ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 31 มกราคม - 6 กุมภาพันธ์ 2568 |
---|---|
เผยแพร่ |
บทความในประเทศ
‘บิ๊กป้อม’ ตั้งหลัก โชว์บทบาท ‘ฝ่ายค้าน’
ระดมค้าน ‘กาสิโน’ เต็มที่
รุกกลับเพื่อไทย-ทักษิณ
นับตั้งแต่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ภายใต้การนำทัพของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ถูกพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล ตัดสินใจปิดสวิตช์ตระกูล “วงษ์สุวรรณ” ด้วยการขับพ้นจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ให้ไปเป็นพรรคการเมืองฝ่ายค้าน และดึงพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เข้ามาเสริมทัพรัฐบาลแทน
ประกอบกับปัญหาความขัดแย้งและรอยร้าวที่เกิดขึ้นภายในพรรค จนทำให้ ส.ส.ต้องแบ่งฝั่งออกเป็น 2 กลุ่ม ระหว่างกลุ่มที่ยังคงสนับสนุนและยืนอยู่ข้าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กับกลุ่มก๊วนของผู้กอง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ที่มีท่าทีแสดงออกอย่างชัดเจนว่าสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
จนกระทั่งท้ายที่สุด เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2567 พรรค พปชร.ได้มีมติขับ 20 ส.ส.ก๊วนของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกจากพรรค พปชร. โดยให้เหตุผลว่า แนวคิดและอุดมการณ์ทางการเมืองแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับแนวคิดและอุดมการณ์ทางการเมืองของคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ
พร้อมยืนยันหนักแน่นว่าการตัดสินใจขับ 20 ส.ส.ออกจากพรรคนั้น ไม่มีเงื่อนไขเพื่อต่อรองแลกเปลี่ยนผลประโยชน์อะไรทั้งสิ้น
บทบาทของพรรค พปชร. ที่ต้องขยับมาเป็นพรรคการเมืองฝ่ายค้านนั้น ได้พยายามพิสูจน์ตนเองด้วยการเดินหน้าตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างเต็มที่และเข้มข้น ลงพื้นที่รับฟังปัญหาความเดือดร้อนจากประชาชน
รวมทั้งการตั้งศูนย์นโยบายและวิชาการพรรคพลังประชารัฐ เพื่อทำหน้าที่สนับสนุนและตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพ
คัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญไม่ว่ารายมาตราหรือทั้งฉบับ รวมถึงคัดค้านการลดมาตรฐานจริยธรรมนักการเมือง การคัดค้านการแก้ไขประมวลกฎหมาย มาตรา 112 ทุกมิติ รวมทั้งการคัดค้าน MOU44 ที่มีความเสี่ยงจะทำให้เสียดินแดน เสี่ยงเสียอธิปไตยของชาติ และเสี่ยงเสียทรัพยากรธรรมชาติอันเป็นของประชาชน
กระทั่งล่าสุด คัดค้านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ…. หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยกเหตุผล 3 ด้าน คือ สังคม เศรษฐกิจ และธรรมาภิบาล ด้านสังคม เห็นว่าจะนำไปสู่ปัญหาการติดการพนันอย่างกว้างขวาง นำไปสู่ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่รุนแรงหนักหน่วงขึ้น
ด้านเศรษฐกิจ ผลประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวมีน้อยเพราะจุดขายการท่องเที่ยวของไทยอยู่ที่วัฒนธรรม อาหาร สถานที่ท่องเที่ยวเป็นหลัก ส่วนการจ้างงานจะไม่มา และจะนำไปสู่จุดอ่อนในแง่ธรรมาภิบาลที่สังคมไทยมีอยู่ จุดอ่อนเหล่านี้จะนำไปสู่ปัญหาการฟอกเงิน
โดยวันที่ 5 กุมภาพันธ์ คณะกรรมการบริหารพรรค คณะทำงานนโยบายและยุทธศาสตร์พรรค และ ส.ส. จะแถลงข่าวคัดค้านการเปิดกาสิโนเสรีตามนโยบายของรัฐบาลอย่างจริงจังด้วย
ขณะนี้พรรค พปชร.พยายามโชว์บทบาทพรรคฝ่ายค้านเต็มที่ และในแง่มุมทางการเมือง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ก็พยายามดำรงความมีบารมีและทรงอิทธิพลต่อการเมืองไทย
โดยเมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา พรรค พปชร.ได้จัดงานสัมมนา ประจำปี 2568 ภายใต้หัวข้อ “Now & Next พรรคพลังประชารัฐ” โดยมีกรรมการบริหารพรรค ส.ส. และสมาชิกพรรค เข้าร่วมกันอย่างพร้อมเพรียง
ช่วงหนึ่งของการเปิดงานสัมมนา พล.อ.ประวิตรได้ระบุว่า ห้วงปีที่ผ่านมาเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าการเมืองของประเทศเราได้กลับไปสู่ระบบเดิมๆ คือการเมืองที่ไม่สร้างสรรค์ ทำลายกันเพื่อผลประโยชน์ ขาดคุณธรรมจริยธรรม ไม่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง พรรค พปชร.ของเราแม้จะตกเป็นเป้าทางการเมืองเสมอมา แต่ขอยืนยันด้วยตัวเองว่า พรรคยังคงเดินไปข้างหน้าอย่างสร้างสรรค์และมั่นคง เรามี ส.ส. 19 คนกระจายทั่วทุกภูมิภาค มีบุคลากรทางการเมืองที่มีความรู้ความสามารถ และมีประสบการณ์ในการบริหารประเทศ รวมถึงมีอดีตรัฐมนตรี ส.ส. และ ส.ว. ที่มีฝีมือและผลงานมากมาย
“พรรค พปชร.มีความพร้อมและแนวทางที่ชัดเจน ในการยึดมั่นพิทักษ์รักษาสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ ดังนั้น การสัมมนาในครั้งนี้เป็นการแสดงจุดยืนในการทำงานการเมืองด้วยหัวใจที่มุ่งมั่น สร้างอนาคตที่ดีให้กับประเทศและประชาชน ยืนยันว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อให้ประเทศพัฒนาเจริญรุ่งเรือง ประชาชนอยู่ดีกินดี มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นถาวรสืบไป และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังสามารถ เพื่อให้ความรักและสามัคคีเป็นหนึ่งเดียว พร้อมเดินหน้าอย่างมั่นคงเพื่อประเทศและประชาชนต่อไป” พล.อ.ประวิตรระบุ
เมื่อ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ออกมาระบุว่าเป็นเป้าทางการเมือง สื่อจึงได้สอบถามประเด็นดังกล่าวกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระหว่างลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) โดยนายทักษิณระบุว่า “การเมืองที่มันยุ่งทุกวันนี้ เพราะอะไร ถามว่าปฏิวัติทำไม ให้กลไกมันลงตัวของมันเองดีกว่า ในเมื่อปฏิวัติแล้วเขียนกฎหมายไป ก็ติดรูปผมไปด้วย ทำอย่างไรจะต่อต้านผมได้ กฎหมายไม่ได้ทำเพื่อส่วนรวม มันเพื่อรักษาอำนาจ เลยออกมาเป็นเช่นนี้ ซึ่งเราก็ต้องรับสภาพและปรับปรุงแก้ไขไปตามสภาพ”
“ผมว่าเขาโดนน้อยที่สุด ต้องโดนอย่างผมแล้วจะรู้ ความจริงแล้วการเมืองยังให้เกียรติ เกรงใจแก เป็นผู้ใหญ่ ผมเองเป็นผู้ใหญ่กว่าแกแต่อายุน้อยกว่าหน่อย ยังโดนหนักเลย” นายทักษิณระบุ
ขณะที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตอบคำถามกรณีถูกนายทักษิณ ชินวัตร พาดพิงฝากคำถามถึงว่าการเมืองยุ่งทุกวันนี้เพราะอะไรว่า “ผมไม่ได้ทำอะไรผิด”
ส่วนประเด็นเรื่องใครทำรัฐประหารนั้น พล.อ.ประวิตรย้อนถามว่า “แล้วใครเล่า”
งานนี้จึงเปรียบเสมือนรุ่นใหญ่ที่มีบารมีทางการเมืองสูง เปิดหน้าแลกหมัดใส่กัน อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้คงต้องจับตาดูว่าบทบาทของพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นช่วงเดือนมีนาคมนี้ พรรคพลังประชารัฐ ภายใต้การนำทัพของ “บิ๊กป้อม” จะมีข้อมูลหรือหมัดเด็ดอะไร มาซักฟอกและเขย่ารัฐบาลได้หรือไม่
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022