
ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 31 มกราคม - 6 กุมภาพันธ์ 2568 |
---|---|
คอลัมน์ | ต่างประเทศ |
เผยแพร่ |
บทความต่างประเทศ
เปิดรายงาน ‘เจจูแอร์’
ดีเอ็นเอเป็ดในเครื่องยนต์
ยังคงต้องไขปริศนากันต่อไป สำหรับต้นตอที่แท้จริง สำหรับอุบัติเหตุเครื่องบินโดยสารของสายการบินเจจูแอร์ ของเกาหลีใต้ ประสบเหตุลงจอดแบบล้อไม่กาง จนเครื่องบินไถลออกนอกรันเวย์ จนพุ่งชนเข้ากับกำแพงของสนามบินมูอัน เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2567 ทำให้คนบนเครื่องเสียชีวิตถึง 170 ราย และรอดมาได้เพียง 2 คนเท่านั้น โดยเครื่องบินลำนี้บินออกจากสนามบินสุวรรณภูมิของไทย และในจำนวนผู้เสียชีวิต เป็นคนไทย 2 คน
ทางการเกาหลีใต้เองพยายามหาต้นตอของสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินเกิดอุบัติเหตุขึ้น แม้จะพบกล่องดำทั้งสองกล่องของเครื่องบินแล้ว แต่กลับพบว่า ข้อมูลในช่วง 4 นาทีสุดท้ายก่อนเครื่องบินชนกำแพง กลับหายไป
ทำให้ต้องติดตามหาข้อมูลกันต่อไปว่า เกิดอะไรขึ้นกับเครื่องบินลำนี้กันแน่ ทั้งข้อมูลจากกล่องดำเท่าที่พอจะหามาได้ และข้อมูลจากแหล่งอื่นๆ
ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคมเกาหลีใต้ ได้เปิดเผยว่า รายงานการกู้ข้อมูลของกล่องดำของเครื่องบินลำดังกล่าว ทั้งกล่องบันทึกเสียงในห้องนักบินและกล่องบันทึกข้อมูลการบิน พบว่า ทั้งสองกล่องได้หยุดบันทึกข้อมูลหลังจากมีสัญญาณเตือนการพุ่งชนนกเพียง 1 นาทีเท่านั้น และน่าจะเป็นเหตุทำให้แหล่งจ่ายพลังงานของเครื่องบินถูกตัดทันที ทำให้การบันทึกข้อมูลของกล่องดำทั้งสองหยุดลง
นอกจากนี้ ยังมีการตรวจพบขนนก และคราบเลือดของนก ติดอยู่ในเครื่องยนต์ทั้งสองของเครื่องบินอีกด้วย
คณะกรรมการสอบสวนของกระทรวงคมนาคมเกาหลีใต้ ระบุว่า จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า ในตอนเกิดเหตุ เครื่องบินพยายามจะบินวนกลับเมื่อชนฝูงนก และเครื่องบินได้ติดต่อกับหอควบคุมการจราจรทางอากาศเป็นครั้งแรก เมื่อเวลา 08.54.43 น. ขณะที่กำลังเข้าใกล้จุดลงจอด หอควบคุมอนุญาตให้ลงจอดบนรันเวย์ 01 ในทิศทางตรงข้ามกับรันเวย์ที่เกิดอุบัติเหตุ
ต่อมาในเวลา 08.57.50 หอควบคุมได้ออกคำเตือนถึงเครื่องบินที่อาจเกิดการชนนก
และในเวลา 08.58.11 น. กัปตันและเจ้าหน้าที่คนแรกได้พูดคุยกันถึงฝูงนกที่บินอยู่ด้านล่างเครื่องบิน จากนั้นการบันทึกภาพถูกหยุดลงเมื่อเวลา 08:58:50 น. ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเครื่องบินน่าจะสูญเสียพลังงานหลังจากดับเครื่องยนต์ทั้งสองเครื่องเนื่องจากถูกนกชน
ต่อมา ในวันที่ 27 มกราคม เจ้าหน้าที่สืบสวนของเกาหลีใต้ ได้ออกมาเปิดเผยรายงานเบื้องต้น เกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับสายการบินเจจูแอร์ เป็นรายงาน 6 หน้า ที่ระบุไว้ว่า เครื่องยนต์ทั้งสองเครื่องบิน พบดีเอ็นเอของเป็ดไบคาล หรือเป็ดเปียหน้าเหลือง อยู่ในเครื่องยนต์ทั้งสองตัว โดยเป็ดดังกล่าวเป็นเป็ดอพยพชนิดหนึ่งที่มักจะบินมาเกาหลีใต้เป็นฝูงใหญ่ในช่วงฤดูหนาว
แต่ในรายงานไม่ได้มีการสรุปถึงสิ่งที่อาจทำให้กัปตันต้องนำเครื่องลงจอดโดยล้อไม่กาง รวมไปถึงเรื่องสาเหตุที่ทำให้กล่องดำทั้งสองหยุดทำงานไป 4 นาทีก่อนชนกำแพง
แต่ระบุว่า กล่องได้หยุดทำงานในช่วงที่เครื่องบินบินด้วยความเร็ว 161 นอต หรือ 298 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ระดับความสูง 152 เมตร ขณะอยู่ห่างจากสนามบินมูอันเพียง 2 กิโลเมตร
และไม่ได้มีการระบุชัดเจนเกี่ยวกับเวลาที่นักบินแจ้งว่ามีการชนนก ระบุเพียงว่า เครื่องบินได้มีการแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือ เมย์เดย์ 3 ครั้ง หลังจากชนนก
และหลังจากเครื่องบินชนกำแพงจนเกิดระเบิดและไฟไหม้ขึ้น เครื่องยนต์ทั้งสองของเครื่องบินได้ถูกฝังอยู่ใต้เนินดิน
ขณะที่ชิ้นส่วนด้านหน้าของเครื่องบินกระจัดกระจายออกไป
รายงานดังกล่าว ถูกเปิดเผยออกมาตามกฎขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ไอเคโอ
ที่กำหนดให้คณะผู้สอบสวนต้องจัดทำรายงานผลการสอบสวนเบื้องต้นภายในเวลา 30 วัน
และต้องสรุปรายงานสุดท้ายภายใน 12 เดือนนับตั้งแต่เกิดเหตุ
และรายงานดังกล่าวได้ถูกส่งให้กับไอเคโอ รวมถึงหน่วยงานของประเทศต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโศกนาฏกรรมนี้
ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และประเทศไทย
เครดิตภาพ “เอพี”
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022