‘ชบาแก้ว’ สไตล์ ‘เจแปนเวย์’ เดินหน้าสู่ฟุตบอลโลกหญิงสมัย 3

จากความผิดหวังที่ไม่สามารถเข้าไปเล่นใน ฟุตบอลหญิง ชิงแชมป์โลก รอบสุดท้าย เมื่อปี 2023 ที่ผ่านมา ทำให้ทัพ “ชบาแก้ว” ทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ต้องกลับมาสังคายนาทีมกันใหม่ เพื่อเดินหน้าสู่การกลับไปเล่นในฟุตบอลโลกหญิง รอบสุดท้ายที่ ประเทศบราซิล ในปี 2027 กันแล้ว

ซึ่งนับเป็นเรื่องน่ายินดีที่ฟุตบอลหญิงไทยในยุคของ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ในฐานะนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ดูจะกลับมากระชุ่มกระชวยอีกครั้งหนึ่ง

ถ้าจำกันได้ มาดามแป้ง คือผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ที่นำทีมชบาแก้วผ่านไปเล่นฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก มา 2 สมัย ในปี 2015 และ 2019 ก่อนจะออกมาทำทีมการท่าเรือและทีมฟุตบอลชาย และก้าวมาเป็นนายกสมาคมในที่สุด

 

ด้วยความที่เคยประสบความสำเร็จ พาทีมฟุตบอลหญิงไปบอลโลกมาแล้ว แน่นอนว่าเมื่อเป็นนายกสมาคม เป้าหมายของมาดามแป้งก็คงหนีไม่พ้นการพาทีมฟุตบอลหญิงไปสู่เวทีระดับโลกอีกครั้งหนึ่ง

มาดามแป้งเดินหน้าลุยงานตั้งแต่เข้ามาเป็นนายกสมาคม ด้วยการดึง “โค้ชหนึ่ง” หนึ่งฤทัย สระทองเวียน กุนซือคู่ใจที่ไปฟุตบอลโลกด้วยกัน กลับมาช่วยดูด้านฟุตบอลหญิงอีกครั้งหนึ่ง

จากนั้นก็เดินหน้าสรรหาโค้ชคนใหม่ ก่อนที่จะมาได้โค้ชโปรไฟล์ดีอย่าง ฟูโตชิ อิเคดะ กุนซือชาวญี่ปุ่น เข้ามาทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยคนใหม่ ซึ่งมีประวัติไม่ธรรมดาเลย

อิเคดะมีประสบการณ์การทำงานในวงการฟุตบอลมานานกว่า 30 ปี หลังจากที่เลือกแขวนสตั๊ดกับ อุราวะ เรดส์ ตั้งแต่อายุ 26 ปีเท่านั้น โดยสมัยค้าแข้ง เล่นในตำแหน่งแบ๊กซ้าย และหันไปจับงานโค้ชหลังเลิกเล่น เน้นไปที่การพัฒนาเยาวชน ก่อนจะผันตัวมาทำฟุตบอลหญิงครั้งแรกในปี 2017 หรือเมื่อ 8 ปีก่อน

ในด้านการศึกษาจบหลังสูตร เจเอฟเอ คลาสเอส เมื่อปี 2011 โดยเริ่มทำงานตั้งแต่การเป็นผู้ช่วยโค้ชทีมอุราวะ เรดส์ ไดมอนส์ ชุดยู-18 ตั้งแต่ปี 1997-2000 ก่อนจะขยับไปเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมอคาเดมี ในช่วงปี 2000-2001 แล้วก็ทำหน้าที่เฮดโค้ชทีมยู-18 ของอุราวะแบบเต็มตัวในปี 2001-2002

 

จากนั้น อิเคดะถูกโปรโมตให้ทำหน้าที่ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนทีมชุดใหญ่ของอุราวะ เรดส์ ในปี 2002-2009 ก่อนจะกลับมาเป็นเฮดโค้ชทีมยู-18 อีกครั้งในปี 2009-2012 แล้วได้โอกาสย้ายไปทำหน้าที่ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนของ อวิสปา ฟุกุโอกะ จนถึงปี 2017

จนกระทั่งในปี 2017 อิเคดะก็ได้เข้าสู่วงการฟุตบอลหญิงอย่างจริงจัง เมื่อได้รับหน้าที่เป็นเฮดโค้ชทีม ฟุตบอลหญิงทีมชาติญี่ปุ่น รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ซึ่งระหว่างนั้น สามารถพาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย รุ่นยู-19 ในปี 2017 และ 2019 รวมถึงพาทีมฟุตบอลหญิงยู-20 ของญี่ปุ่น คว้าแชมป์โลกรุ่นยู-20 ในปี 2018 ด้วย

จากนั้นตั้งแต่ปี 2021 อิเคดะก็ถูกดันให้ขึ้นไปคุมทีมชาติญี่ปุ่นชุดใหญ่ ควบกับทีมยู-20 ไปด้วย ซึ่งผลงานในชุดเล็กก็ยังได้รองแชมป์ฟุตบอลโลก ยู-20 ในปี 2022 อยู่ แต่กับทีมชาติชุดใหญ่ อิเคดะสามารถพาทีมเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย เมื่อปี 2022 และเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก ในปี 2023 รวมถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย โอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ฝรั่งเศส

นอกจากนี้ อิเคดะยังมีชื่อลุ้นรางวัลโค้ช ฟุตบอลหญิงยอดเยี่ยมแห่งปี ก่อนจะหลุดไปในรอบ 6 คนสุดท้ายอย่างน่าเสียดาย

 

นอกจากอิเคดะแล้ว เขายังนำทีมงานจากญี่ปุ่นมาด้วย 2 คน นั่นก็คือ ยูอิโกะ คอนโนะ และ โยชิอากิ นากาอิ เพื่อพาฟุตบอลหญิงไทยเข้าสู่วิถี “เจแปนเวย์” แบบเต็มตัว

โดยในส่วนของ ยูอิโกะ คอนโนะ มีประสบการณ์การทำงานในวงการพัฒนาฟุตบอลหญิงมามากกว่า 11 ปี โดยหน้าที่หลักคือการฝึกและพัฒนานักกีฬา รวมถึงการออกแบบโปรแกรมฝึกซ้อม ที่เน้นเรื่องเทคนิคและความเข้าใจเป็นหลัก

คอนโนะนั้นจบปริญญาตรี ด้านศิลปศาสตร์ ภาษาต่างประเทศ มหาวิทยาลัยคันดะ, ปริญญาโท ด้านศิลปศาสตร์ การศึกษาทั่วไป มหาวิทยาลัยเมมฟิส (สหรัฐอเมริกา) และผ่านหลักสูตรเจเอฟเอ โปร ไลเซนส์ และเอเอฟซี โปรไลเซนส์ 2024 ผ่านการทำงานทั้งเฮดโค้ชและผู้ช่วยมาหลายสโมสร รวมถึงทีมชาติญี่ปุ่น รุ่นยู-16 กับ ยู-19 ด้วย

 

ส่วน โยชิอากิ นากาอิ อีกหนึ่งผู้ช่วยผู้ฝึกสอนของไทย มีประสบการณ์การทำงานในวงการพัฒนาฟุตบอลหญิงมามากกว่า 20 ปี โดยหน้าที่ค่อนข้างหลากหลาย ทั้งด้านการยกระดับ การพัฒนา และการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของร่างกาย

นากาอิ ผ่านการทำงานในระดับสโมสรเป็นส่วนใหญ่ ทั้งกับ อุราวะ เรดส์ เฮิร์ตฟูล, อุราวะ เรดส์ เลดีส์ และล่าสุดกับ ออร์ก้า คาโมกาวะ ซึ่งเขาไปไกลถึงนั่ง ผอ.อคาเดมีของสโมสรเลยด้วย

เรียกว่าแต่ละคนโปรไฟล์ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว…

 

ทางด้านของอิเคดะ ประกาศไว้ว่า สไตล์การเล่นของเขาชอบทำทีมเกมรุก ชอบการเล่นแบบดุดัน ไล่เพรสซิ่งคู่แข่งและขยันในการเล่น ซึ่งเป็นโจทย์สำคัญที่จะต้องมาพัฒนาวงการฟุตบอลหญิงของไทยให้ได้

“เรารู้ว่าการไปฟุตบอลโลกมันไม่ง่าย ต้องได้รับการสนับสนุนที่ดีทั้งจากสมาคม, นักฟุตบอล และทีมงานทุกคน อยากสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย และจะพยายามทำอย่างเต็มที่สุดความสามารถ” อิเคดะกล่าวเอาไว้ในวันเปิดตัว

ต้องรอดูว่าการหันมาใช้เจแปนเวย์ เหมือนกับฟุตบอลชาย จะช่วยยกระดับบอลหญิงไทยได้มากแค่ไหน

เพื่อเป้าหมายไปฟุตบอลโลกหญิงอีกครั้งหนึ่ง •

 

เขย่าสนาม | Stivie Toon

[email protected]