ปราบ ‘แก๊งคอลฯ’ วาระแห่งชาติ ตำรวจไทยร่วมมือทางการจีน ภ.2 เปิดยุทธการอรัญฯ 68 ซีลชายแดน

บทความโล่เงิน

 

ปราบ ‘แก๊งคอลฯ’ วาระแห่งชาติ

ตำรวจไทยร่วมมือทางการจีน

ภ.2 เปิดยุทธการอรัญฯ 68 ซีลชายแดน

 

ทุกเวทีหาเสียงนายก อบจ.ที่นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ช่วยหาเสียงจากพรรคเพื่อไทยขึ้นปราศรัย

ได้ให้คำมั่นสัญญา จะจัดการ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ให้หมดไปในปี 2568

หลังจากนั้นได้เห็นมรรค-ผลอย่างเป็นรูปธรรม

“รัฐบาลแพทองธาร” ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหานี้

ชูเป็น 1 ในวาระแห่งชาติ ต้องปราบปรามให้หมดไป ควบคู่กับปัญหายาเสพติด

หลังจากคนไทยข่มตาไม่หลับจากความหวาดระแวงเวลามีเบอร์แปลกๆ โทร.เข้ามา

แต่ละปีมีผู้ตกเป็นเหยื่อสูญเสียเงินทองนับแสนล้านบาท บางคนถึงกับสิ้นเนื้อประดาตัว

ต่อมาที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 28 มกราคม ได้ไฟเขียว พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

นายหลิว จงอี้ รมช.ความมั่นคงสาธารณะจีน หารือ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช.

สาระสำคัญ 5 ประเด็น คือ 1. กำหนดความรับผิดชอบร่วมของสถาบันการเงิน เครือข่ายมือถือ และสื่อสังคมออนไลน์ กำหนดให้ผู้ให้บริการต้องมีส่วนรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น

2. กำหนดหน้าที่ของผู้ให้บริการโทรคมนาคม ต้องมีหน้าที่ระงับการใช้งานซิมการ์ดที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทันที

3. เร่งรัดกระบวนการคืนเงินให้ผู้เสียหาย เพิ่มหน้าที่ให้ธนาคารต้องส่งข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีที่มีความเชื่อมโยงกับการกระทำความผิดไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ให้ตรวจสอบและคืนเงินผู้เสียหายโดยเร็ว อาจคืนได้ทันทีถ้าข้อมูลยืนยันครบถ้วน

4. เพิ่มอำนาจดำเนินการแพลตฟอร์มให้ต้องร่วมรับผิดชอบ ป้องกัน และตรวจสอบการกระทำความผิดที่เกิดขึ้นในระบบของตน

และ 5. เพิ่มบทลงโทษสำหรับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของ

กฎหมายฉบับนี้กำหนดโทษเพิ่มเติม 2 ลักษณะ ถ้าไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล คือ เปิดเผยแบบส่งต่อ และเปิดเผยแบบขายข้อมูล โทษจะหนักเบาต่างกัน

โทษสูงสุดปรับ 5 ล้านบาทต่อหนึ่งกระทง ส่วนโทษจำคุก 5 ปี

วัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งในการป้องกัน และปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ลดความเสียหายให้ประชาชน

เพราะฉะนั้นจะเห็นว่า บทบัญญัติกฎหมายได้กำหนดบทลงโทษหนัก ทั้งปรับ-จำคุก ส่วนแบงก์ ค่ายมือถือ สื่อสังคมออนไลน์ ต้องร่วมรับผิดชอบ

คณะนายหลิว จงอี้ ประชุมร่วมทีม พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท.

นอกจากนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 5-8 กุมภาพันธ์ เพื่อหารือนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ในการแก้ไขปัญหาภัยไซเบอร์ด้วย

นายกฯ ไทยระบุว่า ทางการจีนอยากได้รับความร่วมมือจากไทย

ยิ่งทำให้เพิ่มความเชื่อมั่นใจว่าภัยไซเบอร์ที่คนไทยประสบอยู่จะได้รับการแก้ไขถึงต้นตอ

เพราะเพื่อนบ้านรอบๆ ไทยเปิดให้คนจีนเทาเข้าไปตั้งฐาน เพื่อหลอกลวงคนไทย ซึ่งเป็นต้นตอปัญหา

ขณะนี้ นายหลิว จงอี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน อยู่ระหว่างเยือนไทย

ล่าสุด ได้หารือ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ

ทั้งทางการไทยและจีนร่วมกันจะยกระดับความร่วมมือระหว่างกันในการปราบปรามอาชญากรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา

ทั้งมิติการป้องกัน การปราบปราม จับกุม การส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน

โดยในส่วนคดีหลอกลวงนายหวัง ซิง นักแสดงชาวจีน ได้ติดตามจับกุม 30 ผู้ต้องหาที่ทางการจีนออกหมายจับ ขณะนี้จับกุมได้แล้ว 20 คน

การช่วยเหลือบุคคลสูญหายหรือถูกกักไว้โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียวดี

และการตัดระบบสาธารณูปโภคต่างๆ เช่น น้ำ ไฟ สัญญาณอินเตอร์เน็ต รวมทั้งการเสริมสร้างกลไกความร่วมมือ การบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ก่อนหน้านี้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ได้ให้การต้อนรับนายหลิว จงอี้

โดยกระทรวงความมั่นคงของจีนมีความยินดีร่วมมือกับตำรวจไทย

เตรียมจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีเจ้าหน้าที่สืบสวนจากทั้งสองฝ่ายทำงานร่วมกัน เสริมประสิทธิภาพในการจับกุมคนร้าย

ทั่วโลกเกือบทุกประเทศขณะนี้ ได้รับผลกระทบจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์

สถิติเสียหายกว่า 10 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว

พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.ภ.2 นำแถลงทลายแก๊งคอลฯ “บอสจีน”

ขณะเดียวกัน ชายแดนด้านตะวันออก พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.ภ.2 ขานรับนโยบาย ทลายเครือข่ายบอสจีน องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติขนาดใหญ่ ออกหมายจับ 33 ราย จับได้แล้ว 20 ราย เริ่มจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทักแชตไลน์ตีสนิทเศรษฐินีระยอง ล่อลวงเหยื่อสูญเงินเกือบ 60 ล้านบาท

ต่อมาตำรวจสืบภาค 2 สืบสวนขยายผลพบขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ “บอสจีน” ได้หลอกลวงออนไลน์ มี 2 ออฟฟิศ คือ 1. “ออฟฟิศหลอกลวง” ตั้งอยู่ฝั่งปอยเปตเป็นตึกปิดตาย อาทิ ตึก 25 ชั้น, ตึก 18 ชั้น และตึก Hiso

2. “ออฟฟิศสแกนหน้า” ที่อยู่ด้านในตึก ทำหน้าที่บริหารบัญชีม้า จัดหาบัญชีม้า เปิดบัญชีคริปโตเคอร์เรนซี รับโอนเงินจากการหลอกลวง โอนเงินจากบัญชีม้าแปลงเป็นเหรียญดิจิทัล

พบเหยื่อแจ้งความออนไลน์แล้ว 1,009 ราย อายัดเงินคืนได้เบื้องต้นมากกว่า 3 ล้านบาท

พร้อมทั้งได้ปฏิบัติการตามแผนอรัญฯ 68 SEAL BORDER เพื่อสกัดกั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามแนวชายแดน โดย บก.สส.ภ.2 ส่งชุดปฏิบัติการพิเศษบูรพา 491 และชุดสืบสวนลงไปอยู่ในพื้นที่สระแก้ว ติดกับประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นฐานปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยให้อยู่ประสานงานร่วมมือกับทุกภาคส่วน ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ตรวจค้นบุคคลและยานพาหนะต้องสงสัย ตรวจค้นบ้านของผู้มีพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับนำพาคนข้ามแดน สืบสวนสอบสวนขยายผลทุกกรณี

ถ้าการบังคับใช้กฎหมายที่เสมือนยาแรงนี้ได้ผลจริง และตำรวจไม่ใส่เกียร์ว่าง เชื่อว่าความอกสั่นขวัญแขวนของประชาชนจากลิงก์และเบอร์โทร.แปลกๆ จะหมดไป