ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 24 - 30 มกราคม 2568 |
---|---|
เผยแพร่ |
หมายเหตุ เป็นเพียงการรวบรวมข้อมูลข่าว จากหนังสือบันทึกประเทศไทยปี 2552 -2553 โดย สนพ.”มติชน”
ยุทธการ แดงเดือด
เมษา พฤษภา 2553 สลาย ‘แดง’ 13-14 เมษายน 2552 รากฐานปลุก เมษา พฤษภา 2553
สัญญาณแห่งการเข้าสลายการชุมนุมของ “แดงทั้งแผ่นดิน” เห็นได้จากเมื่อเวลา 04.00 น.ของวันที่ 13 เมษายน 2552 กำลังเข้าไปยังพื้นที่สามแยกเหลี่ยมดินแดงซึ่งถูกปิดกั้นและยึดครองโดยคนเสื้อแดง
ทั้งนี้ เป็นไปตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 98/2552 เรื่อง การจัดตั้งกองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (กอฉ.)
โดยให้ พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้อำนวยการ
และประกาศบังคับใช้มาตรา 11(6) ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ห้ามมิให้มีการปิดเส้นทางจราจรหรือเส้นทางการคมนาคมโดยเด็ดขาด
ผลก็คือ คนเสื้อแดงดาวกระจายกำลังเคลื่อนไหวตอบโต้กลับหลายจุด
เช่น บริเวณทางแยกสามเหลี่ยมดินแดงที่แยกไปถนนราชปรารภ ซอยรางน้ำ ถนนข้ามแยกดินแดงไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ถนนดินแดนฝั่งตรงข้ามโรงเรียนพิบูลประชาสรรค์ เป็นต้น
มีการจุดไฟเผายางรถ เผารถเมล์หลายจุด และนำรถก๊าซแอลพีจีมาจอดขวางถนนดินแดนใกล้กับแฟลต 2 และ 3 ของเคหะดินแดง
ช่วงบ่ายสถานีโทรทัศน์ระบบดาวเทียมของคนเสื้อแดงก็ถูกตัดสัญญาณ
บันทึกประเทศไทยปี 2552 ของ “มติชน” บันทึกว่า ทหารลุยสกัดกลุ่มคนเสื้อแดงที่ยึดบริเวณแยกราชปรารภกับบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิให้ถอยร่นกลับไปยังทำเนียบรัฐบาล
15.00 น. เสื้อแดงถอยออกปิดบริเวณชุมชนนางเลิ้ง
พร้อมนำรถยูโรมาจอดขวางถนนสวรรคโลกและเตรียมจะเผา แต่ชาวบ้านเกือบ 200 คนรวมตัวกันขับไล่
หลัง พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้อำนวยการ กอฉ. แถลงถึงเหตุผลและความจำเป็นที่ต้องใช้กำลังทหารเข้าสลายฝูงชน เวลา 15.30 น. ทหารสลายการชุมนุมบริเวณแยกศรีอยุธยา ผู้ชุมนุมล่าถอยไปหน้าทำเนียบรัฐบาล
17.30 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ
18.00 น. กำลังทหารหลายร้อยนายพร้อมอาวุธยิงปืนขึ้นฟ้าเข้าเคลียร์พื้นที่หลายจุด อาทิ ถนนราชดำเนินนอก ถนนพิษณุโลกหน้าโรงพยาบาลมิชชั่น ถนนข้างคลองผดุงกรุงเกษม สหประชาชาติ สะพานมัฆวานรังสรรค์ เป็นต้น
ขณะที่เสื้อแดงจุดไฟเผารถเมล์ขวางไว้หน้าสหประชาชาติ แต่ไม่สามารถต้านทานได้ จึงไปรวมตัวที่สะพานมัฆวานรังสรรค์
20.40 น. เสื้อแดงบริเวณสนามม้านางเลิ้งประมาณ 1,000 คนมุ่งหน้าสู่แยกสะพานผ่านฟ้าฯ พยายามผลักดันทหาร แต่ถูกต้านด้วยแก๊สน้ำตา และยิงปืนเอ็ม 16 ขึ้นฟ้าเพื่อขับไล่
ระหว่างปะทะมีกลุ่มชาวบ้านในเขตพื้นที่นางเลิ้งเข้าช่วยเจ้าหน้าที่จนชาวบ้านเสียชีวิต 2 คน
สถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นตลอดทั้งวันทำให้ห้างสรรพสินค้าและร้านทองหลายแห่งในกรุงเทพมหานครต้องปิดชั่วคราว รัฐบาลหลายประเทศออกคำเตือนพลเมืองสัญชาติตนให้ทบทวนหรือหลีกเลี่ยงการเดินทางมาประเทศไทย
ขณะเดียวกัน กระทรวงมหาดไทยก็สรุปเหตุการณ์การชุมนุมของเสื้อแดงในต่างจังหวัด
ตั้งแต่เช้าวันที่ 12 ถึงเช้าวันที่ 13 เมษายน ว่ามีเสื้อแดงชุมนุมใน 34 จังหวัด
เช้าวันที่ 14 เมษายน ทหารเริ่มกดดันอีกระลอก จนกระทั่งเวลา 10.30 น. แกนนำคนเสื้อแดงยอมประกาศยุติการชุมนุมบริเวณทำเนียบรัฐบาลที่ปักหลักมาตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม
12.00 น. แกนนำบางส่วนได้แก่ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เดินเท้าเข้าเจรจากับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่บริเวณแยกมิสกวันแล้วไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาลเพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหา
14.00 น. นพ.เหวง โตจิราการ ถูกนำตัวมากองบัญชาการตำรวจนครบาล
17.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ยืนยันว่าสถานการณ์ต่างๆ ได้คลี่คลายจนเกือบหมด
จากนั้นศาลอาญาก็อนุมัติหมายจับ 985/2552 ลงวันที่ 14 เมษายน ตามข้อเสนอของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประกอบด้วย 1 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร 2 นายจตุพร พรหมพันธุ์ 3 นายวีระ มุสิกพงศ์ 4 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ 5 นายจักรภพ เพ็ญแข 6 นพ.เหวง โตจิราการ 7 นายอดิศร เพียงเกษ 8 นายสิรวิชญ์ พิมพ์กลาง 9 นายพีระ พิมพ์กลาง 10 นายณรงค์ศักดิ์ มณี 11 นายชินวัฒน์ หาบุญพาด 13 ชายไทยไม่ทราบชื่อ (ปรากฏตามภาพถ่าย)
ทั้งหมดถูกแจ้งข้อหาตามความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และมาตรา 215
มีคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางธรรมดา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
เมื่อตรวจสอบผ่านหนังสือ “19-19 ภาพ ชีวิตและการต่อสู้ของ ‘คนเสื้อแดง’ จาก 19 กันยา 49 ถึง 19 พฤษภา 53” อัน อุเชนทร์ เชียงแสน เป็นบรรณาธิการ ก็จะเห็นเงาสะท้อนของการเคลื่อนไหวในเชิงเปรียบเทียบ
นั่นคือ
13 เมษายน 2552 ทหารเริ่มลงมือปฏิบัติการตั้งแต่เช้าตรู่ โดยนำกำลังเข้ากดดัน สลายแนวป้องกันที่ผู้ชุมนุมตั้งขึ้น แล้วค่อยเคลื่อนกำลังเข้าปิดล้อมพื้นที่การชุมนุม
เผชิญหน้ากับคนเสื้อแดงที่ออกมาต่อต้าน
เห็นภาพของทหารเคลื่อนกำลังผ่านถนนพระราม 6 มุ่งหน้าไปยังพื้นที่การชุมนุมบริเวณทำเนียบรัฐบาล
เห็นภาพทหารเคลื่อนกำลังจากถนนราชดำเนินเข้าควบคุมพื้นที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ซึ่งเป็นอีกจุดหนึ่งที่คนเสื้อแดงรวมตัวกันตั้งแนวป้องกันการสลายการชุมนุม
เห็นภาพเจ้าหน้าที่ดับเพลิงช่วยกันดับไฟที่กำลังลุกท่วมรถโดยสารประจำทางซึ่งถูกนำมาจอดเป็นเครื่องกีดขวางและถูกเผาเมื่อทหารเข้าควบคุมพื้นที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ
เห็นภาพผู้สนับสนุนเสื้อแดงตั้งแนวสกัดและโห่ร้องขับไล่ทหาร
ภาพทหารเคลื่อนกำลังรุกคืบพื้นที่ผ่านซากรถโดยสารประจำทางที่ถูกเผาบริเวณแยกอุรุพงษ์ มุ่งหน้าไปยังถนนพิษณุโลก
เห็นภาพแนวล้อมทหารพร้อมรถฮัมวี่บริเวณทางลงทางด่วนยมราช
หลัง 6 โมงเย็นของวันที่ 13 เมษายน ทหารสามารถทลายแนวสกัดของคนเสื้อแดงได้ทั้งหมด
ปิดล้อมพื้นที่การชุมนุมไว้ทุกด้าน
ภาพชายฉกรรจ์ในชุดพลเรือนสวมเสื้อเกราะพร้อมอาวุธสงครามเข้าร่วมปฏิบัติการปิดล้อมพื้นที่การชุมนุม
ภาพทหารพร้อมอาวุธครบมือเตรียมพร้อมอยู่บนสะพานข้ามแยกอุรุพงษ์
ผลจากการปิดล้อมพื้นที่ ปิดช่องทางเข้า-ออกทั้งหมด ทำให้แกนนำต้องยุติการชุมนุมในวันที่ 14 เมษายน 2552
เพื่อหยุดยั้งสถานการณ์ความรุนแรงและรักษาชีวิตของผู้ชุมนุม
ถามว่าเป้าหมายของการประกาศและบังคับใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการใน สถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 คืออะไร
คือ ความต้องการยุติปัญหา
ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่พัทยา ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวในลักษณะ “ดาวกระจาย” ไปตามจุดต่างๆ ในพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร
ผลเฉพาะหน้าทั้งที่พัทยาและทั้งที่กรุงเทพมหานครสามารถยุติสลายการชุมนุม ยุติการเคลื่อนไหวลงได้
แต่ถามต่อไปว่า “จบ” หรือไม่
คำตอบเห็นได้จากการเคลื่อนไหวอีกครั้งในเดือนเมษายนต่อเนื่องไปยังเดือนพฤษภาคม 2553
คำตอบจาก “ความเป็นจริงที่เกิดขึ้น”
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022