The Astonishing Work of Tezuka Osamu ตอนที่ 2 หนังสั้นมากของโอซามุ

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

หนังการ์ตูนแนวทดลองของเท็ตซึกะ โอซามุ จำนวน 13 เรื่อง ความยาวตั้งแต่ 3 นาที ถึง 39 นาที ยกเว้นเรื่องที่ 13 คือ Selfportrait ความยาว 0.13 วินาที

โอซามุให้สัมภาษณ์ในส่วนสเปเชียลฟีเจอร์ที่แถมมาว่าเขาทำหนังพวกนี้เพราะไม่มีคนทำ เขาออกทุนทำเองเพราะอยากเห็นแนวทางใหม่ๆ ของการ์ตูนญี่ปุ่น เวลานั้นการ์ตูนทีวีญี่ปุ่นไปในทิศทางเดียวกัน ส่วนหนังใหญ่เป็นไซไฟแฟนตาซีเกือบทั้งหมดและไม่มีเป้าหมายในตลาดต่างประเทศ อีกทั้งเทศกาลการ์ตูนนานาชาติระดับโลกก็มีน้อย เขาจึงทำหนังการ์ตูนพวกนี้ขึ้นมา

ทั้งหมดเป็นการวาดภาพด้วยมือบนแผ่นเซลซึ่งยากกว่าการใช้ซีจีมาก แต่คนทำมีความสุขมากกว่าและภาพที่ได้มีชีวิตชีวามากกว่า

อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อว่าซีจีจะดีขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคตและเปลี่ยนอุตสาหกรรมการ์ตูนทั้งโลกแน่นอน

โอซามุสร้าง เจ้าหนูปรมาณู (Astro Boy) เมื่อปี 1963 และ สิงห์น้อยเจ้าป่า (Kimba the White Lion) เมื่อปี 1965

เขาพบวอลต์ ดิสนีย์เมื่อปี 1964 ว่ากันว่าดิสนีย์ต้องการสร้างเจ้าหนูปรมาณูของดิสนีย์เองบ้างแต่โครงการไม่เกิด

หลายปีต่อมาดิสนีย์สร้างอะไรคล้ายๆ สิงห์น้อยเจ้าป่าออกมา ว่ากันอีกว่า สแตนลี คูบริก ติดต่อโอซามุให้ช่วยกำกับศิลป์หนัง 2001 จอมจักรวาล (2001:A Space Odyssey) แต่โอซามุไม่ว่าง หนังของคูบริกออกฉายในปี 1968

หนังสั้น 13 เรื่องนี้สร้างระหว่างปี 1962-1988 ลำพังเรื่องแรก Tales of a Street Corner ปี 1962 (ซึ่งเล่าละเอียดในตอนที่แล้ว) สร้างขึ้นก่อนเจ้าหนูปรมาณูด้วยซ้ำ เราจึงเห็นความเป็นเอกเทศของหนังสั้นเรื่องแรกความยาว 39 นาทีนี้มาก

อย่างไรก็ตาม มีร่องรอยของดิสนีย์ในหนังชุดนี้พอสมควร อย่างเช่นตอนที่โปสเตอร์ของนายพลหนวดพาเหรดผ่านตรอกเข้าเมืองจะดูคล้ายฉากทหารไพ่เดินแถวใน อลิศในแดนมหัศจรรย์ (Alice in Wonderland) ปี 1951 ใครสร้างก่อนใคร

เรื่อง Pictures at an Exhibition ปี 1966 (ซึ่งเล่าละเอียดในตอนที่แล้ว) เล่าถึงบุคคลในกรอบรูปหลายคนด้วยลายเส้นหลากหลายสไตล์ ที่น่าสังเกตคือบุคคลที่สองถัดจากนักหนังสือพิมพ์จะเป็นชาวสวนประดิษฐ์ (the Gardener of the Official landscape)

ลายเส้นที่เห็นคล้ายคลึงกับเมืองก็อธแธมใน Batman : The Animated Series ปี 1992 ของบรู๊ซ ทิม มิใช่แค่ดอกไม้ที่ดูพลาสติก ภูมิทัศน์ที่เห็นทั้งหมดดูเป็นพลาสติกไปด้วย ใครสร้างก่อนใคร

เรื่อง Legend of the Forest ปี 1987 (ซึ่งเล่าละเอียดในตอนที่แล้ว) ดูจะได้รับอิทธิพลจากดิสนีย์มากที่สุดทั้งแบมบีและสโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระรอกหนุ่มสาวในเรื่องแทบจะเป็นพิมพ์เดียวกัน ส่วนเนื้อเรื่องนอกจากจะชวนให้นึกถึงเจ้าหญิงโมโนโนเกะ ปี 1997 แล้ว การ์ตูนอนุรักษ์อีกเรื่องที่ขาดมิได้คือ Fern Gully : The Last Rain Forrest ปี 1992 เรื่องสั้นขนาดยาวเรื่องนี้ใช้ดนตรีของซิมโฟนีหมายเลข 4 ของไชคอฟสกี้ตลอดทั้งเรื่อง

ใครสร้างก่อนใคร

หนังสั้นขนาดยาวทั้งสามเรื่องในวิดีโอชุดนี้จบลงด้วยสงครามทุกเรื่อง

ประวัติของโอซามุตามที่มีผู้เขียนไว้เขาต่อต้านสงครามตั้งแต่แรก

แล้วเขาก็ทำอีกในหนังสั้นแปลกประหลาดความยาว 6.22 นาทีเรื่อง Jumping ปี 1984 โอซามุให้สัมภาษณ์ว่าเขาทำหนังเรื่องนี้เพราะได้ไอเดียจากหนังการ์ตูนฮังการีเรื่องหนึ่งที่เล่าผ่านมุมมองของแมลงวัน

เขาอยากรู้ว่าคนที่กระโดดจะเห็นโลกเป็นอย่างไรบ้างจึงสั่งให้นักวาดวาดออกมาให้ดู โดยเริ่มจากการกระโดดบนถนนหน้าบ้านในความสูงระดับคนธรรมดาก่อนที่จะสูงขึ้นทุกที ไกลขึ้นทุกที สูงจนถึงระดับนกบิน ระดับเฮลิคอปเตอร์ ผ่านป่าและเมืองไปจนถึงสงครามแห่งหนึ่งกลางทะเลทราย

หนังเรื่อง Push ปี 1987 ความยาว 4.16 นาทีเริ่มเรื่องในทะเลทราย ชายคนหนึ่งดูทรุดโทรมขับรถเก่าซอมซ่อไปในทะเลทรายยุคดิสโทเปียเหมือนแมดแม็กซ์ ซึ่งออกฉายเมื่อปี 1979 แต่ชายคนนี้ยังดีกว่าแมดแม็กซ์ตรงที่ในทะเลทรายมีตู้กดน้ำดื่มอย่างที่เห็นในญี่ปุ่นโดยใช้ขวดน้ำเก่ามาแลก นอกจากนี้ ยังมีตู้กดรถคันใหม่โดยเอารถคันเก่าแลกเช่นกัน

หนังให้แมดแม็กซ์ผจญภัยไปจนพบพระผู้เป็นเจ้าที่ซึ่งเขาบอกพระผู้เป็นเจ้าว่าท่านสร้างโลกมาผิดแล้ว ขอเปลี่ยนเป็นโลกใบใหม่

พระผู้เป็นเจ้าก็จัดการให้ได้เป็นดวงจันทร์มาแทน

กลับไปทศวรรษที่ 60 The Genesis ปี 1968 หนังยาว 4.02 นาที ปะหน้าหนังว่ากำกับโดยจอห์น ฮูสตัน ซึ่งเป็นผู้กำกับหนังอีพิกยิ่งใหญ่ The Bible…In the Beginning ปี 1966 ฉายที่โรงหนังกรุงเกษม จังหวัดพระนคร ในชื่อไทยว่า พิภพเนรมิต ผู้เขียนดูตั้งแต่ครั้งพอจำความได้

โอซามุเริ่มต้นด้วยเรื่องเล่าพระเจ้าสร้างโลกเสร็จในหกวันแล้วสร้างมนุษย์ในวันที่เจ็ด หนังออกจะผิดสังเกตตั้งแต่วันที่สร้างสรรพสัตว์แล้วว่าไม่เหมือนสัตว์ตัวไหนบนโลกที่เรารู้จักเลย

จนวันที่เจ็ดจึงรู้เรื่องเพราะพระเจ้าสร้างผู้หญิงก่อนและที่สร้างขึ้นมาก็มิใช่มนุษย์แต่เป็นเอเลียนเพศหญิง จากนั้นพระเจ้าจึงดึงเต้านมของเอเลียนเพศหญิงออกมาสร้างเอเลียนเพศชาย เหตุเพราะเพศชายถูกสร้างจากเต้านมนี้เองเพศชายจึงถูกดูดแรงงานไปใช้ตลอดเวลาจนกระทั่งวันหนึ่งเพศชายทนไม่ไหวไปแอบกินแอปเปิลในสวนอีเดนแล้วขอให้พระเจ้าสร้างโลกใหม่ จึงได้โลกที่ชายเป็นใหญ่แบบทุกวันนี้

เรื่องนี้ข้ามไปไม่วิจารณ์ มีดีอยู่ตอนหนึ่งที่ได้เห็นเจ้าหนูปรมาณูบินผ่านไปแว็บๆ

หลังจากล้อเลียนจอห์น ฮูสตันแล้วโอซามุล้อเลียนหนังเก่าที่เขียนปะหน้าว่าสร้างปี 1888 คือ Broken Down Film ปี 1985 เป็นแอนิเมชั่นขาวดำที่ฝนตกตลอดเวลาเพราะความเก่า ทำเอาพระเอกของเราทนไม่ได้ต้องกางร่มกันฝนฟิล์มเก่าให้นางเอกในตอนจบ เป็นหนังคาวบอยสู้กันบนหลังม้า

แต่เพราะฟิล์มเลื่อนขึ้นลงอยู่เนืองๆ พระเอกของเราจึงฉวยความได้เปรียบด้วยการกระโดดข้ามเฟรมเล่นงานขาหรือหัวตัวร้ายสบายๆ

มาดูหนังซามูไรกันบ้าง Muramasa ปี 1987 เป็นหนังสีไม่มีบทพูด ความยาว 8.42 นาที ซามูไรคนหนึ่งเดินไปพบดาบซามูไรปักหน้าอกหุ่นฟางในชุดซามูไรนั่งพิงต้นไม้ใหญ่ในป่า มันชักดาบนั้นออกมาเก็บไว้หลังจากนั้นมันเห็นหุ่นฟางอาวุธครบมือดาหน้าเข้ามาท้าดวลอยู่เสมอ มันชักดาบเล่มนั้นฆ่าหุ่นฟางไปเรื่อยๆ โดยหารู้ไม่ว่าทั้งหมดนั้นเป็นคนจริงๆ

จนกระทั่งวันหนึ่งศพหุ่นฟางคืนร่างเป็นพระซามูไรนั้นจึงค่อยๆ กลายร่างเป็นหุ่นฟาง มันใช้ดาบแทงตัวเองตายก่อนที่ร่างจะกลายเป็นหุ่นฟางหมดทั้งตัว ไม่นานนักซามูไรอีกคนหนึ่งจึงเดินมาถึง

เป็นหนังสั้นที่ลุ่มลึกใช้ได้เลย

ตามประวัติโอซามุเป็นคนทำงานตลอดเวลา เขาหยุดวาดเมื่อจะกินหรือนอนเท่านั้น

ไม่มีใครรู้แน่นอนว่าเขายังมีงานดีๆ ที่ไม่ได้นำออกเผยแพร่อีกเท่าไร

ช่วงนี้อะเมซอนวางมังงะและอะนิเมะหายากของเขาออกมาเรื่อยๆ ตามอ่านตามดูกันไม่ทันเลยทีเดียว เรตอาร์ก็มี •

 

การ์ตูนที่รัก | นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์