มาแต่หัววันเลยทีเดียวกับยอดรถตัวแรงจากค่าย 4 ห่วง “อาวดี้”

ประเดิมต้น เปิดตัวเอสยูวีสปอร์ตตัวจัด “Audi RS Q8 performance”

ถือเป็นรุ่นเรือธงแห่งตระกูล RS ที่ได้รับการยกย่องให้เป็น The Most Powerful SUV

นอกจากความสวยโดดเด่นทั้งภายนอก-ภายในแล้ว ยังเป็นรถบ้านที่ได้ DNA จากสนามแข่งด้วย

การันตีจากการเป็นเอสยูวีที่เร็วที่สุดในสนาม Nurburgring สนามแข่งระดับตำนานด้วยเวลาเพียง 7.36.698 นาที

วันนี้ส่งมาถึงเมืองไทยให้จับจองกันแล้ว

ภายนอก ออกแบบให้มีความสปอร์ตดุดันและความหรูหรา

กระจังหน้า Single frame ขนาดใหญ่ สีดำเงาพร้อมลวดลายรังผึ้ง

กันชนหน้าแบบ RS พร้อมช่องดักอากาศขนาดใหญ่

ไฟหน้า HD Matrix LED ผสานกับไฟ Audi Laser light สว่างสุดสุด และไม่รบกวนสายตาเพื่อนร่วมถนน

ไฟท้าย Digital OLED มีระบบพกะพริบแจ้งเตือนรถคันหลัง หรือบุคคลเมื่อเข้ามาในระยะ 2 เมตร

ไฟหน้า-ท้ายปรับเปลี่ยนดีไซน์ได้ 5 รูปแบบ

กระจกมองข้างคาร์บอนไฟเบอร์

หลังคาลาดท้ายแบบ Coupe-Style ให้ลุคสปอร์ตและลู่ลมมากขึ้น

ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ถึง 23 นิ้ว ดีไซน์และสีพิเศษ Matt grey

หล่อขึ้นอีกขั้นด้วยคาลิปเปอร์เบรกสีน้ำเงินใหม่ มาตรฐานเฉพาะรถยนต์รุ่น RS Q8

มั่นใจมากขึ้นกับระบบเบรก RS Ceramics Brake ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับรถยนต์สมรรถนะสูง

จุดเด่นทนทานต่อความร้อน เสริมอายุการใช้งานที่ยาวนาน และน้ำหนักเบา

ฝาท้ายไฟฟ้า พร้อมระบบ Kick Sensor

เปิด-ปิดโดยใช้เท้าเตะใต้กันชนหลัง

ด้านในใช้สีดำตัดกับสีเงิน ดูสปอร์ตหรูมากขึ้นไปอีก

แดชบอร์ดตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ และอะลูมิเนียม

พวงมาลัย 3 ก้านท้ายตัดพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น และโลโก้ “RS” หุ้ม Alcantara พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift

เบาะทรงสปอร์ตหุ้มด้วยหนังพรีเมียม Valcona มีระบบอุ่นร้อน/ระบายอากาศ และฟังก์ชั่นนวดผ่อนคลายที่สามารถเลือกรูปแบบการนวดได้มากถึง 8 โปรแกรม

เป็นครั้งแรกในประเทศไทยกับการตกแต่งภายในด้วย Stitching สีน้ำเงิน

เบาะหลังแบบ 3 ที่นั่ง

ปรับเอนได้ พับแยก 40:20:40 เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ

เรือนไมล์ Audi Virtual Cockpit Plus ขนาด 12.3 นิ้ว แสดงข้อมูลแบบ RS Mode

ตรงกลางเป็นหน้าจอ Infotainment MMI Touch Response ขนาด 10.1 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto

ระบบเสียง Bang & Olufsen 3D Sound System

คอนโซลกลางและระบบควบคุม

เกียร์อัตโนมัติแบบ Electronic Shift

คันเกียร์ทรงสั้น

ที่วางแก้วน้ำและช่องเก็บของขนาดใหญ่

ระบบชาร์จมือถือไร้สาย USB-C 4 จุด ช่องชาร์จไฟ 12V

หลังคากระจก Panoramic Sunroof เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า

ระบบไฟ Ambient Light ปรับได้ 30 สี สร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร

ตกแต่งไฟ LED บริเวณแดชบอร์ด ประตู และพื้นที่วางเท้า

พื้นที่เก็บสัมภาระ ขนาด 605 ลิตร

ยิ่งเมื่อพับเบาะหลังเพิ่มความจุถึง 1,755 ลิตร

ขุมพลังระดับ Performance ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน V8 TFSI 4.0 ลิตร พร้อมระบบ Mild Hybrid Technology (MHEV) เทอร์โบชาร์จ

กำลังสูงสุด 640 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร

อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาเพียง 3.6 วินาที

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro เอกลักษณ์ของอาวดี้

มี 7 โหมดการขับขี่ประกอบด้วย Comfort, Auto, Dynamic, Efficiency, Off-Road และ RS1 / RS2

โดย 2 โหมดหลังผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับให้เข้ากับบุคลิกของตนอย่างเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น

ระบบช่วงล่างถุงลมปรับระดับได้ โดยเฉพาะเมื่อเข้าโหมดการขับขี่ Dynamic

ความสูงจะลดลง 40 ม.ม. เพื่อลดแรงเสียดทานและเพิ่มความหนักแน่นในย่านความเร็วสูง

หายห่วงกับเทคโนโลยีความปลอดภัยและระบบช่วยขับขี่ระดับสูง

โครงสร้างตัวถังแบบ Audi Space Frame (ASF) ที่แข็งแกร่งและลดน้ำหนักได้ดี

ส่วนระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง (ADAS – Advanced Driver Assistance Systems)

อาทิ

ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ปรับระยะห่างจากรถคันหน้า หยุด-ออกตัวอัตโนมัติ

ระบบตรวจจับวัตถุด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ

แจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งตัดขณะถอยหลัง

แจ้งเตือนเมื่อออกนอกเลน/ช่วยบังคับพวงมาลัยให้อยู่ในเลน

กล้องรอบคันมุมมอง 3D

ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว

ระบบกระจายแรงบิดแบบแปรผัน ช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนน ฯลฯ

“Audi RS Q8 quattro Performance” ราคา 13.59 ล้านบาท

แม้ภาพรวมและสมรรถนะถือว่าเดือดสุดสุดแล้ว

แต่อาวดี้ยังเอาใจสายเฉพาะทาง ด้วยแพ็กเกจ “Exclusive”

เปลี่ยน 12 เฉดสีให้เลือกในราคาเพิ่มอีก 600,000 บาท

หรือจะเลือกชุดแต่ง Carbon ราคา 650,000 บาท

ครอบคลุมชุดแต่งภายนอกรอบคันในลุค Matt Carbon ไม่ว่าจะเป็นช่องรับลมด้านหน้าขนาดใหญ่, สปอยเลอร์หน้า, กระจังหน้าแบบ Single-frame, กระจกมองข้างภายนอก และแผงด้านหลัง

หากใครหูเทพจัดๆ อาวดี้มีแพ็กเกจลำโพง Bang & Olufsen ระบบเสียง 3 มิติ ราคา 800,000 บาท

ประกอบด้วยลำโพงคุณภาพสูง 23 ตำแหน่ง ฝาครอบลำโพงทำจากอะลูมิเนียมและแม่เหล็กแรงสูงนีโอไดเมียม

ลำโพงกลางรวมถึงเลนส์อะคูสติกซ้ายขวาที่ตั้งบนคอนโซลด้านหน้า สามารถยกขึ้นอัตโนมัติ ทำงานควบคู่กับลำโพงบรอดแบรนด์ที่ติดตั้งเพิ่มบริเวณเสา A และหลังคารถยนต์ด้านหลัง

เพิ่มประสิทธิภาพเสียงที่มีรายละเอียดสูง คุณภาพเสียงคมชัดในรูปแบบ 3 มิติ กำลังขับรวม 1,920 วัตต์

พร้อมระบบตัดเสียงรบกวนขณะขับขี่และปรับระดับเสียงตามความเร็วอัตโนมัติ

ใครอยากหล่อเต็มสูตร จัดไปครับ •

ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต

[email protected]

สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj

— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022