ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 7 - 13 กุมภาพันธ์ 2568 |
---|---|
คอลัมน์ | สุจิตต์ วงษ์เทศ |
เผยแพร่ |
“ขรรค์ชัยศรี” เป็นชื่อพระแสงดาบ แสดงสัญลักษณ์อำนาจพ่อขุนผาเมือง เจ้าเมืองราด (เมืองเสมา-ศรีจนาศะ อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา) ที่ได้รับจากกษัตริย์ศรียโสธรปุระ (เมืองพระนครหลวง หรือนครธม) กัมพูชา
ต่อมา พ่อขุนผาเมือง (หรือเชื้อสายพ่อขุนผาเมือง) พร้อมเครือญาติและเครือข่ายการค้า ร่วมสถาปนาอโยธยา และสืบวงศ์เป็นกษัตริย์อโยธยา ทำให้พระแสงขรรค์ชัยศรีถูกเชิญจากเมืองราด (ลุ่มน้ำมูล) ลงไปอโยธยาแล้วสืบเนื่องถึงอยุธยา จึงพบพระแสงขรรค์ชัยศรีในตำนานพงศาวดาร และในกรุวัดราชบูรณะ อยุธยา
พ่อขุนผาเมือง เจ้าเมืองราด พูดอย่างน้อย 2 ภาษา คือ เขมรและไท-ไต ส่วนประชาชนเมืองราดหลายชาติพันธุ์พูดอย่างน้อย 2 ภาษา คือ เขมร, ไท-ไต, และอื่นๆ (ในจารึกบางทีเรียก “พระยาผาเมือง” เป็นลูกชายพ่อขุนศรีนาวนำถุม กษัตริย์สถาปนา “ศรีสัชนาลัยสุโขทัย”)
เมืองราดรับเถรวาท แบบลังกา (จากอโยธยา) ซึ่งเผยแผ่โดยใช้ภาษาไท-ไต (ต่อไปข้างหน้าคือภาษาไทย)

ทบทวนความเป็นมา
กษัตริย์กัมพูชาแห่งกรุงศรียโสธร (“ผีฟ้าเจ้าเมืองศรียโสธรปุระ”) คือ เมืองพระนคร หลวง (นครธม) พระราชทานหลายอย่างให้พ่อขุนผาเมือง ได้แก่
พระนามปกติว่า “กรมเตงอัญผาเมือง”, พระนามเกียรติยศว่า “ศรีอินทรบดินทราทิตย์”, ลูกลาวชื่อ “นางสุขรมหาเทวี”, พระแสงดาบ “ขรรค์ชัยศรี” ซึ่งมีข้อมูลเพิ่มเติมต่อไปนี้
(1.) “กมรเตงอัญ” เป็นคำภาษาเขมร แปลว่า เจ้า
“กมรเตงอัญผาเมือง” ตรงกับคำไทยว่า “เจ้าผาเมือง” หมายถึงผาเมืองเป็นเจ้า มีตัวอย่างพระนามในรัฐสุพรรณภูมิว่าเจ้านครอินทร์ มีโอรส 3 องค์เรียงกัน เจ้าอ้ายพระยา, เจ้ายี่พระยา, เจ้าสามพระยา
(2.) “ศรีอินทรบดินทราทิตย์” เป็น “ศรีอินทราทิตย์”
หลังยึดเมืองสุโขทัยได้จากขอมสบาดโขลญลำพง ผาเมืองยกให้บางกลางหาวครองเมืองสุโขทัย แล้วยกนาม “ศรีอินทรบดินทราทิตย์” ให้ด้วย แต่กร่อนคำจนกลายเป็น “ศรีอินทราทิตย์”
(3.) “นางสุขรมหาเทวี” ธิดากษัตริย์เขมร
ประเพณียกลูกสาวแต่งงานกับกษัตริย์หรือเจ้าเมืองในเครือข่าย แล้วดองเป็นเครือญาติ พบบ่อยๆ ในประวัติศาสตร์เพื่อขยายอำนาจทางการเมืองและการค้า เช่น
กษัตริย์เขมรยกลูกสาวให้เจ้าฟ้างุ้มแห่งหลวงพระบาง, พระมหาจักรพรรดิ อยุธยา ยกลูกสาวให้เจ้าไชยเชษฐา เวียงจันท์, พระมหาธรรมราชายกลูกสาว (พี่สาวพระนเรศวร) ให้บุเรงนอง เป็นต้น
(4.) “ขรรค์ชัยศรี” ของพ่อขุนผาเมือง เป็นมรดกตกทอดถึงกษัตริย์อยุธยา
เป็นพยานว่าพ่อขุนผาเมืองขึ้นครองอโยธยา จึงยกสุโขทัยให้สหายบางกลางหาว เพราะอโยธยาใหญ่กว่าและสำคัญกว่าสุโขทัย ดังนั้นพระขรรค์ชัยศรีจึงตกทอดถึงกษัตริย์อยุธยา
“ขรรค์ชัยศรี” เป็นตัวแทนหรือสัญลักษณ์ของอำนาจการเมืองของกัมพูชา และเชื้อวงศ์เขมร ดังต่อไปนี้
อำนาจการเมืองของกัมพูชา มีหลักฐานจำนวนมากเป็นที่รับรู้ทั่วโลก
เชื้อวงศ์เขมร พระเจ้าแผ่นดินกรุงศรีอยุธยาสืบวงศ์จากกษัตริย์กรุงศรียโสธร (เมืองพระนครหลวง) แห่งกัมพูชา เกี่ยวดองเครือญาติผ่านทางขอมละโว้ (ลพบุรี) เป็นที่รับรู้ในราชสำนักพระนารายณ์ (พบในคู่มือทูตสยามไปยุโรป ซึ่งเป็นเอกสารราชการกรุงศรีอยุธยา ราว พ.ศ.2224 พิมพ์ใน ศิลปวัฒนธรรม ฉบับกุมภาพันธ์ พ.ศ.2548 หน้า 90-94)
ตำนานล้านนา บางฉบับระบุว่าพระเจ้าแผ่นดินอยุธยาสืบวงศ์ขอมละโว้
คำให้การชาวกรุงเก่า บอกตรงๆ ว่าพระเจ้าแผ่นดินอยุธยาสืบวงศ์จากพระเจ้าปทุมสุริยวงศ์แห่งเมืองพระนครหลวง กัมพูชา (พระเจ้าปทุมสุริยวงศ์เป็น “วีรบุรุษในตำนาน” ที่นักวิชาการเชื่อว่าหมายถึงพระเจ้าชัยวรรมันที่ 7)

พ่อขุนผาเมือง คือ พระยาแกรก?
พ่อขุนผาเมืองมีพระขรรค์ชัยศรี อาจตรงกับตำนานพระยาแกรก กษัตริย์อโยธยา (ก่อนอยุธยา)
พระแสงขรรค์ชัยศรี เป็นพระแสงของพระยาแกรก กษัตริย์อโยธยา
พระยาแกรกเป็น “ผู้มีบุญ” มาทางทิศตะวันออก (ของอยุธยา) พร้อมเครื่องกกุธภัณฑ์ (ซึ่งมีพระแสงขรรค์ชัยศรีอยู่ด้วย) จากพระอินทร์ (ที่แปลงเป็นคนชราจูงม้า) แล้วได้เป็นกษัตริย์ครองอยุธยาว่า “พระเจ้าสินธพอำมรินทร์” มีในพงศาวดารเหนือ และในคำให้การชาวกรุงเก่า
คำให้การขุนหลวงหาวัด (เรื่องธรรมเนียมถือน้ำ) บอกว่าพิธีถือน้ำพระพัทต้องเชิญพระแสงขรรค์ชัยศรีเป็นประธานพระแสง 12 ราศี
คำให้การชาวกรุงเก่า เล่าว่าพระเจ้าท้ายสระทิวงคต มีจลาจลชิงอำนาจในอยุธยา ระหว่างพระมหาอุปราช (บรมโกศ) กับเจ้าฟ้าอภัย (และเจ้าฟ้าปรเมศร) เมื่อสู้ไม่ได้ เจ้า ฟ้าอภัยฯ รวบรวมของมีค่าจากในพระราชวังหนีลงเรือ ได้แก่ “พระแสงชื่อ—-ที่กำจัดภัย เป็นของตั้งแต่ครั้งพระยาแกรก” และของมีค่าอื่นๆ อีกมาก ส่วนพระแสงนี้มีบอกอีก ตอนหนึ่งว่าเป็น “พระแสงสำหรับพระนคร”
พระบรมโกศขึ้นเสวยราชย์ ให้กองเรือออกตามจับ ฝ่ายเจ้าฟ้าอภัยฯ เห็นจวนตัว “ให้ล่มเรือจมน้ำเสีย” “พระแสงก็จมอยู่ในน้ำกับเรือนั้น”
นับแต่นั้นพระแสงขรรค์ชัยศรีไม่มีกล่าวถึงอีกตลอดกระทั่งกรุงแตก •
| สุจิตต์ วงษ์เทศ
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022