ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 17 - 23 มกราคม 2568 |
---|---|
คอลัมน์ | ศัลยา ประชาชาติ |
เผยแพร่ |
ในทางการเมือง เวลาของรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร เหลืออีกไม่มาก แค่ 2 ปีครึ่ง ก็จะถึงการเลือกตั้งครั้งใหม่
รัฐบาลจำเป็นต้อง “หารายได้ใหม่” เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เดินหน้านโยบายเรือธงให้เป็นรูปเป็นร่าง พร้อมกับสร้างงานให้คนในประเทศ
Entertainment Complex คือหนึ่งในเมกะโปรเจ็กต์ที่จะมาสร้างรายได้ใหม่ให้ประเทศ ที่นับ 1 อย่างเป็นทางการ หลังจากตั้งไข่ในรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน
ด้วยการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบหลักการให้ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร Entertainment Complex พร้อมกับแผนการตรากฎหมายลำดับรองอีก 24 ฉบับ
“จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สำหรับร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ฉบับนี้ ถือว่าเป็นไปตามแนวนโยบายแห่งรัฐ ข้อที่ 7 คือ เพื่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ โดยเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น (Man-made Destination)
เช่น สวนน้ำ สวนสนุก ศูนย์การค้า สถานบันเทิงครบวงจร นำคอนเสิร์ต เทศกาล และการแข่งขันกีฬาระดับโลกมาจัดในประเทศไทย ไม่ใช่การผลักดันการตั้งกาสิโนถูกกฎหมายขึ้นเพียงอย่างเดียว เพราะจะเป็นแค่ส่วนน้อยเท่านั้น
และที่ประชุม ครม.ยังมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมจากหน่วยงานต่างๆ ในที่ประชุมด้วย เช่น ต้องการให้ผลักดันกีฬาพื้นถิ่นเข้าไปใน Entertainment Complex ด้วย ทั้งมวยไทย หรือไก่ชน
ส่วนรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อระบบเศรษฐกิจว่า ของกระทรวงการคลังประเมินว่า รายได้คาดว่าจะมาจากการท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 1.2-2.4 แสนล้านบาทต่อปี ดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 5-10% โดยเฉพาะการกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวได้อย่างน้อย 13% สามารถลดช่องว่างทางรายได้ระหว่างช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวและนอกฤดูกาลได้แคบลงกว่าเดิม
รวมทั้งเพิ่มรายได้ต่อหัวของนักท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นบาทต่อราย สร้างการจ้างงาน 9,000-15,000 ตำแหน่ง โดยการลงทุนแต่ละจุดจะช่วยสร้างรายได้ให้กับรัฐไม่ต่ำกว่า 1.2-4 หมื่นล้านบาท แม้แต่ช่วงก่อสร้าง Entertainment Complex ยังทำให้ GDP โตตกปีละ 0.2% เนื่องจากมูลค่าการลงทุนโครงการจุดละไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท
อีกด้านหนึ่ง “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวบนเวทีดินเนอร์ทอล์กของ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า จะพยายามจูงใจให้ต่างชาติที่ลงทุน Entertainment Complex จะมีการลงทุนประมาณ 5 แสนล้านบาท เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อเพิ่มซัพพลาย
อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุม ครม.ยังมีข้อห่วงใยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการกฤษฎีกา มีข้อห่วงใยว่า
1. นโยบายการส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เพิ่มแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น (Man-made Destination) หากมุ่งจะพัฒนาพื้นที่เป้าหมายให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น สถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) จึงเป็นเพียง “ส่วนประกอบหนึ่ง” ของแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้นเท่านั้น และอาจมีสถานที่ใดที่จัดให้มีการเล่นกาสิโนด้วยได้ โดยร่างกฎหมายดังกล่าวที่มุ่งหมายเฉพาะสถานบันเทิงครบวงจรนั้นยังไม่สอดคล้องกับนโยบายดังกล่าวของรัฐบาล
2. ต้องกำหนดให้ชัดเจนว่า สถานบันเทิงครบวงจรคือสิ่งใด เพราะแต่ละกิจกรรมมีกฎหมายเฉพาะควบคุมอยู่
3. รายงานผลการศึกษาการเปิดสถานบันเทิงฯ ของสภาผู้แทนราษฎร มุ่งแก้ปัญหาการพนัน ผิดกฎหมาย ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าร่างกฎหมายที่เสนอซึ่งเป็นหลักการเดียวกับผลการศึกษาดังกล่าวจะแก้ไขปัญหาการพนันผิดกฎหมายได้อย่างไร โดยหากจะแก้ไขปัญหาเรื่องการพนันผิดกฎหมายสามารถที่จะดำเนินการได้ตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน หรือแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการพนัน ที่ใช้บังคับมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2478
4. กระทรวงการคลังต้องกำหนดวัตถุประสงค์ให้ชัดเจน เพราะมีความแตกต่างกันในการออกแบบกลไกและโครงสร้างกฎหมาย โดยควรรับฟังความคิดเห็นของภาคส่วนที่เกี่ยวข้องพิจารณา และปรับปรุงร่างให้ตรงวัตถุประสงค์ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี และควรสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องแก่ประชาชนเสียก่อนที่จะเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี
ด้านสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นว่า โครงการดังกล่าวมีบทบาทในการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ก่อให้เกิดการลงทุนและการจ้างงานในธุรกิจหลากหลายประเภท สร้างรายได้ใหม่ให้แก่ภาครัฐผ่านการนำเศรษฐกิจนอกระบบเข้าสู่ระบบได้มากขึ้น ทั้งนี้ มีความเห็นเพิ่มเติม 4 ข้อ
1. การดำเนินธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรควรมุ่งเน้นการพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อสันทนาการสำหรับครอบครัวที่ประชาชนสามารถได้ประโยชน์เป็นสำคัญ โดยการดำเนินธุรกิจที่สุ่มเสียง อาทิ กาสิโน ต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังและให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
2. เงินจากการพนันมีลักษณะเป็น “เงินโอน (Transfer)” จะไม่ถูกนำมาคำนวณเป็นการสร้าง มูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจเนื่องจากไม่ทำให้เกิดผลผลิต (Production) ดังนั้น ธุรกิจกาสิโนอาจจะไม่ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อระบบเศรษฐกิจมากเท่าที่มีการคาดการณ์ไว้
3. การดำเนินธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ควรเน้นการพัฒนาพื้นที่ส่วนใหญ่ในกิจกรรมตามบัญชีแนบท้ายร่างพระราชบัญญัติเป็นลำดับแรก โดยหากมีธุรกิจกาสิโนร่วมอยู่ด้วยจะต้องเป็นพื้นที่ส่วนน้อยของการพัฒนาทั้งโครงการ
4. ธุรกิจกาสิโน เป็นธุรกิจที่มีนัยต่อการพัฒนาประเทศในหลายมิติ โดยเฉพาะผลกระทบด้านลบต่อสังคม ประกอบกับหลายภาคส่วนยังคงเห็นต่างกับแนวทางการดำเนินการ ดังนั้น กระทรวงการคลังควรศึกษาผลประโยชน์และผลกระทบให้มีความชัดเจนและระดมความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ ตลอดจนศึกษาทางเลือกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่อาจมีผลกระทบทางสังคมน้อยกว่าเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศในภาพรวมต่อไป
ขณะที่ความเห็นของหน่วยงานสำคัญๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเป็นแม่งานด้านท่องเที่ยว ไม่ขัดข้องต่อร่างพระราชบัญญัติ แต่มีความเห็นเพิ่มเติมว่าการลงทุนในธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรต้องคำนึงถึงผลกระทบอย่างครอบคลุมในทุกมิติ และควรส่งเสริมให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างการท่องเที่ยวคุณภาพสูงรูปแบบอื่น
ขณะที่กระทรวงมหาดไทยนั้น มีเพียงขออำนาจให้ มท.1 ร่วมรักษาการในกฎหมาย
“ไม่ขัดข้องในหลักการของร่างพระราชบัญญัติ อย่างไรก็ตาม สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้จะกระทบต่อภารกิจของกระทรวงมหาดไทยค่อนข้างมาก จึงอาจพิจารณาให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยทำหน้าที่รักษาการร่วมในร่างพระราชบัญญัตินี้ ดังนั้น จึงควรพิจารณาให้มีกระบวนการออกกฎหมายที่มีการขับเคลื่อนร่วมกันเพื่อประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และคงไว้ซึ่งหน้าที่และอำนาจของเจ้าพนักงานตามกฎหมายอาญาสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่สถานบันเทิงครบวงจร”
ด้านกระทรวงยุติธรรม มีข้อห่วงใย 3 ข้อคือ
1. การเดินทางเข้าประเทศของคนต่างด้าวที่คาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น อาจจะนำมาซึ่งปัญหาอาชญากรรม จึงควรกำหนดแนวทางการจัดการและมาตรการควบคุมความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นให้ชัดเจน
2. อายุของผู้ใช้บริการที่กำหนดให้มีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี ไม่ครอบคลุมช่วงวัยของนิสิตและนักศึกษา จึงควรมีมาตรการป้องกันเยาวชนและบุคคลกลุ่มดังกล่าว เพื่อให้กฎหมายฉบับนี้มีการป้องกันที่รัดกุมมากขึ้น
และ 3. ควรแสดงให้เห็นถึงความคุ้มค่าที่คาดว่าจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะมิติการลดความเสี่ยงทางผลกระทบ ที่จะส่งผลต่อครอบครัว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคมเพิ่มมากขึ้นจากการดำเนินธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร
ต้องย้ำว่า Entertainment Complex เกิดแน่ในรัฐบาลแพทองธาร
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022