The Astonishing Work of Tezuka Osamu : Fantasia ของโอซามุ

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

หนังการ์ตูนแนวทดลองของโอซามุ เท็ตซึกะ (Osamu Tezuka 1928-1989) จำนวน 13 เรื่อง ความยาวตั้งแต่ 3 นาที ถึง 39 นาที ยกเว้นเรื่องที่ 13 คือ Selfportrait ความยาว 0.13 วินาที ส่วนใหญ่ไม่มีบทพูด มีเฉพาะดนตรีประกอบ และบางเรื่องเป็นขาวดำ

ในจำนวน 13 เรื่องนี้ สามเรื่องเอกได้แก่ Tales of a Street Corner ปี 1962, Pictures at an Exhibition ปี 1966 และ Legend of the Forest ปี 1987 จะเอามาพูดถึงก่อน

มีการ์ตูนสั้นมากอีกหลายเรื่องน่าสนใจไม่แพ้กัน

 

เรื่องแรก Tales of a Street Corner เรื่องเล่าจากมุมถนน ความยาว 39.04 นาที ไม่มีบทพูด เปิดฉากเป็นภาพสีสองมิติแบนราบนำสายตาไปตามตรอกเล็กๆ ตรอกหนึ่งซึ่งจะไปโผล่ที่หัวมุมถนนแห่งหนึ่ง มีโปสเตอร์ต่างๆ นานาติดสองข้างกำแพงยาวไป จากนั้นเป็นเสียงแนะนำสถานที่และตัวละคร (ช่วงนี้ชวนให้นึกถึงหนังของเวส คราเวน ที่ทำประหนึ่งละครเวทีบนจอภาพยนตร์ เช่น Asteroid City กับหนังสั้นหลายเรื่องที่สร้างจากงานเขียนของโรอัล ดาห์ล)

เสียงแนะนำตัวละครหลัก ได้แก่ เด็กหญิงกับตุ๊กตาหมี ลูกหนูสีขาวตุ่น ผีเสื้อกลางคืน โปสเตอร์นักดนตรีหนุ่มสีไวโอลิน นักดนตรีสาวเล่นเปียโน และนักเต้นสาวในบาร์ กับอีกหนึ่งชีวิตคือต้นไม้ที่มุมถนน และอีกหนึ่งไร้ชีวิตคือเสาไฟที่อีกมุมถนนหนึ่ง

ทั้งหมดนี้ประกอบเป็นนาฏกรรมชีวิตด้วยเสียงดนตรีรื่นเริงตลอดช่วงแรก

เรื่องเริ่มต้นเมื่อเด็กหญิงบนห้องใต้หลังคาทำลูกโป่งสีแดงหลุดมือ และทำตุ๊กตาหมีที่รักตกจากหน้าต่างไปติดบนรางน้ำต่ำลงไป ลูกหนูสีขาวตุ่นตัวหนึ่งซึ่งอยู่ท่ามกลางฝูงหนูสีเทาชอบวิ่งหนีออกจากรังไปหาที่เล่น มันต้องคอยหลบเลี่ยงอันตรายจากนักล่าโดยมีตุ๊กตาหมีสีฟ้านอนขวางรางน้ำไว้ช่างน่าเกะกะ ทำให้บางครั้งมันวิ่งตกท่อรางน้ำลงไปที่พื้นไม่ทันระวัง

ที่พื้นตรอกแคบๆ ข้างล่าง นักไวโอลินหนุ่มพยายามเล่นเพลงส่งสารรักไปยังนักเปียโนสาวที่ห่างไปหลายเมตรโดยมีโปสเตอร์เป็นสิบๆ แผ่นคั่นไว้ มีสาวนักเต้นในบาร์ขมวดคิ้วไม่พอใจอยู่ข้างๆ

ไฮไลต์ของหนังการ์ตูนเรื่องนี้คือขำขันที่เราจะได้จากโปสเตอร์บนกำแพงทุกแผ่นแสดงให้เห็นเบื้องหลังหรือมุกกัดเจ็บของบุคคลมากหน้าหลายตาในสังคม

ขำขันที่เราจะได้เห็นจากโปสเตอร์ตลอดแนวกำแพงตรอกจะแบ่งเป็นสองช่วง แค่ช่วงแรกก็ขำน่าดู ไม่รู้ทั้งหมดนี้โอซามุคิดเองคนเดียวหรือมีทีมช่วยคิดช่างน่าชมเชยเสียจริง

จากนั้นหนังเล่าเรื่องต้นไม้ที่พยายามสลัดเมล็ดเพื่อแพร่พันธุ์กับผีเสื้อกลางคืนจอมเฮี้ยวที่พยายามบินเข้าหาแสงตะเกียงบนเสาแต่มิวายจะติดใยแมงมุมทุกๆ ครั้งไม่หลาบจำ

หนังดูเพลินด้วยเห็นการลื่นไหลและดิ้นรนของชีวิตโดยไม่ทันเฉลียวใจว่ายังมีโปสเตอร์นายพลหนวดอีกแผ่นหนึ่งในตรอก

หนังเข้าสู่สุขนาฏกรรมขำขันของโปสเตอร์แต่ละแผ่นในช่วงที่สองอีกหลายสิบแผ่นอย่างสนุกสนาน ทันใดนั้นโปสเตอร์นายพลหน้าเหี้ยมก็ขยายจำนวนปิดทับโปสเตอร์อื่นๆ ทั้งหมดในเวลาเดียวกันกับที่ภาพฉายให้เห็นรองเท้าบู๊ตทหารคู่หนึ่งย่างกรายเข้ามา

จากนั้นไม่นานสงครามก็เริ่มต้น เสียงระเบิดกัมปนาททำลายทั้งต้นไม้และเสาไฟ รางน้ำหักตุ๊กตาหมีสีฟ้าและลูกหนูสีขาวร่วงลงพื้นพร้อมกัน ผีเสื้อกลางคืนบินหนีสุดชีวิตในขณะที่โปสเตอร์นักไวโอลินชายออกแรงดันโปสเตอร์นายพลหลุดเพื่อชะเง้อมองโปสเตอร์สาวนักเปียโนที่ห่างไกลออกไป

หนังมีหักมุมเพราะตลอดทั้งเรื่องเด็กหญิงพยายามหาทางและขอความช่วยเหลือจากพ่อให้ช่วยเก็บตุ๊กตาหมีสีฟ้าขึ้นมาให้หน่อยแต่ไม่มีใครสนใจ จนกระทั่งสงครามสงบเมืองเป็นเถ้าถ่าน มือเล็กๆ มือหนึ่งเอื้อมไปหยิบตุ๊กตาหมีเปื้อนฝุนดำขะมุกขะมอมขึ้นมาจากพื้นถนนที่ไม่มีสภาพของตรอกหรือมุมตึกอีกต่อไป

เป็นมือของเด็กหญิงนั่นเอง สงครามช่วยให้เธอได้ตุ๊กตาคืน!

 

เรื่องที่สอง Pictures of and Exhibition ความยาว 32.56 นาที ไม่มีบทพูด ดนตรีคลาสสิคโดย Mussorgsky เครดิตเขียนว่ากำกับการแสดงโดย “Osam Tezka”

แบ่งเป็นสองช่วง ช่วงแรกนำชมพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งด้วยสกอร์สามมูฟเมนต์แรกออกแนวร่าเริงขบขัน กล้องจะจับภาพไปที่รูปของบุคคลต่างๆ ที่ใส่กรอบสวยคลาสสิคเรียงรายไปบนผนัง

ภาพแรกคือนักหนังสือพิมพ์มีอายุแล้ว ลายเส้นหักเป็นมุม ผมกระเซิงปลายแหลม แต่งกายดี ขาสั้นแต่แขนยาวมากจนเก้งก้าง หนังฉายให้เห็นงานของนักข่าวที่สามารถฉ้อฉลทุกสิ่งอย่างด้วยปลายปากกาอย่างหน้าด้านๆ ทำเอาเมื่อจบกรอบรูปแรกนี้แล้วกล้องเลื่อนไปกรอบรูปถัดไปคนดูลุ้นระทึกว่าจะหยุดที่กรอบไหน

กรอบต่อไปคือศัลยแพทย์ความงามก็มั่นใจได้ว่าโดนเละ แล้วกล้องก็เคลื่อนตัวไปอีกผ่านรูปนายแพทย์ ผ่านใครบางคนที่คล้ายฟรอยด์ ใครอีกบางคนที่ชวนให้คิดถึงกาลิเลโอ โอ๊ะ! บางครั้งกล้องหยุดกะทันหันแล้วแพนถอยกลับไปจับรูปที่เลยมาแล้ว ตาย จะโดนเรารึยัง ทำเช่นนี้จนจบมูฟเมนต์ที่สาม

มูฟเมนต์ที่สี่ดนตรีเร่งความเร็วและอึกทึกครึกโครมเร้าใจ หนังพาไปชมภาพสลักนูนสูงรอบประตูชัยกลางกรุงปารีส ท่านที่เคยไปเดินชมจะเห็นภาพชายฉกรรจ์มัดกล้ามงดงามหลายคนแบกอะไรบางสิ่งอยู่ทุกด้านของประตูชัย

หนังชวนให้เห็นภาพสงครามและความตายของชายหนุ่มอย่างโหดร้ายจำนวนมากมายก่อนที่จะถึงวันที่มีประตูชัยสวยงามอลังการเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนทั่วทั้งโลก

ภาพสุดท้ายจึงเป็นภาพประตูชัยที่โดดเดี่ยวอยู่เดียวดาย

 

เรื่องที่สาม Legend of the Forest ความยาว 29.25 นาที ไม่มีบทพูด เริ่มต้นด้วยภาพนิ่งขาวดำประกอบดนตรีระทึกขวัญตลอดทั้งเรื่อง

ฉากแรกเป็นชายร่างยักษ์พร้อมเลื่อยไฟฟ้ากำลังตัดต้นไม้ยักษ์ใกล้ขาด กระรอกบินแม่ลูกอ่อนห้าตัวยังให้นมลูกๆ ในโพรงสูงข้างบน โพรงไม้สะเทือนเลื่อนลั่นเหมือนแผ่นดินไหว พ่อกระรอกอยู่ที่ไม้สูงอีกต้น มันร่อนข้ามอากาศลงมาที่รังคาบเอาลูกอ่อนไต่ลงมาแล้วร่อนลงพื้นไปทีละตัว อนิจจา พลาด ลูกอ่อนตัวหนึ่งร่วงลงพื้นแน่นิ่งไป

จากภาพนิ่งขาวดำที่เปลี่ยนทีละเฟรมกลายเป็นแอนิเมชั่นขาวดำ ปู่ต้นไม้ก้มลงมาหยอดน้ำให้ลูกอ่อนที่ร่วงลงมาแน่นิ่งที่พื้น

หนังตัดไปเป็นแอนิเมชั่นสีสดสวยแบบดิสนีย์ กระรอกหนุ่มน่ารักบินร่อนไปอย่างสนุกสนาน ครั้นมันรบกวนฝูงนกแล้วถูกรุมมันเปลี่ยนเป็นกระรอกบินหน้าเหี้ยมกางกรงเล็บแหลมคมไม่ต่างค้างคาวผีไล่ตะปบนกร่วงไปเป็นตัวๆ จนกระทั่งไปพบกระรอกบินสาวสวยสีชมพูจึงยอมสงบลง

โอซามุเปลี่ยนฉากร้อนเป็นฉากเย็นด้วยความรักหนุ่มสาว กระรอกหนุ่มจูบปากกระรอกสาวบนกิ่งไม้ดูดดื่มเกินเรตการ์ตูนเด็กไปเฉย

ทันใดนั้นชายร่างยักษ์โผล่มาอีกพร้อมเลื่อยยักษ์ มันตัดต้นไม้แล้วไล่ฟันกระรอกหนุ่มสาวหนีกระเซอะกระเซิงจนกระรอกหนุ่มพลัดตกต้นไม้สูง กว่ามันจะลุกได้อีกครั้งชายตัดไม้ก็หิ้วร่างไร้ชีวิตของกระรอกสาวเดินกลับกระท่อมไปแล้ว

ความแค้นนี้จะจบลงเมื่อกระรอกหนุ่มใช้ซ่อมแทนสายล่อฟ้าตามที่กระรอกสาวเคยสอนไว้ มันล่อให้ชายตัดไม้ออกจากบ้านอีกครั้งแล้วใช้สายฟ้าผ่าจุดไฟกองใบไม้ขนาดใหญ่ให้ลุกแดงเป็นไฟกองใหญ่ร่วงลงไปสังหารชายตัดไม้อนาถ

แต่เรื่องไม่จบ คราวนี้มีคนตัดไม้มาใหม่อีกนับร้อยพร้อมเลื่อยไฟฟ้าครบมือกับรถบูโดลเซอร์หลายสิบคัน พวกมันเรียงหน้าโค่นไม้หมดทั้งป่า เดือดร้อนถึงการประชุมภูตน้อย ผีป่า แม่มด และสัตว์ป่านักรบมากมายในยามค่ำคืน ชวนให้นึกถึง Princess Mononoke ขึ้นมาเลยทีเดียว แต่คนแคระทั้งเจ็ดอาสานางฟ้าไปเจรจาสันติภาพ ชวนให้นึกถึงลอร์ดออฟเดอะริงกับสโนว์ไวท์ไปเสีย คนแคระทั้งเจ็ดนำดอกไม้สวยงามเดินทางไปพบเจ้าของบริษัทซึ่งลายเส้นเป็นฮิตเลอร์ดีดีนี่เอง ฮิตเลอร์สังหารคนแคระทั้งเจ็ดฉับพลันทันทีเหลือแต่ขี้เถ้า

โลกไม่มีทางรอดจากพัฒนาการวันนี้ทุกคนต้องตายหมดแม้แต่ผู้นำบ้าอำนาจก็ไม่มีข้อยกเว้น

หนังสนุก ที่แท้โอซามุ เท็ตซึกะได้สร้าง Fantasia ของตัวเองเอาไว้ด้วย •

 

การ์ตูนที่รัก | นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์