ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 31 มกราคม - 6 กุมภาพันธ์ 2568 |
---|---|
คอลัมน์ | ยานยนต์ |
ผู้เขียน | สันติ จิรพรพนิต |
เผยแพร่ |
ยอดขายรถยนต์เมืองไทยในปี 2567 แม้ยังไม่ประกาศตัวเลขอย่างเป็นทางการ แต่จบปีระดับ 5 แสนคันเศษๆ แย่สุดในรอบกว่า 10 ปี
ส่วนปี 2568 ประมาณการว่าน่าจะขยายตัวดีขึ้น เพราะสถิติเก่านั้นแทบจะต่ำสุดแล้ว
ทว่า จะดีขึ้นมากน้อยขนาดไหน อยู่ที่หลายปัจจัย ทั้งการทำตลาดของแบรนด์ต่างๆ รวมถึงมาตรการของภาครัฐที่ออกมาช่วยแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน
เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ “ยานยนต์ สุดสัปดาห์” ฉบับนี้ คัดรถครอบครัว 6-7 ที่นั่ง ราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท มานำเสนอเป็นตัวเลือก
คัดมาเน้นๆ 3 รุ่น 3 ขุมพลัง
ทั้ง “ฮอนด้า บีอาร์-วี” ขุมพลังเบนซิน
“มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส” เครื่องยนต์ไฮบริด
และ “บีวายดี เอ็ม6” รถอีวี
โดยระดับราคาใกล้เคียงกันที่ 9 แสนบาทเศษ
ส่วนจะต่อรองเพิ่มเติม หรือสอบถามส่วนลดพิเศษ ไปว่ากันที่หน้าโชว์รูมได้เลย
เพราะช่วงนี้โอกาสอยู่ฝั่งผู้ซื้อจริงๆ
ประเดิมกันที่ค่ายยอดนิยมของไทย “ฮอนด้า บีอาร์-วี” เอ็มพีวี 7 ที่นั่ง
ด้านหน้ากระจังทรงคางหมูสี Piano Black ตัดขอบด้วยโครเมียม
ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ ปรับไฟสูงอัตโนมัติ
กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ แต่ส่วนล่างจะเป็นสีดำ
ติดตั้งซุ้มล้อสีดำ
ไฟท้ายแบบ LED เช่นกัน ออกแบบเป็นเส้นแนวนอน
กันชนหน้าและหลังดีไซน์ใหม่ ตกแต่งสีเงิน เช่นเดียวกับสเกิร์ตข้าง
ภาพรวมด้านหลังดูเรียบหรู
มีราวหลังคาตกแต่งแบบสปอร์ต
เสาอากาศแบบครีบฉลาม
ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 17 นิ้ว
ภายในเน้นโทสีดำตัดด้วยวัสดุโครเมียมและสีเปียโนแบล็ก
พวงมาลัย 3 ก้านพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น และระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift)
หน้าจอผสมกันระหว่างอะนาล็อกและดิจิทัล จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว
ตรงกลางหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
เชื่อมต่อสมาร์ตโฟน และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลังติดตั้งบนเพดาน
เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว กำลังสูงสุด 121 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 145 นิวตัน-เมตร เกียร์อัตโนมัติ CVT
ช่วงล่าง ด้านหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังทอร์ชั่นบีม แบบ H-shape
ระบบความปลอดภัยและตัวช่วยขับขี่ “ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง” (Honda SENSING)
ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนน
มีระบบเตือนการชน พร้อมระบบช่วยเบรก
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ
ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ฯลฯ
มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย
รุ่น E ราคา 915,000 บาท
และรุ่น EL ราคา 973,000 บาท
ส่วน “มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส” รถ 7 ที่นั่ง ออกแบบได้อารมณ์ความสปอร์ตและสมบุกสมบันมากขึ้น
กระจังหน้าใหม่แบบ Advanced Dynamic Shield
ไฟหน้าแบบ LED ยกชุดทั้งไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (DRL) แบบ LED ไฟเลี้ยว LED และไฟตัดหมอก LED
ไฟหน้ามีระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ
เสริมดีไซน์สุดเท่ด้านหลังรถด้วยไฟท้ายแบบ LED และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
ตกแต่งกระจังหน้า กันชนหน้าและหลัง แผงตกแต่งข้างประตู และซุ้มล้อแบบ “ครอสดีไซน์” (CROSS Design)
ล้ออัลลอยสปอร์ตทูโทนขนาด 17 นิ้ว
ภายในใช้สีทูโทนดำ-น้ำเงินตกแต่งด้วยวัสดุแบบนิ่ม
พวงมาลัย 4 ก้านหุ้มหนังดีไซน์ใหม่ พร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น และระบบล็อกความเร็ว (Cruise Control)
จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ LCD ขนาด 8 นิ้ว ปรับเปลี่ยนได้หลายรูปแบบ
ตรงกลางเป็นหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Bluetooth การเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto
ระบบปรับอากาศแบบดิจิทัล เพดานมีช่องดูดลมแอร์เพื่อเป่าไปยังที่นั่งด้านหลังแบบแยกอิสระ พร้อมแผงควบคุมและช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร MIVEC พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 85 กิโลวัตต์ มีแบตเตอรี่ขับเคลื่อนพัฒนาสำหรับรถยนต์รุ่นนี้โดยเฉพาะ
ตัวช่วยต่างๆ อาทิ ระบบช่วยเสริมความปลอดภัยขณะเข้าโค้ง “เอวายซี” (AYC – Active Yaw Control)
ช่วยควบคุมการขับเคลื่อนให้เข้าโค้งได้กระชับและแม่นยำ
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ฯลฯ
เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เอชอีวี ราคา 961,000 บาท
ปิดท้ายกันที่รถโมเดลใหม่สุดในจำนวน 3 รุ่น “บีวายดี เอ็ม6”
รูปร่างหน้าตาเรียบๆ เน้นใช้งานเป็นหลัก
ไฟหน้า LED เต็มระบบ มาพร้อมระบบเปิดปิดไฟหน้า และเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ
ด้านข้างก็ไม่ต่างจากด้านหน้าที่ดูเรียบๆ
ชายล่างรอบคันติดเส้นโครเมียม
ไฟท้ายมีเส้นคาดยาว
ประตูท้ายไฟฟ้า พร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิด
ติดตั้งราวหลังคามาให้
ล้อขนาด 17 นิ้ว
ภายในเน้นความเรียบเช่นกัน ใช้สีโทนดำตัดด้วยโครเมียม
พวงมาลัย 3 ก้านพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น
จอตรงกลางยังคงเอกลักษณ์ขนาดใหญ่เหมือนไอแพด ปรับหมุนได้ ขนาด 12.8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
ลำโพงรอบคัน 6 ตำแหน่ง
ต่ำลงมาเป็นช่องแอร์ มีตัวกรองฝุ่น PM 2.5
เจาะช่องแอร์เพดานสำหรับผู้โดยสารทุกแถว
มีไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light
ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้า เทคโนโลยี BYD Blade Battery
ความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสูงสุด 71.8 kWh
กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร ภายใน 8.6 วินาที
วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง 530 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC
ส่วนรุ่นรองลงไปความจุแบตเตอรี่น้อยลงเหลือ 55.4 kWh วิ่งไกลสุด 420 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC
ชาร์จแบบกระแสตรง DC ความแรงสูงสุด 115 Kw ใช้เวลา 40 นาที (10-80%)
ชาร์จแบบกระแสสลับ AC ที่ 7 kW
ระบบความปลอดภัย และตัวช่วยขับขี่ อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชั่น Stop and Go
เตือนเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง พร้อมระบบช่วยเบรก
เตือนการชนด้านหน้า, ช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน ฯลฯ
BYD M6 มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย
Dynamic ราคา 829,000 บาท
และ Extended ราคา 929,000 บาท •
ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022