เปิดรายงาน ‘เจจูแอร์’ ดีเอ็นเอเป็ดในเครื่องยนต์

FILE - The wreckage of a Boeing 737-800 plane operated by South Korean budget airline Jeju Air lies at Muan International Airport in Muan, South Korea, on Dec. 31, 2024. (AP Photo/Ahn Young-joon, File)

บทความต่างประเทศ

 

เปิดรายงาน ‘เจจูแอร์’

ดีเอ็นเอเป็ดในเครื่องยนต์

 

ยังคงต้องไขปริศนากันต่อไป สำหรับต้นตอที่แท้จริง สำหรับอุบัติเหตุเครื่องบินโดยสารของสายการบินเจจูแอร์ ของเกาหลีใต้ ประสบเหตุลงจอดแบบล้อไม่กาง จนเครื่องบินไถลออกนอกรันเวย์ จนพุ่งชนเข้ากับกำแพงของสนามบินมูอัน เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2567 ทำให้คนบนเครื่องเสียชีวิตถึง 170 ราย และรอดมาได้เพียง 2 คนเท่านั้น โดยเครื่องบินลำนี้บินออกจากสนามบินสุวรรณภูมิของไทย และในจำนวนผู้เสียชีวิต เป็นคนไทย 2 คน

ทางการเกาหลีใต้เองพยายามหาต้นตอของสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินเกิดอุบัติเหตุขึ้น แม้จะพบกล่องดำทั้งสองกล่องของเครื่องบินแล้ว แต่กลับพบว่า ข้อมูลในช่วง 4 นาทีสุดท้ายก่อนเครื่องบินชนกำแพง กลับหายไป

ทำให้ต้องติดตามหาข้อมูลกันต่อไปว่า เกิดอะไรขึ้นกับเครื่องบินลำนี้กันแน่ ทั้งข้อมูลจากกล่องดำเท่าที่พอจะหามาได้ และข้อมูลจากแหล่งอื่นๆ

ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคมเกาหลีใต้ ได้เปิดเผยว่า รายงานการกู้ข้อมูลของกล่องดำของเครื่องบินลำดังกล่าว ทั้งกล่องบันทึกเสียงในห้องนักบินและกล่องบันทึกข้อมูลการบิน พบว่า ทั้งสองกล่องได้หยุดบันทึกข้อมูลหลังจากมีสัญญาณเตือนการพุ่งชนนกเพียง 1 นาทีเท่านั้น และน่าจะเป็นเหตุทำให้แหล่งจ่ายพลังงานของเครื่องบินถูกตัดทันที ทำให้การบันทึกข้อมูลของกล่องดำทั้งสองหยุดลง

นอกจากนี้ ยังมีการตรวจพบขนนก และคราบเลือดของนก ติดอยู่ในเครื่องยนต์ทั้งสองของเครื่องบินอีกด้วย

 

คณะกรรมการสอบสวนของกระทรวงคมนาคมเกาหลีใต้ ระบุว่า จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า ในตอนเกิดเหตุ เครื่องบินพยายามจะบินวนกลับเมื่อชนฝูงนก และเครื่องบินได้ติดต่อกับหอควบคุมการจราจรทางอากาศเป็นครั้งแรก เมื่อเวลา 08.54.43 น. ขณะที่กำลังเข้าใกล้จุดลงจอด หอควบคุมอนุญาตให้ลงจอดบนรันเวย์ 01 ในทิศทางตรงข้ามกับรันเวย์ที่เกิดอุบัติเหตุ

ต่อมาในเวลา 08.57.50 หอควบคุมได้ออกคำเตือนถึงเครื่องบินที่อาจเกิดการชนนก

และในเวลา 08.58.11 น. กัปตันและเจ้าหน้าที่คนแรกได้พูดคุยกันถึงฝูงนกที่บินอยู่ด้านล่างเครื่องบิน จากนั้นการบันทึกภาพถูกหยุดลงเมื่อเวลา 08:58:50 น. ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเครื่องบินน่าจะสูญเสียพลังงานหลังจากดับเครื่องยนต์ทั้งสองเครื่องเนื่องจากถูกนกชน

ต่อมา ในวันที่ 27 มกราคม เจ้าหน้าที่สืบสวนของเกาหลีใต้ ได้ออกมาเปิดเผยรายงานเบื้องต้น เกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับสายการบินเจจูแอร์ เป็นรายงาน 6 หน้า ที่ระบุไว้ว่า เครื่องยนต์ทั้งสองเครื่องบิน พบดีเอ็นเอของเป็ดไบคาล หรือเป็ดเปียหน้าเหลือง อยู่ในเครื่องยนต์ทั้งสองตัว โดยเป็ดดังกล่าวเป็นเป็ดอพยพชนิดหนึ่งที่มักจะบินมาเกาหลีใต้เป็นฝูงใหญ่ในช่วงฤดูหนาว

แต่ในรายงานไม่ได้มีการสรุปถึงสิ่งที่อาจทำให้กัปตันต้องนำเครื่องลงจอดโดยล้อไม่กาง รวมไปถึงเรื่องสาเหตุที่ทำให้กล่องดำทั้งสองหยุดทำงานไป 4 นาทีก่อนชนกำแพง

แต่ระบุว่า กล่องได้หยุดทำงานในช่วงที่เครื่องบินบินด้วยความเร็ว 161 นอต หรือ 298 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ระดับความสูง 152 เมตร ขณะอยู่ห่างจากสนามบินมูอันเพียง 2 กิโลเมตร

และไม่ได้มีการระบุชัดเจนเกี่ยวกับเวลาที่นักบินแจ้งว่ามีการชนนก ระบุเพียงว่า เครื่องบินได้มีการแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือ เมย์เดย์ 3 ครั้ง หลังจากชนนก

และหลังจากเครื่องบินชนกำแพงจนเกิดระเบิดและไฟไหม้ขึ้น เครื่องยนต์ทั้งสองของเครื่องบินได้ถูกฝังอยู่ใต้เนินดิน

ขณะที่ชิ้นส่วนด้านหน้าของเครื่องบินกระจัดกระจายออกไป

 

รายงานดังกล่าว ถูกเปิดเผยออกมาตามกฎขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ไอเคโอ

ที่กำหนดให้คณะผู้สอบสวนต้องจัดทำรายงานผลการสอบสวนเบื้องต้นภายในเวลา 30 วัน

และต้องสรุปรายงานสุดท้ายภายใน 12 เดือนนับตั้งแต่เกิดเหตุ

และรายงานดังกล่าวได้ถูกส่งให้กับไอเคโอ รวมถึงหน่วยงานของประเทศต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโศกนาฏกรรมนี้

ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และประเทศไทย

เครดิตภาพ “เอพี”