ประชัน 3 รถครอบครัวต่ำล้าน ‘บีอาร์วี-เอ็กซ์แพนเดอร์-เอ็ม6’

สันติ จิรพรพนิต

ยอดขายรถยนต์เมืองไทยในปี 2567 แม้ยังไม่ประกาศตัวเลขอย่างเป็นทางการ แต่จบปีระดับ 5 แสนคันเศษๆ แย่สุดในรอบกว่า 10 ปี

ส่วนปี 2568 ประมาณการว่าน่าจะขยายตัวดีขึ้น เพราะสถิติเก่านั้นแทบจะต่ำสุดแล้ว

ทว่า จะดีขึ้นมากน้อยขนาดไหน อยู่ที่หลายปัจจัย ทั้งการทำตลาดของแบรนด์ต่างๆ รวมถึงมาตรการของภาครัฐที่ออกมาช่วยแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน

เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ “ยานยนต์ สุดสัปดาห์” ฉบับนี้ คัดรถครอบครัว 6-7 ที่นั่ง ราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท มานำเสนอเป็นตัวเลือก

คัดมาเน้นๆ 3 รุ่น 3 ขุมพลัง

ทั้ง “ฮอนด้า บีอาร์-วี” ขุมพลังเบนซิน

“มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส” เครื่องยนต์ไฮบริด

และ “บีวายดี เอ็ม6” รถอีวี

โดยระดับราคาใกล้เคียงกันที่ 9 แสนบาทเศษ

ส่วนจะต่อรองเพิ่มเติม หรือสอบถามส่วนลดพิเศษ ไปว่ากันที่หน้าโชว์รูมได้เลย

เพราะช่วงนี้โอกาสอยู่ฝั่งผู้ซื้อจริงๆ

ประเดิมกันที่ค่ายยอดนิยมของไทย “ฮอนด้า บีอาร์-วี” เอ็มพีวี 7 ที่นั่ง

ด้านหน้ากระจังทรงคางหมูสี Piano Black ตัดขอบด้วยโครเมียม

ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ ปรับไฟสูงอัตโนมัติ

กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ แต่ส่วนล่างจะเป็นสีดำ

ติดตั้งซุ้มล้อสีดำ

ไฟท้ายแบบ LED เช่นกัน ออกแบบเป็นเส้นแนวนอน

กันชนหน้าและหลังดีไซน์ใหม่ ตกแต่งสีเงิน เช่นเดียวกับสเกิร์ตข้าง

ภาพรวมด้านหลังดูเรียบหรู

มีราวหลังคาตกแต่งแบบสปอร์ต

เสาอากาศแบบครีบฉลาม

ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 17 นิ้ว

ภายในเน้นโทสีดำตัดด้วยวัสดุโครเมียมและสีเปียโนแบล็ก

พวงมาลัย 3 ก้านพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น และระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift)

หน้าจอผสมกันระหว่างอะนาล็อกและดิจิทัล จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว

ตรงกลางหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto

เชื่อมต่อสมาร์ตโฟน และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลังติดตั้งบนเพดาน

เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว กำลังสูงสุด 121 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 145 นิวตัน-เมตร เกียร์อัตโนมัติ CVT

ช่วงล่าง ด้านหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังทอร์ชั่นบีม แบบ H-shape

ระบบความปลอดภัยและตัวช่วยขับขี่ “ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง” (Honda SENSING)

ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนน

มีระบบเตือนการชน พร้อมระบบช่วยเบรก

ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ

ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ

ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ฯลฯ

มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย

รุ่น E ราคา 915,000 บาท

และรุ่น EL ราคา 973,000 บาท

ส่วน “มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส” รถ 7 ที่นั่ง ออกแบบได้อารมณ์ความสปอร์ตและสมบุกสมบันมากขึ้น

กระจังหน้าใหม่แบบ Advanced Dynamic Shield

ไฟหน้าแบบ LED ยกชุดทั้งไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (DRL) แบบ LED ไฟเลี้ยว LED และไฟตัดหมอก LED

ไฟหน้ามีระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ

เสริมดีไซน์สุดเท่ด้านหลังรถด้วยไฟท้ายแบบ LED และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED

ตกแต่งกระจังหน้า กันชนหน้าและหลัง แผงตกแต่งข้างประตู และซุ้มล้อแบบ “ครอสดีไซน์” (CROSS Design)

ล้ออัลลอยสปอร์ตทูโทนขนาด 17 นิ้ว

ภายในใช้สีทูโทนดำ-น้ำเงินตกแต่งด้วยวัสดุแบบนิ่ม

พวงมาลัย 4 ก้านหุ้มหนังดีไซน์ใหม่ พร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น และระบบล็อกความเร็ว (Cruise Control)

จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ LCD ขนาด 8 นิ้ว ปรับเปลี่ยนได้หลายรูปแบบ

ตรงกลางเป็นหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Bluetooth การเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto

ระบบปรับอากาศแบบดิจิทัล เพดานมีช่องดูดลมแอร์เพื่อเป่าไปยังที่นั่งด้านหลังแบบแยกอิสระ พร้อมแผงควบคุมและช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง

เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร MIVEC พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 85 กิโลวัตต์ มีแบตเตอรี่ขับเคลื่อนพัฒนาสำหรับรถยนต์รุ่นนี้โดยเฉพาะ

ตัวช่วยต่างๆ อาทิ ระบบช่วยเสริมความปลอดภัยขณะเข้าโค้ง “เอวายซี” (AYC – Active Yaw Control)

ช่วยควบคุมการขับเคลื่อนให้เข้าโค้งได้กระชับและแม่นยำ

ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว

ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล

ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ฯลฯ

เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี ราคา 961,000 บาท

ปิดท้ายกันที่รถโมเดลใหม่สุดในจำนวน 3 รุ่น “บีวายดี เอ็ม6”

รูปร่างหน้าตาเรียบๆ เน้นใช้งานเป็นหลัก

ไฟหน้า LED เต็มระบบ มาพร้อมระบบเปิดปิดไฟหน้า และเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ

ด้านข้างก็ไม่ต่างจากด้านหน้าที่ดูเรียบๆ

ชายล่างรอบคันติดเส้นโครเมียม

ไฟท้ายมีเส้นคาดยาว

ประตูท้ายไฟฟ้า พร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิด

ติดตั้งราวหลังคามาให้

ล้อขนาด 17 นิ้ว

ภายในเน้นความเรียบเช่นกัน ใช้สีโทนดำตัดด้วยโครเมียม

พวงมาลัย 3 ก้านพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น

จอตรงกลางยังคงเอกลักษณ์ขนาดใหญ่เหมือนไอแพด ปรับหมุนได้ ขนาด 12.8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto

ลำโพงรอบคัน 6 ตำแหน่ง

ต่ำลงมาเป็นช่องแอร์ มีตัวกรองฝุ่น PM 2.5

เจาะช่องแอร์เพดานสำหรับผู้โดยสารทุกแถว

มีไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light

ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้า เทคโนโลยี BYD Blade Battery

ความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสูงสุด 71.8 kWh

กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร

อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร ภายใน 8.6 วินาที

วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง 530 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC

ส่วนรุ่นรองลงไปความจุแบตเตอรี่น้อยลงเหลือ 55.4 kWh วิ่งไกลสุด 420 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC

ชาร์จแบบกระแสตรง DC ความแรงสูงสุด 115 Kw ใช้เวลา 40 นาที (10-80%)

ชาร์จแบบกระแสสลับ AC ที่ 7 kW

ระบบความปลอดภัย และตัวช่วยขับขี่ อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชั่น Stop and Go

เตือนเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง พร้อมระบบช่วยเบรก

เตือนการชนด้านหน้า, ช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน ฯลฯ

BYD M6 มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย

Dynamic ราคา 829,000 บาท

และ Extended ราคา 929,000 บาท •

 

ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต

[email protected]