ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 7 - 13 กุมภาพันธ์ 2568 |
---|---|
คอลัมน์ | โล่เงิน |
เผยแพร่ |
บทความโล่เงิน
พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร
ติดดาบยูเอ็นแก้แก๊งคอลฯ
กางโรดแม็ปปราบให้หมดปีนี้
9 โมงเช้าวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ไทยได้ตัดไฟ ตัดอินเตอร์เน็ต ตัดน้ำมัน ชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด เพื่อสกัดแก๊งคอลเซ็นตอร์ ขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ
จากมติสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) หลังจากเห็นว่า “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” เป็นภัยความมั่นคง สร้างความทุกข์ให้คนไทยมหาศาล
พบว่าชาวบ้านโดนหลอกไปแจ้งความทั้งหมดกว่า 557,500 คดี รวมความเสียหายเป็นเงินกว่า 86,000 ล้านบาท เฉลี่ยแต่ละวันมีความเสียหาย 80 ล้านบาท
ในส่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้มอบหมาย “บิ๊กหวาน” พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ และผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ล่าสุด สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime : UNODC) ได้จัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจต่อต้านอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์ (Specialized Cyber Scam and Trafficking in Persons for Forced Criminality Taskforce) ได้เชิญ “บิ๊กหวาน” เป็นหัวหน้าหน่วย
“UNODC เชิญผมเป็นหัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจต่อต้านอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์ ในหนังสือเชิญ เขามั่นใจในความเป็นผู้นําของเรา รัฐบาลมีความจริงใจแก้ปัญหา จึงมั่นใจในความเชี่ยวชาญ เขายังพูดถึงเรื่องของพวกเทียร์ (การจัดอันดับค้ามนุษย์) จะส่งผลดีต่อไทยด้วย”
สำหรับปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้หารือทั้ง 3 ประเทศ ลาว เมียนมา กัมพูชา ใช้มิติระหว่างประเทศมากขึ้น ขับเคลื่อนผ่านกระทรวงการต่างประเทศส่วนหนึ่ง
เนื่องจากองค์การอาชญากรรมนี้ได้ไปตั้งฐานอยู่ประเทศอื่น การที่จะไปติดตาม ขอความร่วมมือประเทศนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
เพราะประเทศนั้นๆ ไม่ได้จัดลำดับความสำคัญ ถ้าจับกุม มีโทษเล็กน้อยแค่หลบหนี
“ผมอาศัยช่องว่างด้วยการเปลี่ยนวิธีการมองใหม่ จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นการค้ามนุษย์ ทําให้ประเทศต่างๆ มองเป็นภาพเดียวกันหมดเลย เพราะการค้ามนุษย์เป็นอาชญากรรมโลกที่ทุกประเทศมองว่าผิดกฎหมาย ทําให้การทํางาน กลไกประเทศต่างๆ ทั่วโลกเดินทันที เลยให้เป็นอาชญากรรมร่วมกัน อย่างกรณีคนไทยถูกกักขัง บังคับให้ทํางานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นความผิดค้ามนุษย์ ถือเป็นความผิดกฎหมายในกัมพูชาด้วย ไม่ได้ผิดเฉพาะกฎหมายไทย”
พล.ต.อ.ธัชชัยกล่าว
“จเรตำรวจแห่งชาติ” ฉายภาพให้ฟังว่า ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นอาชญากรรมที่ง่ายที่สุดในการติดตามสืบสวน
เพราะว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็น “ดิจิทัลฟุตพรินต์” หมดเลย ไม่ได้ปิดบังตัวตน ไม่ได้ปิดบังเส้นทาง
ไม่ว่าจะเป็นบัญชีม้า บัญชีธนาคาร ต้องจดทะเบียนซิม เส้นทางการเงิน โอนไปให้เห็น ผ่านคริปโตฯ ไปตรงจุดไหนของประเทศเพื่อนบ้าน
แต่ที่ยากคือการใช้ช่องว่างกฎหมายระหว่างประเทศ เพราะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่ได้อยู่ในไทย เช่นเดียวกันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของประเทศต่างๆ ก็อยู่ในประเทศอื่น
ถ้ามองดีๆ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกคนไทย จะใช้ “อินฟราสตรักเจอร์” ของคนไทยทั้งหมด ทั้งซิม สัญญาณโทรศัพท์ แม้แต่บัญชีธนาคาร ก็เป็นธนาคารไทยทั้งหมด
คนที่หลอกคนไทยก็เป็นคนไทยทั้งหมด ส่วนจีนเทาเป็นแค่เจ้าของ แล้วมีประเทศที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ไปตั้งนั้นคอยให้ความคุ้มครอง
ฉะนั้น “อินฟราสตรักเจอร์” ที่เปรียบเสมือนเสา ถ้าเสาใดเสาหนึ่งล้มก็ทํางานไม่ได้
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดเจน ถ้าไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ไทยก็ต้องใช้สัญญาณโทรศัพท์ต่างประเทศโทร.เข้ามา ซึ่งคนไทยไม่รับสายอยู่แล้ว
หรือถ้าจะใช้ WiFi Calling โทร.มา ยังไงก็ต้องใช้ซิมไทย ถ้าใช้ของต่างประเทศต้นทุนสูงมาก ไม่คุ้ม การโกงก็ทําได้ยาก
ถ้าตัดไม่ให้บัญชีธนาคารไทยหลอกได้ ต้องโอนเงินไปต่างประเทศ แน่นอนคนไทยไม่โอนเงินไปต่างประเทศ
เพราะฉะนั้น ถ้าตัดบัญชีในไทยได้ ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็จบ
สรุปถ้าล้มเสาใดเสาหนึ่งได้จะแก้ปัญหานี้ได้ นั้นคือสิ่งที่จะขับเคลื่อนให้สำเร็จในปีนี้
แต่ทั้งหมดทั้งปวง ถ้าคนไทยไม่ไปขายชาติ ข้ามไปฝั่งโน้นแล้วมาหลอกคนไทยด้วยกันเอง แถมยังเอ็นจอยด่าคนไทยด้วยกัน ปัญหาจะไม่เกิด
ดังนั้น กําลังรณรงค์ตามล่าคนไทยขายชาติ ต่อไปจะไม่ให้เรียก “ซิมผี” “บัญชีม้า” แต่จะเรียก “ซิมขายชาติ” “บัญชีขายชาติ”
ที่สำคัญหน่วยงานของรัฐต้องประสานต้นสังกัด อย่างธนาคารที่มีการเปิดบัญชีม้ามากที่สุดในประเทศ
คําถามคือ ผู้จัดการสาขานั้นจะไม่ทราบเลยหรือ ส่วนใหญ่เป็นสาขาตามแนวชายแดน แต่ในกรุงเทพฯ ก็มี
ประเด็นคือเขาไม่รู้เลยหรือว่าเป็นบัญชีม้า
เพราะบัญชีม้าเป็นบัญชีที่มีบุคลิกมันเอง มีการหยอดเงิน เคลื่อนไหวเงินที่รวดเร็ว เจ้าของบัญชีไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง มีเงินเป็นแสนเป็นล้านในเวลาแป๊บเดียว เสร็จแล้วปิดแล้วเปิดใหม่
หรือจับซิมล่าสุด 280,000 กว่าซิมบ้าง 800,000 ซิม 500,000 ซิม
คําถามคือว่า คนไปลงทะเบียนได้อย่างไร เป็นแสนๆ ซิมต้องระบบอะไร
ถามว่า ระบบของผู้ให้บริการจะไม่รู้เลยหรือ คนไหนถือครองกี่ซิม หรือการลงทะเบียนมั่ว พบว่าคนร้ายใช้ซิมไทยลงทะเบียนมั่วเยอะมาก
บิ๊กหวานเล่าด้วยว่า กรณีหวังชิง นักแสดงหนุ่มจีน ที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เมียวดีหลอกนั้น คนจีนดูข่าวนี้จนเป็นไวรัล หมื่นล้านวิว
รัฐบาลจีนจึงอยู่เฉยไม่ได้ ส่งนายหลิว จงอี ผู้ช่วย รมต.กระทรวงความมั่นคงสาธารณะมา
“ผมได้เสนอเจ้าหน้าที่จีนไปให้ตั้งศูนย์ประสานงานร่วมกัน ผมบอกว่าผมอยากปราบ แต่ไม่มีข้อมูลในฝั่งโน้นเลย”
จเรตำรวจแห่งชาติบอกว่า ได้ตั้งวอร์รูมขึ้นมาติดตามสถานการณ์แล้วมีประชุมทุกวัน ผบ.ตร.ได้ให้ความสำคัญและได้กำชับตลอด
ที่สำคัญ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องการแก้ปัญหานี้ให้มากที่สุด
ปี 2568 ปัญหานี้ต้องหมดไป สถานการณ์จัดอันดับเทียร์ของไทยต้องดีขึ้น
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022