‘เม-เปิ้ล’ | เรื่องสั้น : ก้องกาล

เรื่องสั้น | ก้องกาล

‘เม-เปิ้ล’

 

บนรถแท็กซี่

หญิงสาวกำลังคิดสับสน ขณะเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างรถ อีกไม่กี่นาทีข้างหน้าจะบอกเขาดีหรือเปล่า รอบเดือนของเธอขาดหายไปราวสองเดือนแล้ว เมื่อเช้าลองตรวจปัสสาวะกับชุดทดสอบการตั้งครรภ์ที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อดู

ปรากฏว่ามีแถบสีม่วงขึ้นมาคู่กัน!

 

“เม สัปดาห์หน้ามีวันหยุดยาว ไปเที่ยวคีรีวงกันมั้ย”

เมื่อสองเดือนก่อน อยู่ๆ คืนนั้น เปิ้ลทักทายเมมาทางกล่องข้อความของเฟซบุ๊ก หลังเรียนจบแยกย้ายทำงาน ทั้งสองก็ไม่ได้พบกันอีกเลย เมได้แต่ติดตามความเป็นไปของเพื่อนๆ ทางสื่อโซเชียล คงปีกว่าแล้วสินะ แม้ยังแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่วันดีคืนดีชายหนุ่มเพื่อนเก่ามีแก่ใจนึกถึง แต่เมื่อเขาเอ่ยชื่อหมู่บ้านอากาศดีที่สุดในประเทศไทย สถานที่ซึ่งเธออยากไปมานานแล้วขึ้นมา นั่นทำให้หัวใจแห้งเหี่ยวชื่นฉ่ำขึ้นทันตา การหาเหตุผลอื่นใดก็ดูเหมือนจะถูกตีตกไป

การมาของเปิ้ลฉุดให้เมหวนคืนเรื่องราวครั้งอดีต เวลาสี่ปีมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย นึกถึงความรื่นรมย์ของชีวิตเมื่อครั้งเรียนมหาวิทยาลัย ช่างเต็มไปด้วยสีสัน ระคนทั้งสุขและทุกข์ เสียงหัวเราะเบิกบานในวัยหนุ่มสาวยังคงก้องดัง แม้บางเรื่องทำให้เธอแอบมีน้ำตา แต่ก็ล่วงเลยผ่านพ้นจนเกือบลืมได้แล้ว…

เมกับเปิ้ลเคยเป็นเพื่อนร่วมคณะมหาวิทยาลัยเดียวกัน ตอนนั้นเปิ้ลต่างเป็นที่หมายปองของพวกสาวๆ ดีกรีเดือนคณะตอนปีหนึ่งย่อมการันตีความร้อนแรงของเขาได้เป็นอย่างดี หนุ่มเจ้าเสน่ห์ขึ้นชื่อเรื่องเจ้าชู้ มีแฟนใหม่แทบทุกเทอม หักอกใครต่อใครจนนับไม่ถ้วน และเมก็เป็นหนึ่งในนั้น เธอได้แต่เก็บซ่อนความรู้สึกหลงใหลเขาเอาไว้อย่างมิดชิด ไม่ให้ใครสามารถจับพิรุธได้ แม้คำว่ารักล้นปรี่ในอกจนแบบระเบิดออกมาเสียให้ได้ทุกครั้งเมื่อมีโอกาสใกล้ชิดกัน

เมจำได้ว่าตอนปี 2 เคยไปออกค่ายอาสาพัฒนาที่จังหวัดเหนือสุดของประเทศไทยกับกลุ่มรุ่นพี่ชมรม เปิ้ลก็เป็นหนึ่งในคณะที่ออกค่ายด้วยกัน ตอนนั้นเธอยังสงวนท่าที ไม่กล้าพูดคุยกับเขาเท่าไรนัก แต่เมื่อได้เห็นบางมุมที่ไม่ค่อยมีใครเห็น ความเป็นสุภาพบุรุษและความทุ่มเทต่อส่วนรวมของเขา ยิ่งทำให้เมมีความประทับใจชายหนุ่มที่แอบชอบทบทวี

 

ตอนปิดเทอมปี 3 ในชั้นปีให้โหวตสถานที่ท่องเที่ยวที่อยากไป ถ้าจำไม่ผิด ตอนนั้นมี 3 ตัวเลือกที่เพื่อนๆ เสนอขึ้นมา ได้แก่ วังน้ำเขียว หมู่บ้านคีรีวง และภูกระดึง เมยังจำท่าทางสุดเสียดายของเปิ้ลได้ติดตา เพราะไม่ใช่แต่เปิ้ลหรอกที่เลือกคีรีวง เธอก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย สุดท้ายจึงต้องยกโขยงขึ้นภูกระดึงตามผลโหวตสูงสุด

ความเหนื่อยล้าหายเป็นปลิดทิ้ง เมรู้สึกเหมือนได้อยู่อีกโลกหนึ่งเมื่อขึ้นไปอยู่บนยอดภูกระดึง แทบไม่อยากเชื่อว่าได้เดินผ่านทั้งทางราบและทางชันมาเกือบ 10 กิโลเมตร ใช้เวลาไปราว 6 ชั่วโมง ยิ่งใกล้ค่ำอากาศยิ่งหนาวเย็นขึ้น แต่สดชื่นปลอดโปร่ง เธอยังจำได้แม่นยำ บนนั้นมีน้ำตกด้วย ใกล้ๆ น้ำตกนั้น ต้นไม้ใหญ่หลายต้นได้ทิ้งใบแก่สีแดงสด รูปร่างคล้ายนิ้วมือกางออกลงมาเต็มลานหิน เมื่อลมพัดพลิ้วมาใบไม้ส่วนหนึ่งปลิวไปลอยล่องในสายน้ำ เกิดภาพงดงาม ขณะใครคนหนึ่งร้องขึ้น

“โห…ใบ Maple สวยจัง”

วินาทีนั้นเมรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าว ใจเต้นระริก ชื่อสองชื่อเมื่ออยู่คู่กันช่างไพเราะ ยิ่งตอกย้ำสิ่งปรารถนาในใจ แต่พยายามเก็บอาการอย่างที่สุด ขณะข้างในร้องก้องดัง ‘เม-เปิ้ล ฉันชอบใบไม้ชนิดนี้เหลือเกิน’

“ตึ๊ง ตึ่ง” เมหลุดออกจากภวังค์ที่เตลิดไปไกล เมื่อมีเสียงส่งข้อความตามมา…

“ว่าไงเม เราจำได้นะว่าสมัยเรียนเมเคยโหวตอยากไปที่นั่น”

“แล้วมีใครไปบ้าง” เธอโยนหินถามทาง

“ก็มีเรา ไอ้เกม และก็ขิม คนอื่นๆ ไม่ว่างกันเลย ไปนะเม หลายคนสนุกดี” เปิ้ลเว้าวอน เกมกับขิงตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋มาตั้งแต่ปี 4 จนตอนนี้วางแผนจะแต่งงานกันอยู่รอมร่อ

“พรุ่งนี้เราให้คำตอบได้มั้ย ขอเคลียร์งานก่อน” เธอพยายามหาคำตอบที่ดูดีสุดพิมพ์ลงไป

“เรารอคำตอบนะ” ชายหนุ่มทิ้งข้อความสุดท้ายไว้

การสนทนาสิ้นสุดไปแล้ว ทว่า หญิงสาวยังยิ้มอย่างสุขล้นกับจอสมาร์ตโฟนอยู่ เธอไม่ได้ฝันไปใช่ไหม ถึงแม้เธอเป็นคนสุดท้ายที่เขานึกถึงก็ช่างเถอะ มีเหตุผลอื่นใดอีกเล่าที่จะบอกปฏิเสธเขา นี่มันโอกาสทองชัดๆ เพราะเท่าที่ส่องเฟซบุ๊กของเปิ้ลแทบทุกวัน คอยสอดแนมถามข่าวจากเพื่อนมิได้ขาด

ตอนนี้เขาก็เพิ่งโสดมาหมาดๆ ส่วนเธอก็หัวใจยังว่าง จะเป็นไรไปเล่า ไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้น

 

“ตกลงเปิ้ล ไปก็ไป อยากเจอขิงด้วยแหละ” เมพิมพ์ไปในกล่องข้อความคืนถัดมา เธอหาคำตอบที่ดูเหมือนไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับการไปเที่ยวครั้งนี้สักเท่าใดนัก ทั้งที่ในใจอยากให้ไปพรุ่งนี้เสียด้วยซ้ำ

“เดี๋ยวเราจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินให้เอง เมส่งเมลข้อมูลมานะ” เปิ้ลอาสาอย่างกระตือรือร้น

“มีข่าวไม่ค่อยดีนิดหน่อยนะเม ไอ้เกมกับขิงคงไม่ได้ไปกับเราแล้วล่ะ” เปิ้ลโทรศัพท์มาหาเมช่วงพักเที่ยงของวันหนึ่ง

“อ้าว ทำไมล่ะ จองตั๋วเครื่องบินกับที่พักไว้หมดแล้วนี่นา อีกสองวันเอง” เธอโพล่งออกไปคล้ายจะผิดหวัง ทั้งที่หัวใจกำลังเต้นตูมตาม

“ไอ้เกมมันลื่นล้มในห้องน้ำ แอดมิตเมื่อเช้า บ้านมันไม่มีใครว่าง ขิมเลยต้องคอยอยู่ดูแลที่โรงพยาบาล” เปิ้ลอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ก่อนสรุปความ “เราคงต้องไปกันแค่สองคนแล้วล่ะ”

 

บ่ายวันนั้น พอเครื่องบินลงจอดสนามบินนครศรีธรรมราช เมกับเปิ้ลเดินออกจากสนามบินมาต่อรถสองแถวไปยังอำเภอลานสกา เปิ้ลศึกษาข้อมูลมาอย่างละเอียด อีกราวครึ่งชั่วโมงก็มาถึงหมู่บ้านอันเลื่องชื่อ

สองหนุ่มสาวรู้สึกตื่นเต้นเมื่อหมู่บ้านกลางอ้อมกอดหุบเขาปรากฏอยู่ตรงหน้า ถัดจากฟ้าใสไกลๆ สายน้ำทอดยาวลงมาจากภูเขาสูง ผ่านแก่งหินน้อยใหญ่ ก่อนไหลผ่านกลางหมู่บ้าน ราวภาพวาดสีน้ำ นี่หรือแหล่งโอโซนอันดับหนึ่งของไทย อากาศแสนบริสุทธิ์สมคำร่ำลือ

ที่พักของรีสอร์ตที่เปิ้ลจองไว้ เป็นเต็นท์ริมลำธารสองหลังใกล้กัน เพื่อจะได้ดื่มด่ำธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ตั้งใจให้ผู้ชายนอนเต็นท์หนึ่ง ผู้หญิงนอนอีกเต็นท์ แต่พอเก่งกับขิงไม่ได้มาด้วย คืนนี้เปิ้ลกับเมจึงต้องนอนเดี่ยวคนละเต็นท์ ขณะที่เมไม่วายพะวงไปล่วงหน้า ราตรีนี้เธอจะหลับสนิทได้อย่างไร ในคืนที่มีเพียงเธอและเขาอยู่ในเต็นท์ใกล้กันแค่เอื้อม หรือเธอควรใช้โอกาสนี้ สารภาพสิ่งที่เก็บซ่อนไว้มานานให้เขาได้รับรู้เสียที

“อากาศดีจัง ออกไปปั่นจักรยานกันมั้ยเม” เปิ้ลเอ่ยชวน หลังนำสัมภาระเก็บไว้ในเต็นท์เรียบร้อย

สองหนุ่มสาวปั่นจักรยานออกจากที่พัก ผ่านถนนสายเล็กเลียบลำธาร พลางชื่นชมแมกไม้สองริมฝั่ง เหล่านกหลายชนิดกำลังโผบินตาม พร้อมส่งเสียงประสานทักทายเจื้อยแจ้ว เขายืดตัวเชิดหน้าสูดหายใจรับอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอด ก่อนวกขึ้นสะพานปูน จุดแลนด์มาร์กสำคัญที่ไม่ว่าใครก็ต้องมาถ่ายรูป ว่ากันว่าหากใครไม่ได้ถ่ายรูปกับสะพานนี้ก็เหมือนกับยังมาไม่ถึงคีรีวง

 

หลังถ่ายรูปเซลฟี่ที่ป้ายสะพาน มีท้องฟ้าและทิวเขาสวยงามเป็นฉากหลังด้วยกันแล้ว ทั้งคู่ปั่นจักรยานตามกันไปอีกฝั่งหนึ่ง สักพักพอเหงื่อซึมจึงจอดรถไว้เคียงกันริมถนน ก่อนเปิ้ลยื่นมือให้เมจับ จูงเดินลุยน้ำตื้นริมธารไปยังโขดหินขนาดใหญ่ ก่อนจะปีนขึ้นไปนั่งลงข้างๆ กัน

“ไม่ได้มาเที่ยวแบบนี้นานแล้ว รู้สึกดีจัง” เปิ้ลเปรยขึ้น ขณะมองฝูงปลาน้อยใหญ่กำลังแหวกว่ายลำธารใส

“ใช่ โชคดีจังที่ตัดสินใจมาทริปนี้ ขอบคุณนะเปิ้ลที่ชวนเมมา” หญิงสาวหันไปโปรยยิ้ม เหยียดขาผ่อนคลาย

“เอิ่ม เราถามหน่อยสิ ตอนนี้เมมีใครหรือยัง” เขาเริ่มจู่โจมแบบไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามตั้งตัว

“ว่าไงนะ…” เธอตะกุกตะกักจนไปไม่เป็น

“เมมีแฟนหรือยัง” เขาปล่อยหมัดตรง

“ใครจะมาจริงจังกับผู้หญิงธรรมดาๆ อย่างเราล่ะ” เธอตัดพ้อขณะใจเต้นไม่เป็นส่ำ

“ตอนนี้เราโสดอยู่ อยากมีใครสักคนน่ะ” เขาตามมาปล่อยหมัดแย็บ “ความจริงเราก็เป็นเพื่อนกันมานานแล้วนะเม”

“แล้วไง…” หญิงสาวตั้งตาคอยฟังประโยคต่อมาจนแทบหยุดหายใจ

“ถ้าหัวใจเมยังว่าง เรามาลองคบกันดูดีมั้ย” เขายื่นหน้ามากระซิบพลางจับมือเธอขึ้นมา

เมรู้สึกว่านี่เป็นประโยคที่ดีที่สุดของเขา ตั้งแต่ออกเดินทางร่วมกันมา

สายลมภูเขาพัดมาบางเบาเกิดริ้วคลื่นกระจายอยู่ไกลๆ กลางลำธารฝูงแมลงปอกำลังขยับปีกขึ้นลง หยอกเย้ากันบนผิวน้ำอย่างร่าเริง

“ก่อนขึ้นสะพาน มีป้ายบอกว่าทางนั้นไปน้ำตก เราลองไปกันมั้ย” เขาเอ่ยทำลายความเงียบ เมื่อเห็นฝ่ายหญิงเขินอายจนนิ่งไป

คราวนี้สองคนปั่นจักรยานเคียงคู่กันมา ผ่านสวนผลไม้ของชาวบ้านที่มีดาษดื่นทั้งเงาะ มังคุด ลองกอง และทุเรียน เสียงซ่าของน้ำดังแว่วมา อีกไม่ไกลก็ถึงน้ำตกขนาดเล็กที่อยู่สุดถนนของหมู่บ้าน หนุ่มสาวทั้งสองชวนกันลงเล่นน้ำในน้ำตกกันอย่างเพลิดเพลิน ก่อนกลับเข้ามาที่พักตอนพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า พออาบน้ำเสร็จสรรพ ก็พบว่าทางรีสอร์ตได้เตรียมอาหารเย็นไว้ให้ที่โต๊ะริมลำธารแล้ว

 

ยามพลบค่ำริมน้ำบรรยากาศแสนโรแมนติก ได้ยินทั้งเสียงน้ำไหลและเสียงแมลงกลางคืนคอยขับกล่อม บนฟ้าดวงดาวพราวระยิบวิบวับ หลังอาหารมื้อค่ำกลางหุบเขาเปิ้ลชวนเมมานั่งดูดาวที่หน้าเต็นท์ พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ชีวิตของทั้งคู่ที่ผ่านมา จังหวะหนึ่งเขาเอียงตัวจูบที่แก้มเธอแผ่วเบา หญิงสาวรู้สึกวูบวาบไปทั้งตัว วินาทีนั้นคล้ายโลกได้หยุดหมุนไปชั่วขณะ

“ตกลงเป็นแฟนกับเรานะ” เปิ้ลถอนจูบ จ้องตารอคำตอบ

“อื่อ…” เมหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุก ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่พยักหน้ารับ

ดึกดื่นคืนนั้น เหมือนข้าศึกปิดล้อมไว้ทุกทิศทาง ไม่มีหนทางไหนเลยที่หญิงสาวจะหนีหลุดรอดชายหนุ่มผู้เจนจัดไปได้ คงทำได้เพียงยอมจำนนโดยดุษณี

และหากจะมีใครสักคน เห็นชายหนุ่มเดินสะโหลสะเหลออกมาจากเต็นท์ของหญิงสาวในเช้าของวันใหม่ ก็คงจะมีแต่เจ้าของรีสอร์ตที่บังเอิญเห็นจากกล้องวงจรปิด ซึ่งอยู่บนเสาไฟฟ้าใกล้ลำธาร เพื่อเฝ้าระวังอันตรายให้กับนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนเพียงคนเดียวนั้น

 

กลับมาถึงกรุงเทพฯ เมไม่สามารถติดต่อเปิ้ลได้เลยในทุกช่องทาง ในเฟซบุ๊กไม่มีความเคลื่อนไหวนานแล้ว ส่งข้อความไปก็ไม่อ่าน มือถือปิดไม่สามารถติดต่อได้ โทรศัพท์ไปที่ทำงานก็บอกออกไปข้างนอก ไม่อยู่ในออฟฟิศตลอดเลย นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่ หญิงสาวครุ่นคิดจนว้าวุ่นใจ

สองเดือนผ่าน เขาก็ยังไม่ติดต่อกลับมาหา หลายวันแล้วที่เธอเครียดจนเป็นไมเกรน ไม่มีกะจิตกะใจทำงาน สายวันนี้จึงตัดสินใจส่งข้อความถึงเขาอีกครั้ง

“เปิ้ลเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมถึงติดต่อไม่ได้เลย หลังเลิกงานเย็นนี้ออกมาเจอกันที่ร้านประจำหน่อยนะ เมมีเรื่องสำคัญจะบอก”

ทว่า เพียงครู่เดียว เปิ้ลส่งข้อความตอบกลับมา

“ได้สิ เราก็มีเรื่องสำคัญจะบอกเมอยู่เหมือนกัน”

 

บนรถไฟฟ้า BTS

ท่ามกลางผู้โดยสารคับคั่งหลังงานเลิก ชายหนุ่มกำลังยืนครุ่นคิดหนัก

อีกไม่กี่อึดใจก็จะได้พบกันแล้ว เขายังตัดสินใจไม่ได้เลย จะบอกเธอยังไงดี

ตรวจสุขภาพประจำปีเมื่อสองเดือนก่อน ทุกอย่างปกติหมด

ยกเว้นก็แต่เลือดของเขาเท่านั้นที่ผลเป็นบวก!! •