พื้นที่เป้าหมายของเพื่อไทย | ลึกแต่ไม่ลับ

จรัญ พงษ์จีน

ลึกแต่ไม่ลับ | จรัญ พงษ์จีน

พื้นที่เป้าหมายของเพื่อไทย

ฉบับนี้ขออนุญาตต่อตอนที่ 2 ว่าด้วย “แมวเก้าชีวิต” ที่ชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ของประเทศไทย “แมว” ที่ตกตึกสูงมาแล้วหลายครั้งหลายหน อาการแค่บาดเจ็บสาหัส แต่ “ไม่เคยตาย” เกือบหลับแต่กลับมาได้ตลอด

แถมกลับมาภาคใหม่ “แมวเก้าชีวิตของแทร่” ที่ชื่อ “ทักษิณ” มิทราบว่าไปโด๊ปดีหมี รับประทานยาดีมาจากร้านไหน หรือแขวนพระวัดอะไร เหลี่ยมทองหรือไม่ แต่พุทธคุณกลับมาดีรอบด้าน ช่วยปัดเป่าเรื่องร้ายๆ ให้กลายเป็นสิ่งที่ดี มีโชคมีลาภ ทุกอย่างแคล้วคลาด ปลอดภัย เสริมสิริมงคล มีความเจริญก้าวหน้า สาธุ สาธุ

สรุปว่าคงมี “ของดี” อะไรบางประการมาเกื้อกูล ระยะหลังๆ “ทักษิณ” กล้าแสดงบทบาท สร้างสรรค์ตัวตนออกมาได้โดดเด่น พร้อมเผชิญหน้ากับแรงกดดันทั้งจากศัตรูเก่าที่รายล้อมอยู่รอบด้าน หรือหน้าใหม่ที่เพิ่งประกาศตัวตนออกมา

“ทักษิณ 68” เดินหน้าเต็มคาราเบล ราวกับมีเดิมพันราคาแพง ในฐานะ “ผู้ช่วยหาเสียง” เดินสายตะลอนทัวร์ออกหัวเมืองช่วยผู้สมัครลงรับเลือกตั้งการเมืองภาคท้องถิ่น ให้กับนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเกือบทุกภาค แต่เว่อร์เกินเบอร์ เหมือนกับเป็นภารกิจสำคัญ ว่างานนี้ “แพ้ไม่ได้”

เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า ในวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ “กกต.” ประกาศให้เป็นวันเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ทั่วประเทศ

เหตุที่ “กกต.” ต้องจัดนายก อบจ.พร้อมกันในหลายจังหวัด เนื่องเพราะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2563 ที่มีการปล่อยผีให้มีการเลือกตั้งครั้งแรก หลัง คสช.เข้ามายึดอำนาจ จึงเป็นไปตามกลไกรัฐธรรมนูญปี 2560 จากกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น และได้ครบวาระ 4 ปี เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2567 กกต.จึงต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ตามกรอบภายใน 45 วัน วันลงตัวจึงออกมาเป็น 1 กุมภาพันธ์ 2568 โดยกำหนดให้วันที่ 23-27 ธันวาคม เป็นวันเปิดรับสมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด และนายก อบจ. 47 จังหวัด

ก่อนหน้านี้ มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดไปก่อนแล้ว 29 จังหวัด สืบเนื่องมาจากคนเก่าชิงลาออก กกต.ต้องประกาศให้เลือกตั้งภายใน 60 วัน โดย 29 จังหวัดที่เลือกตั้งกันไปก่อนหน้านี้ ประกอบด้วย

“ภาคเหนือ” กำแพงเพชร-สุโขทัย-พิษณุโลก-พะเยา-นครสวรรค์-เพชรบูรณ์-อุตรดิตถ์-ตาก

“ภาคตะวันตก” เพชรบุรี-ราชบุรี-กาญจนบุรี

“ภาคใต้” นครศรีธรรมราช ชุมพร ระนอง

“ภาคกลาง” ชัยนาท-อุทัยธานี-อยุธยา-ปทุมธานี-อ่างทอง

“ภาคตะวันออก” สระแก้ว

“ภาคอีสาน” สุรินทร์-อุดรธานี-ขอนแก่น-ยโสธร-อุบลราชธานี-ชัยภูมิ-ร้อยเอ็ด-กาฬสินธุ์

 

ผลการชิงชัย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด แทนตำแหน่งที่ว่าง เนื่องจากคนเก่าไขก๊อกก่อนกำหนด ปรากฏว่า 29 สนาม “พรรคภูมิใจไทย” กับ “เพื่อไทย”กวาดสัดส่วนไปพรรคละ 11 จังหวัด โดย “ค่ายสีน้ำเงิน” ซิวไปประกอบด้วย อุทัยธานี อยุธยา ปทุมธานี อ่างทอง ตาก นครศรีธรรมราช ระนอง นครสวรรค์ สุรินทร์ เลย และชัยภูมิ

ขณะที่ “พรรคเสื้อแดง-เพื่อไทย” โกยไปเท่าๆ กัน คือ อุดรธานี ขอนแก่น ยโสธร อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ สุโขทัย พิษณุโลก พะเยา อุตรดิตถ์ กาญจนบุรี

oznorCO_vivi

ที่เหลือ แบ่งปันกันระหว่าง “พลังประชารัฐ” 3 ที่นั่งได้แก่ กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ และสระแก้ว “รวมไทยสร้างชาติ” 3 ที่นั่ง ได้แก่ เพชรบุรี ชุมพร ชัยนาท กล้าธรรมของ “ผู้กองธรรมนัส พรหมเผ่า” 1 ที่นั่ง คือ ราชบุรี

สำหรับ 47 จังหวัดที่จะชิงชัยกันในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ในไม่กี่วันข้างหน้า ประกอบด้วย กระบี่ จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี เชียงราย เชียงใหม่ ตรัง ตราด นครนายก นครปฐม นครพนม นครราชสีมา นนทบุรี นราธิวาส น่าน บึงกาฬ บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี ปัตตานี พังงา พัทลุง พิจิตร แพร่ ภูเก็ต มหาสารคาม มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ยะลา ระยอง ลพบุรี ลำปาง ลำพูน ศรีสะเกษ สกลนคร สงขลา สตูล สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระบุรี สิงห์บุรี สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี หนองคาย หนองบัวลำภู และอำนาจเจริญ

ที่ทำเอาคอการเมืองพากันยืนงงในดงกล้วย มหัศจรรย์ใจมากคือในการทำศึกเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด 29 จังหวัดที่คนเก่าไขก๊อกออกก่อนครบเทอม ปรากฏว่า “พรรคก้าวไกล” หรือที่เปลี่ยนสีเสื้อมาเป็น “พรรคประชาชน” ที่ชนะเลือกตั้งสนามใหญ่ “แชมป์สภาผู้แทนราษฎร” มีฐานมวลชนอยู่ที่จุดคาดการณ์ว่า 40 เปอร์เซ็นต์ทั่วประเทศ

ส่งผู้สมัครลงวัดดวง ชิงดำนายก อบจ.มา 12 สนาม ปรากฏว่า “ปราบเซียน” แพ้ป่าราบ ทั้ง 12 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเลย อบจ.นครสวรรค์-อบจ.พะเยา-อบจ.อยุธยา-อบจ.พิษณุโลก-อบจ.ชัยนาท-อบจ.ราชบุรี-อบจ.สุโขทัย-อบจ.กาญจนบุรี-อบจ.อุดรธานี-และนายก อบจ.อุบลราชธานี

ตรงกันข้าม พรรคเพื่อไทย หลัง “ทักษิณ ชินวัตร” ลงเพดานบินอาสามาเป็น “ผู้ช่วยหาเสียง” ให้กับผู้สมัครนายก อบจ. เกมพลิก สถานการณ์เปลี่ยนไป เห็นจะจะมาแล้วในหลายจังหวัด ล่าสุดก็คือ อุบลราชธานี

ในการเลือกตั้งล็อตใหญ่ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พรรคเพื่อไทยจึงดึง “ทักษิณ” เดินสายขึ้นเหนือ-เยือนอีสาน หวังทวงคืนพื้นที่สีแดง โดยพื้นที่เป้าหมายของเพื่อไทยในคาบนี้จาก 47 สนาม แต่ “เก้าอี้นายก อบจ.คาดหวัง” มี 14 จังหวัด ประกอบด้วย น่าน เชียงราย เชียงใหม่ นายก อบจ.ลำปาง

“ภาคอีสาน” เตรียมยึดฐานที่มั่น 9 ที่หมาย คือ นครราชสีมา สกลนคร บึงกาฬ ศรีสะเกษ มุกดาหาร หนองคาย มหาสารคาม นครพนม อำนาจเจริญ “ภาคตะวันออก” ปราจีนบุรี

พื้นที่เป้าหมายของเพื่อไทยหวังยึดคืน โดยใช้บริการ “บ้านใหญ่” เป็นตัวยืน ผู้สมัครนายก อบจ.แต่ละจังหวัด ประเมินสถานการณ์ก่อนแล้ว แน่ใจว่าต้องดึง “ทักษิณ” ลงไปช่วยหาเสียง มีโอกาสที่จะชนะสูง ซึ่งหวังผลได้ มีโอกาสที่จะชนะเลือกตั้งมากกว่าแพ้ และไว้ใจได้

เชื่อแน่ว่า หาก “ทักษิณ” ในฐานะ “ผู้ช่วยหาเสียง” สามารถยึดหัวหาด อุ้มผู้สมัครนายก อบจ.ได้ตามเป้าที่วางไว้ 14 จังหวัด “เครดิตจะดีขึ้น” นำ 2 สิ่งสำคัญอย่างยิ่งกลับมาได้

“หนึ่ง คือ กระแสนิยมเพื่อไทย สองคือ ยิ่งลักษณ์ กลับบ้านง่ายขึ้นในเดือนเมษายน” แม้จะต้องเข้าเรือนจำก่อนก็ตาม