดเรืองแสง จอแสดงข้อมูลขนาด 4.2 นิ้ว

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมแผ่นกรองปรับอากาศ PM 2.5

กุญแจรีโมตแบบ Jack Knife Key

เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,000 รอบ/นาที

เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ

ประหยัดน้ำมัน 14.3 กิโลเมตร/ลิตร (อ้างอิงจาก ECO Sticker)

ตัวช่วยการขับขี่ เช่น โครงสร้างนิรภัย GOA, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี, ระบบควบคุมการทรงตัว

ระบบป้องกันล้อล็อก, ระบบเสริมแรงเบรก, ระบบกระจายแรงเบรก (Electronic Brake-force Distribution)

ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย, ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน ฯลฯ

ราคา 1,239,000 บาท

ปิดท้ายกับอีซูซุ มิว-เอ็กซ์ 2.2 Ddi MAXFORCE รุ่น Active

กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ Dynamic Grille เข้มขึ้นด้วยด้วยวัสดุสีดำ Titanium Carbide

ไฟหน้าและไฟท้ายใหม่ DYNAMIC BLADE

ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 18 นิ้ว

ห้องโดยสารออกแบบให้ Modern Luxe กว่าเดิม

เบาะ 7 ที่นั่ง ดีไซน์ใหม่ โอบรับสรีระ ด้วยวัสดุ Cool Max ช่วยลดการสะสมความร้อน

คอนโซลดีไซน์ใหม่ ตกแต่งด้วย Piano Black – Satin Silver

หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับระบบ Wireless Android Auto และ Wireless Apple CarPlay

เบาะผ้าสีดำ 7 ที่นั่ง

เครื่องยนต์ขนาด 2.2 ลิตร (2.2 Ddi MAXFORCE) แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟต์ (DOHC)

กำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,400 รอบ/นาที

ขุมพลังใหม่นี้มีจุดเด่นที่แรงบิดช่วงออกตัวสูงขึ้น 56% และมีอัตราประหยัดน้ำมันสูงสุด 10.7%

อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ 2.2 Ddi MAXFORCE รุ่น Active ราคา 1,194,000 บาท

ดูภาพรวมทั้ง 3 รุ่นเริ่มต้นของรถกลุ่มนี้ มิตซูบิชิ ราคาอาจจะแรงกว่านิดหน่อย แต่ใส่ออปชั่นมาแบบจัดหนัก

รวมถึงตัวช่วยการขับขี่ก็ให้มามากกว่าประมาณหนึ่ง

ส่วนค่ายโตโยต้า และอีซูซุ ขึ้นชื่อเรื่องเป็นเจ้าตลาดของเซ็กเมนต์อยู่แล้ว

โดยเฉพาะปีที่แล้วกวาดยอดขายไล่เลี่ยกัน

ทั้งได้เปรียบในเรื่องศูนย์บริการ และราคาในตลาดมือสอง

ชั่งน้ำหนักแล้วลองตัดสินใจกันดู •

 

ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต

[email protected]