คอลัมน์ประจำ

‘บูม’ กษิดิศ สำเร็จ นักเทนนิสไทยผู้เข้าสู่แกรนด์สแลม ในรอบ 13 ปี

ที่มามติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 7 - 13 กุมภาพันธ์ 2568
คอลัมน์รายงานพิเศษ
เผยแพร่

รายงานพิเศษ | มงคล วัชรางค์กุล

 

‘บูม’ กษิดิศ สำเร็จ

นักเทนนิสไทยผู้เข้าสู่แกรนด์สแลม

ในรอบ 13 ปี

 

ผมเขียนถึงเทนนิสแกรนด์สแลมมาต่อเนื่องนานกว่า 10 ปี ส่งกลับมาเมืองไทย

ด้วยวัตถุประสงค์เดียวเพื่อจุดประกายไฟให้เด็กไทยมีความหวังในการเข้าร่วมแข่งแกรนด์สแลม

วันนี้ ความหวังของผมเป็นจริงแล้ว เพราะในการแข่งขัน Australian Open 2025 สิ้นสุดลงเมื่อ 26 มกราคม 2568 มีเด็กหนุ่มไทยคนหนี่งผ่านการแข่งขันในรอบ Wild Card เข้ามาแข่งรอบ Main Draw

เขาคือ “บูม” กษิดิศ สำเร็จ

 

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจว่า แกรนด์สแลม คือการแข่งขันเทนนิสระดับสูงสุด เป็น Major ของโลก มี 4 รายการคือ

1. Australian Open แข่งที่เมือง Melbourne ออสเตรเลีย ทุกเดือนมกราคม แข่งบน Hard Court

2. Roland – Garros หรือ French Open แข่งที่ Paris ฝรั่งเศส ทุกเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน แข่งบน Clay Court

3. Wimbledon แข่งที่ลอนดอน อังกฤษ ทุกเดือนกรกฎาคม แข่งบนคอร์ตหญ้า

4. U.S. Open แข่งที่นิวยอร์ก สหรัฐ ทุกปลายเดือนสิงหาคม-กันยายน แข่งบน Hard Court

Australian Open 2025 เปิดสนามเมื่อ 11 มกราคม มาสิ้นสุดรอบชิงชนะเลิศชายเดี่ยว 26 มกราคม 2025

วันที่ทำให้หัวใจผมพองโตคือ 14 มกราคม 2025 เมื่อได้ดูการถ่ายทอดสดชายเดี่ยวรอบแรก ระหว่าง Daniil Medvedev จากรัสเซีย มืออันดับ 5 ของโลก กับ Kasidit Samrej เด็กหนุ่มไทย มืออันดับ 418 ของโลก ที่ผ่านจากรอบคัดเลือก Wild Card เข้ามาเล่นรอบ Main Draw

ผู้บรรยายเรียกชื่อ Last name ว่า “สำเร็จ” และผมขอเรียกตาม ในเอกสารเผยแพร่ของ AO (Australian Open) เล่าว่า สำเร็จคือนักแข่งชาวไทยที่เข้าสู่เมเจอร์หลังจาก 13 ปีของภราดร ศรีชาพันธุ์ และดนัย อุดมโชค

Medvedev คืออดีตแชมป์ U.S. Open 2021 และรองแชมป์ AO ปีที่แล้ว

ดังนั้น การเจอกันของคู่นี้คือความห่างชั้นที่ไม่มีอะไรจะเปรียบเทียบ

แต่สิ่งที่ได้เห็นในวันนั้น คือความตื่นตา ตื่นใจ ประหลาดใจจนหัวใจพองโตที่สุด

เพราะสิ่งที่เหลือเชื่อที่เกิดขึ้นคือ ถึงแม้ Medvedev จะชนะในเซ็ตแรกด้วยสกอร์ 6 : 2 แต่ในเซ็ตที่ 2 และเซ็ตที่ 3 กลับมาพ่ายให้สำเร็จ 2 เซ็ตติดต่อกันแบบขาดลอย 4 : 6, 3 : 6

ใน 2 เซ็ตนี้ มีบางลูกที่สำเร็จโต้แรลลี่ได้อย่างน่าดู และทำแต้มได้ ขนาดที่ Medvedev ยกหัวแม่โป้งให้ – นายแน่มาก

มีอยู่ลูกหนึ่งที่แรลลี่กันแล้ว Medvedev ตีไม่ข้ามเน็ต เขาเอาแร็กเก็ตฟาดเน็ตด้วยความหัวเสีย กล้องจับโคลสให้ดูการฟาดเน็ตจนอุปกรณ์ที่ติดอยู่ที่เน็ตพัง โดนปรับไปหลายเงิน

ทั้งหมดนี้คือเรื่องเหลือเชื่อที่เด็กหนุ่มไทยอายุ 23 ปี มือไร้อันดับกำลังจะโค่นอดีตแชมป์ U.S. Open เพราะถ้าสำเร็จทำได้อีกเซ็ตเดียวก็ชนะแล้ว

อย่างไรก็ตาม Medvedev มาเอาชนะได้ในเซ็ตที่ 4 ที่ 6 : 1

ต้องตัดสินกันในเซ็ตที่ 5 แล้ว Medvedev อาศัยความเก๋า เอาชนะไปได้ 6 : 2

 

สําเร็จมาโพส์ตภายหลังว่า เขาเริ่มมีอาการเป็นตะคริวที่ขาซ้ายตั้งแต่เซ็ตที่ 4 พยายามประคอง หวังว่าจะหายในเซ็ตที่ 5 แต่ก็ไม่ดีขึ้น จึงพ่ายไปในที่สุด

นั่นคือประสบการณ์และความแข็งแกร่งในสนามแข่งที่สำเร็จยังมีไม่มากพอ ต้องอาศัยเวลาและการฝีกซ้อม พร้อมการลงแข่งขันอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ร่างกายก้าวข้ามสิ่งนี้ไปได้ ต้องยืน, วิ่งห้าแมตช์ให้ได้ บางคู่ใน U.S. Open แข่งกันนานถึง 5 ชั่วโมง เริ่ม 4 ทุ่มไปปิดแมตช์ตี 3 ต้องยืนระยะให้ได้ขนาดนั้น

จึงจะเป็นแชมป์แกรนด์สแลมได้

เพิ่มเติมอีกอย่าง คือต้องออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกายให้แข็งแกร่ง Sabalenka แชมป์หญิงเดี่ยว AO 2 สมัย และแชมป์ U.S. Open ออกกำลังกายด้วยการเล่น “ยูยิสู”

 

แข่งเสร็จ Medvedev พูดบนคอร์ตถึงสำเร็จว่า

“I was surprised – ผมแปลกใจมาก” “แทนที่จะแข่งแค่ชั่วโมงครึ่งก็ต้องมาแข่ง 3 ชั่วโมง”

แข่งจริง 3 ชั่วโมง 8 นาที

Medvedev ยังพูดถึงสำเร็จอีกว่า

“ฝีมือระดับนี้ ถ้าฝึกซ้อมให้มั่นคง จะได้ทุกอย่าง money, girl, casino”

ตอนไปนั่งโต๊ะให้สัมภาษณ์ Press Conference คนสัมภาษณ์ถาม Medvedev ว่า ทำไมในสนามถึงพูดอย่างนี้ – money, girl, casino เขาตอบว่า ในสนามตอนนั้นนึกอะไรได้ก็พูดออกไป

เขาเสริมอีกว่า แม้แต่โค้ชของเขาก็ไม่รู้ว่า สำเร็จคือใคร ฝีมือระดับไหน

หลังแข่ง สื่อพาดหัวว่า Medvedev ต้องใช้ระยะทางยาวไกลสู่รอบ 2 “long road to round 2” นี่เป็นครั้งที่ 4 ที่ Medvedev ต้องแข่ง 5 เซ็ตใน AO แถมต้องแข่งกับมือไร้อันดับอีกด้วย

รวมถึงเรื่อง “หัวเสีย” (upset) ของ Medvedev ที่กล้องจับให้เห็นว่าฟาดแร็กเก็ตกับเน็ตจนไม้บิด ทำให้กล้องถ่ายภาพที่ติดไว้ที่เน็ตเสียหาย ต้องชดใช้ สื่อรายงานพร้อมให้ความเห็นว่า นี่เป็นการอัพเซ็ตครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของนักเทนนิสมือใหญ่

 

ส่องประวัติ กษิดิศ สำเร็จ ปัจจุบันอายุ 24 ปี สูง 191 ซ.ม. มือ 1 ของไทย จบปริญญาตรีมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสมุทรสาคร

กษิดิศ สำเร็จ เคยมีชื่อติดทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกขณะอายุ 17 ปี ชุดทำศึกเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 18 ที่อินโดนีเซีย และซีเกมส์ครั้งที่ 30 ที่ฟิลิปปินส์ และร่วมทีมเดวิส คัพ

กษิดิศ สำเร็จ ได้ไวลด์การ์ดเข้าไปเล่นรอบเมนดอร์ AO 2025 จากรายการ Australian Open Asia-Pacific Wildcard Play-off 2025 ที่เมืองเฉินตู มณฑลเสฉวน จีน โดยชนะเลิศรายการนี้

สิ่งที่ยอดเยี่ยมคือ กษิดิศ สำเร็จ มีโอกาสเป็นคู่ซ้อมเทนนิสให้ Djokovic ที่ภูเก็ต ช่วงก่อนปีใหม่เมื่อ Djokovic และทีมงานเดินทางมาฟิตซ้อมเตรียมตัวสำหรับฤดูกาลใหม่ ในขณะที่ขณะนั้นกษิดิศ สำเร็จ ได้รับเลือกเข้าเล่นเมนดอร์ AO แล้ว

หนึ่งสัปดาห์ที่กษิดิศ สำเร็จ มีโอกาสเป็นคู่ซ้อมให้ Djokovic และได้รับคำแนะนำต่างๆ ถือเป็นประสบการณ์ล้ำค่า

ตลอดเวลากว่า 10 ปีที่ติดตามแกรนด์สแลมมา ขอบอกว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ Swiatek มีอหนึ่งหญิงของโลกเคยแพ้มือไวล์การ์ดตกรอบ 3, มือ No name เคยขึ้นมาเป็นแชมป์หญิงเดี่ยว Wimbledon

ดังนั้น สำหรับ “กษิดิศ สำเร็จ” คุณได้ย่างเท้าก้าวแรกบนเส้นทางแห่งความสำเร็จแล้ว การทำได้ 2 เซ็ตเหนืออดีตแชมป์ U.S. Open ในแกรนด์สแลมครั้งแรก บ่งบอกว่าไม่ธรรมดา อายุยังน้อย จะก้าวไปได้อีกไกล ขอให้ฝึกซ้อมให้หนัก แข่งขันหาประสบการณ์และความแข็งแกร่งให้มากเข้าไว้ ถ้าได้เข้ารอบลึกแกรนด์สแลม หาโค้ชเก่งๆ มาช่วยเสริม (โค้ชคนไทยอย่างเดียวไม่มีวันส่งถึงดวงดาว)

ข้อสำคัญอย่าเครียดกับการแข่งขัน ทุกครั้งทำใจให้สบาย นึกแค่ว่า กำลังเล่นเทนนิส (Just play tennis)

ผมจะเตรียมธงชาติผืนใหญ่ไปเชียร์กษิดิศ สำเร็จ ที่ U.S. Open ปลายปีนี้

“กษิดิศ สำเร็จ” มาให้ถึงนิวยอร์กนะ